มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา ยังน่าใช้งานอยู่หรือไม่ในปัจจุบัน?
แม้ว่าปัจจุบันมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้แบบ CVT จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังเลือกใช้งานมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดากันอยู่ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกท่านได้ทราบว่ามอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดามีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ทำไมหลายคนถึงยังเลือกใช้งานอยู่ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อมาใช้งาน
การทำงานของระบบมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา
มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาหรือเกียร์แมนนวล เป็นมอเตอร์ไซค์มีเกียร์แบบใช้คลัตช์ ซึ่งการทำความเร็วขณะวิ่งจะต้องใช้มือเข้าคลัตช์ที่แฮนด์ซ้ายทุกครั้ง พร้อมกับใช้เท้าเปลี่ยนระดับเกียร์ควบคู่กันไป โดยต้องเข้าคลัตช์ให้เหมาะสมตั้งแต่การออกตัวไม่เช่นนั้นเครื่องยนต์จะดับ เมื่อเพิ่มความเร็วก็ต้องตบเกียร์ไล่ระดับให้สูงขึ้น จากเกียร์ 1 ไล่ไปยังเกียร์ 2 ไปจนเกียร์สุดท้าย ขณะเดียวกันเมื่อต้องการลดความเร็วก็ต้องไล่ระดับเกียร์ลดลงมาจนถึงเกียร์ 1 เช่นกัน มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาจึงต้องใช้ความชำนาญในการขับขี่ ต่างกับเกียร์อัตโนมัติที่ขับง่ายกว่ามาก
ข้อดีและข้อเสียของมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา
ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาขายอยู่หลายรุ่น แม้ว่ามอเตอร์ไซค์เกียร์แมนนวลจะเก่ากว่าแต่ก็ยังได้รับความนิยมจากหมู่นักขับ เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่างที่เหนือชั้นกว่าระบบเกียร์ออโต้ ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียให้ทราบดังนี้
ข้อดีของมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา
- ดูแลรักษาง่ายเนื่องจากใช้ระบบโซ่ในการขับเคลื่อน ระบบการทำงานซับซ้อนน้อยกว่าและใช้ชิ้นส่วนอะไหล่น้อยกว่าเกียร์ออโต้
- ซ่อมง่าย อะไหล่ไม่แพง ค่างานซ่อมถูก หาร้านซ่อมได้ทั่วไป
- อายุการใช้งานเยอะ คงทน
- สามารถทำความเร็วได้ดี เพราะระบบลูกโซ่ทำให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วอันแม่นยำ สามารถควบคุมความเร็วได้ดั่งใจคนขับ เหมาะสำหรับสายทำความเร็ว
- มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาสามารถใช้เกียร์ต่ำขับขี่ขึ้น-ลง เขาได้ดี
- ประหยัดน้ำมันกว่ารถเกียร์ออโต้
ข้อเสียของมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา
- ต้องเปลี่ยนเกียร์และคลัตช์อยู่เสมอ ทำให้ขับขี่ยาก ไม่เหมาะกับมือใหม่
- ไม่เหมาะกับการขับขี่ในสภาพจราจรติดขัดเพราะต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ ออกตัวช้า ผู้ขับขี่อาจเกิดความเมื่อยล้า
- ระบบขับเคลื่อนเสียงดัง อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับขี่
มอเตอร์ไซค์มีเกียร์ขับยังไง ฝึกยากหรือไม่?
แม้ว่าการขับขี่มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาจะไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ แต่หากฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ให้เกิดความชำนาญคุณ ก็สามารถขับขี่ได้โดยไม่ยากจนเกินไป ซึ่งเราได้สรุปขั้นตอนการขับขี่มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาจาก Wikihow มาให้ทุกท่านได้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
- เรียนรู้ตำแหน่งระบบการเปลี่ยนเกียร์ก่อน โดยคลัตช์จะอยู่ที่แฮนด์ซ้ายของรถ คันเร่งขับเคลื่อนจะอยู่แฮนด์ขวา ส่วนคันเกียร์จะอยู่เท้าซ้าย
- การเปลี่ยนเกียร์ หากใช้เท้าตบเกียร์จนสุดจะเป็นเกียร์ 1 และหากใช้เท้างัดเกียร์ขึ้นมาจะเป็นเกียร์ 2 และเกียร์ 3 ตามลำดับไปจนถึงเกียร์สุดท้าย และถ้าจะปรับเกียร์ลงก็ให้ใช้เท้าเหยียบไล่ระดับแทน
- ขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทรถ ให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ตัว N สีเขียวบนแผงหน้าปัด
- เบารอบเครื่องยนต์ ใช้มือบีบคลัตช์ให้สุด แล้วใช้เท้าซ้ายตบเข้าเกียร์ 1 พร้อมค่อย ๆ เร่งเครื่องยนต์ จากนั้นปล่อยคลัตช์ รถของคุณจะค่อย ๆ เริ่มเดินหน้า
- ทำความเร็วโดยการเบารอบเครื่องยนต์ บีบคลัตช์ แล้วใช้เท้างัดเกียร์ขึ้นมาเป็นเกียร์ 2 และหากต้องการทำความเร็วเพิ่มขึ้นก็ให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 และเกียร์ 4 ตามลำดับ (การเปลี่ยนเกียร์ให้บีบคลัตช์และผ่อนเครื่องทุกครั้ง)
- หากต้องการลดเกียร์ก็ให้บีบคลัตช์เหมือนเดิม แล้วใช้เท้าเหยียบคันเกียร์ลดระดับลงมา จากเกียร์ 3 เป็นเกียร์ 2 และเกียร์ 1 ตามระดับ
- เมื่อต้องการหยุดรถ ให้ลดระดับเกียร์ตามจังหวะจนถึงเกียร์ 1 แล้วให้เข้าเกียร์ว่าง พร้อมแตะเบรกได้เลย
จะเห็นได้ว่าแม้มอเตอร์ไซค์มีเกียร์จะมีขั้นตอนการขับขี่มากมาย แต่ถ้าฝึกใช้งานไปเรื่อย ๆ จนเกิดความชำนาญ การใช้มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาก็จะไม่ยากอีกต่อไป
ซื้อมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดารุ่นไหนดี?
ปี 2023 นี้มีรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาให้เลือกมากมาย ซึ่งแรบบิท แคร์ จะมาแนะนำรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาหรือเกียร์แมนนวลรุ่นยอดนิยมให้ทุกท่านเลือกพิจารณาใช้งานดังนี้
- Honda Wave 110i เป็นมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาที่ราคาจับต้องได้ การันตีจากปากผู้ใช้งานหลายคนว่ามีความแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการขับขี่ ตัวเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 110 CC ระบบหัวฉีด PGM-FI SOHC แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ พอเหมาะกับการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ประหยัดน้ำมันสูงถึง 76.9 กม./ลิตร มีขนาดความจุถังน้ำมัน 5 ลิตร สบายใจเมื่อต้องใช้วิ่งทางไกล ราคาขายอยู่ที่ 37,100 บาท
- Yamaha-FINN เป็นมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ดีไซน์ดูโฉบเฉี่ยว คมเข้ม ตามสไตล์คนรุ่นใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกสูบเดี่ยว SOHC แบบ 4 จังหวะ ขนาด 115 CC พร้อมด้วยสมองกล ECU ทำให้ประหยัดน้ำมัน สามารถใช้ควบคู่กับน้ำมัน E 20 ได้ ขับขี่ง่ายด้วยระบบเกียร์วน 4 ระดับ พร้อมกับถังน้ำมันขนาด 4 ลิตร ราคาขายอยู่ที่ 41,000 บาท
- Yamaha-Exciter 155 ถ้าคุณอยากยกระดับการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น เราขอแนะนำมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา รุ่น Yamaha-Exciter 155 ที่มีฟังก์ชันครบครัน มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ SOHC 4 วาล์ว 4 จังหวะ ขนาด 155 ซีซี ระบบเกียร์แมนนวล 6 เกียร์ Constant Mesh Assist & Slipper Clutch ให้กำลังสูงสุด 17.7 แรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.4 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที เหมาะสำหรับชาวสองล้อขาซิ่งเป็นอย่างยิ่ง ราคาขายอยู่ที่ 74,000 บาท
- Honda Super Cub C125 Honda Super Cub โฉมใหม่ มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาที่มาพร้อมกับความคลาสสิกย้อนยุค เหมาะกับคนชื่นชอบมอเตอร์ไซค์มีเกียร์สไตล์วินเทจ สำหรับรถรุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ SOHC แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี พร้อมเกียร์แมนนวล 5 ระดับ แบบเกียร์วน ตัวรถทำจากวัสดุพรีเมี่ยม มีการประกอบอย่างประณีต ขับขี่สบาย พร้อมระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ โดยมีราคาขายอยู่ที่ 89,000 บาท
- Suzuki Smash 115 Fi FV115JA หากใครกำลังมองหามอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาสำหรับขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ขอแนะนำรุ่นนี้เลยเพราะมีราคาถูก เครื่องขนาดพอเหมาะ 115 ซีซี ทำงานร่วมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ หัวฉีด Fi อัจฉริยะ ขับขี่ได้อย่างประหยัดน้ำมัน อีกทั้งขนาดและน้ำหนักตัวรถก็ไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับการใช้งานในตัวเมือง Suzuki Smash รุ่นนี้สนนราคาอยู่ที่ 39,000 บาท
ปัจจุบันนี้ซื้อมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาหรือออโต้ดีกว่ากัน?
ขอแนะนำว่าให้พิจารณาจากความชื่นชอบของคุณเป็นหลัก ถ้าคุณอยากได้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ง่าย ต้องการขับขี่สะดวกสบายในเมือง หรือเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดขับขี่มอเตอร์ไซค์ เราขอแนะนำให้ใช้งานมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้ เนื่องจากเป็นมิตรกับการขับขี่มากกว่า
แต่ถ้าคุณต้องการฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ต้องตบเกียร์ตามสไตล์ชาวไบค์เกอร์ หรือต้องการมอเตอร์ไซค์ที่มีความแข็งแรงคงทน เน้นใช้งานยาวนาน หรือมีความชำนาญในการขับขี่อยู่แล้ว การเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดามาใช้งานก็น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด สรุปก็คือมอเตอร์ไซค์เกียร์แมนนวลยังคงน่าซื้อใช้งานในปัจจุบันถ้าหากคุณชื่นชอบในคุณสมบัติและเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดานั่นเอง
มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา ควรเลือกทำประกันชั้นไหนดี?
ไม่ว่าคุณจะใช้งานมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้ ก็แนะนำว่าให้คุณดูพฤติกรรมการขับขี่และมูลค่ารถมอเตอร์ไซค์ของคุณเป็นเกณฑ์ก่อนเลือกซื้อประกันภัย หากคุณเพิ่งถอยมอเตอร์ไซค์คันใหม่มาใช้งาน หรือซื้อบิกไบค์คันละเป็นแสน เราก็แนะนำให้ทำประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด แต่ถ้าคุณใช้งานมอเตอร์ไซค์คันเก่า มีความชำนาญในการขับขี่แล้ว หรือใช้มอเตอร์ไซค์ไม่บ่อย อยากประหยัดเบี้ยประกัน คุณก็สามารถเลือกทำประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ หรือ 3+ ได้เช่นกัน ส่วนค่าเบี้ยประกันมอเตอร์ไซค์ของแต่ละคนนั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นกับรุ่นรถ และประวัติของผู้ขับขี่
สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการซื้อมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดามาแล้วคือเลือกทำประกันมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากประกันภัยจะให้ความคุ้มครองคุณทั้งค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุ การจ่ายเงินเพียงไม่กี่พันบาทต่อปีเพื่อรับความคุ้มครองมูลค่านับแสนจึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เลือกซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ที่จ่ายเบี้ยน้อย แต่ได้รับความคุ้มครองสูง พร้อมบริการรวดเร็วทันใจ ปรึกษาแรบบิท แคร์ได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง!
ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์
ตารางความคุ้มครอง | ผลประโยชน์ | ||||
---|---|---|---|---|---|
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3 | |
คู่กรณี | |||||
บุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
ทรัพย์สินของคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
รถของผู้เอาประกันภัย | |||||
การชนแบบมีคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
การชนแบบไม่มีคู่กรณี | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
ไฟไหม้ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
รถหาย | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
ภัยธรรมชาติ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ |
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล | |||||
อุบัติเหตุส่วนบุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การรักษาพยาบาล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การประกันตัวผู้ขับขี่ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |