แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ซื้อประกันรถทั้งที ต้องเปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างไรบ้าง ?

ผู้เขียน : คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care

close
Published January 17, 2022

อยากจะซื้อประกันรถทั้งที มือใหม่หัดขับทั้งหลายจะเลือกประกันรถยนต์อย่างไรดีนะ? หรือถ้าอยากเปลี่ยนประกันรถที่ใช้มานาน จะต้องเปรียบเทียบข้อมูลประกันรถอย่างไรบ้าง ให้ได้ประกันรถยนต์ใหม่ที่ตรงใจ ได้เบี้ยประกันรถยนต์ที่ประหยัดเงินในกระเป๋า วันนี้ แรบบิท แคร์ เอง จะมาแชร์ทริคต่าง ๆ ที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลยดีกว่า

ข้อมูลบริษัทประกันฯ

จัดเป็นข้อมูลสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแต่ละบริษัทประกันฯมีจุดเด่น และการให้บริการที่ไม่เหมือนกัน มีขนาดสาขาที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงโปรโมชั่น ส่วนลด เงื่อนไขในการทำประกันรถยนต์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การเปรียบเทียบประกันจึงจำเป็นมาก เพราะนอกจากจะได้ตัวเลือกเยอะขึ้น ได้บริษัทประกันฯที่เชื่อถือ มั่นคง เบิกเคลมง่ายแล้ว ยังช่วยให้คุณได้ทั้งเงื่อนไข บริการต่าง ๆ ที่ตรงใจ และเหมาะกับรถยนต์ของคุณมากที่สุด

โดยการจะเลือกบริษัทประกันรถฯที่ตรงใจได้ อาจจะเลือกจากชื่อเสียงของบริษัทประกัน ลองอ่านรีวิวของแต่ละบริษัทจากผู้ใช้งานจริง หรือจะใช้บริการเปรียบเทียบข้อมูลบริษัทรถยนต์จากโบรกเกอร์ประกันภัยที่น่าเชื่อถือ อย่าง แรบบิท แคร์ ที่มาพร้อมกับบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้หลายแห่งพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเปรียบเทียบจากเบี้ยประกันรถยนต์หรือความคุ้มครองรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ความคุ้มครองของประกันรถ

นอกเหนือจากข้อมูลด้านบริษัทประกันแล้ว ความคุ้มครองของประกันรถก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดค่าเบี้ยประกันรถได้มาก และช่วยให้การต่อประกันรถแต่ละครั้งง่ายดายขึ้นด้วย ส่วนการเลือกหรือเปรียบเทียบความคุ้มครองให้กับรถยนต์ คุณอาจจะเปรียบเทียบจากหลากหลายปัจจัยของตัวรถยนต์ ทั้ง อายุรถยนต์, การใช้งานต่าง ๆ ใช้ขับขี่ในเมือง หรือทางไกล หรือแม้แต่ความชำนาญของผู้ขับ

เช่น คุณมีรถยนต์ที่อายุที่มากกว่า 10 ปี แบบนี้บางบริษัทอาจจะไม่รับทำประกันรถชั้น 1 แล้ว และถ้ารถยนต์ที่คุณใช้งาน เป็นรถยนต์ที่นาน ๆ ทีขับขี่ แต่ยังต้องการขั้นความคุ้มครองสูง ๆ คุณอาจเปลี่ยนเป็นประกันรถชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 2 ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียง และมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง แลกกับความคุ้มครองที่จำกัดวงมากขึ้นนั่นเอง

บริการต่าง ๆ ที่จะได้รับ

แต่ละบริษัทประกันนั้น จะมีบริการเสริมอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงความรวดเร็วต่าง ๆ ในการให้บริการด้วย ดังนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรให้เปรียบเทียบในการค้นหาประกันรถยนต์ ก็คือบริการต่าง ๆ นี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น 

  • ติดต่อได้ง่าย สามารถเลือกซื้อได้หลากหลายช่องทาง ทั้งแบบ ประกันรถธรรมดา และการซื้อแบบประกันออนไลน์ รวมไปถึงมีผู้ให้บริการที่พร้อมรับสายตอบปัญหาและรับแจ้ง
  • ความสะดวกในการชำระเบี้ยประกันรถยนต์ ควรเลือกชำระได้หลากหลายช่องทาง หรือสามารถผ่อนประกันรถยนต์ที่มีเบี้ยแพง เพื่อความคล่องตัวในเรื่องของการเงิน
  • บริการในการออกใบเสร็จ หรือการส่งมอบกรมธรรม์
  • บริการพนักงานที่มาถึงจุดเกิดเหตุต้องมาถึงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ทั้ง การทำงาน หรือการเจรจากับคู่กรณี
  • บริการการประสานงานส่งซ่อม
  • อู่ฯ หรือศูนย์ซ่อมฯ ควรได้มาตราฐาน มีอะไหล่ ช่างฝีมือดี และมีหลากหลายสาขาให้ได้เข้ารับบริการ
  • บริการเสริมอื่น ๆ เช่น บริการรถลากเมื่อรถยนต์ไม่สามารต์ใช้งานได้, บริการเติมน้ำมันฟรี หรือบริการให้คำแนะนำระหว่างการเกิดอุบัติเหตุ

เบี้ยประกันภัยรถยนต์

เพราะเบี้ยประกันรถยนต์ เป็นสิ่งที่คุณจะต้องจ่ายในทุก ๆ ปี และแน่นอนว่าแค่บริษัทประกันต่างกัน หรือความคุ้มครองคนละชั้นก็จะทำให้เบี้ยประกันแตกต่างกันได้แล้ว จริงอยู่ที่การกำหนดเรื่องเบี้ยประกันรถจะมากน้อยแค่ไหน ล้วนขึ้นอยู่กับประเภทของประกัน ความคุ้มครอง และทุนประกันที่เราเลือกไว้ ส่วนปัจจัยเรื่องสภาพรถยนต์ ไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ หรือแม้แต่อายุของผู้ขับ ก็อาจส่งผลต่อเบี้ยประกันได้ หรือคุณอาจจะเลือกจากงบประมาณเบี้ยประกันรถยนต์ที่กำหนดไว้ เช่น 

  • งบต่ำกว่า 4,000 บาท เหมาะกับประกันชั้น 3+ (สำหรับบางบริษัท) หรือประกันรถชั้น 3 ที่เน้นคุ้มครองเฉพาะคู่กรณี  และเหมาะกับรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือมีอายุรถยนต์มากแล้ว
  • งบไม่เกิน 7,000 บาท เหมาะกับประกันชั้น 2 หรือประกันชั้น 3+ งบกลาง ๆ แต่ยังต้องการความคุ้มครองเพิ่มมากกว่าประกันชั้น 3  หรือความคุ้มครองเสริมอื่น ๆ 
  • งบไม่เกิน 10,000 บาท เหมาะกับประกันภายชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองมาก ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ยังต้องการความคุ้มครองมากเป็นพิเศษอยู่
  • งบมากกว่า 10,000 บาท ขึ้นไป เหมาะกับประกันรถชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแทบทุกอุบัติเหตุ สามารถเคลมสด เคลมแห้งได้ และคุ้มครองถึงเรื่อง รถหาย รถไฟไหม้ และบางแห่งยังให้คุณผ่อนประกันรถยนต์

จะเห็นได้ว่า มีข้อมูลหลากหลายที่เราต้องใช้ในการประกอบการพิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลประกันรถยนต์ เบื้องต้นแล้ว ทาง แรบบิท แคร์ แนะนำว่าควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันต่าง ๆ อย่างน้อย 3 บริษัท พร้อม ๆ กับพิจารณาความน่าเชื่อถือ ความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อและประสานงาน และแก้ปัญหาต่าง ๆ รวมไปถึงเบี้ยประกันรถยนต์ จะช่วยให้คุณได้ประกันที่ตรงใจ ราคาถูก ได้มากขึ้น

แต่ถ้าการค้นหาข้อมูลปริมาณมาก ๆ แบบนี้ อาจทำให้คุณไม่มีเวลาในการรวบรวมมากพอ ก็สามารถเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ที่ให้คุณเลือกซื้อประกันออนไลน์ได้ง่ายดาย เพียงปลายนิ้ว คลิกเลย!


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ


บทความแคร์เรื่องประกันยานยนต์

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ประกันรถหาย มอเตอร์ไซค์ ราคาเท่าไหร่ และคุ้มครองอะไรบ้าง

เคยจินตนาการตอนที่เราต้องเจอสถานการณ์รถมอเตอร์ไซค์หายกันไหม? นี่จึงเป็นเหตุผลที่ ประกันรถหาย มอเตอร์ไซค์ มีความสำคัญขึ้นมาอย่างโดดเด่น
Thirakan T
17/04/2024

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

หมากัดรถทำยังไงดี? สามารถเคลมประกันได้หรือไม่

เห็นคำว่าหมากัดรถหลายคนอาจจะยังจินตนาการได้ไม่ออก ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นมาเพราะอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีโอกาสขึ้นสูงมาก
Thirakan T
25/03/2024

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ขั้นตอนการฟ้องคดีรถชนพร้อมกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ. จราจรที่ต้องรู้

เมื่อเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุรถชน ฝั่งผู้กระทำผิดปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ยอมรับผิด หรือค่าสินไหมทดแทนไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
Thirakan T
18/03/2024