E-Donation บริจาคออนไลน์ได้เพียงปลายนิ้ว
สำหรับผู้ที่ต้องเสียภาษีแล้ว ในปัจจุบัน มีตัวเลือกและช่องทางมากมายที่สามารถให้เราทำการบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษีได้ หนึ่งในช่องทางที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการบริจาคเงินแก่องค์กรต่าง ๆ ที่รับบริจาคนั่นคือช่องทาง E-Donation เพราะบางคนอาจคิดว่าการบริจาคเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก มีหลายขั้นตอน
ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพูดถึงว่า E-Donation คืออะไร วิธีการบริจาคผ่านระบบ E-Donation E Donation ลดหย่อนภาษี 2 เท่า จริงหรือไม่ แล้วต่างจากการบริจาคลดหย่อนภาษี 2 เท่าอย่างไร และช่องทางอื่นที่สามารถใช้เพื่อลดหย่อนภาษีได้
E-Donation คืออะไร
จาก ข้อมูลของกรมสรรพากรเรื่องระบบ E-Donation ระบุไว้ว่าการบริจาคแบบ E-Donation คือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้รองรับข้อมูลการรับบริจาคและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่ทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาคสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ โดยที่ไม่ต้องนำหลักฐานในการบริจาคแสดงต่อกรมสรรพากร หน่วยรับบริจาคที่สามารถบริจาคเงินให้ได้มีอยู่ 4 ประเภท ได้แก่ สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานพยาบาล และองค์กรสาธารณกุศล โดยสามารถตรวจสอบหน่วยรับบริจาคได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรโดยตรง และผู้บริจาคสามารถตรวจสอบเงินบริจาคที่บริจาคผ่านระบบ E-Donation ได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้ด้วยเช่นกัน
วิธีการบริจาคผ่านระบบ E-Donation
วิธีการบริจาคผ่านระบบ E-Donation มีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ วิธีบริจาคผ่านทาง QR Code และวิธีบริจาคด้วยเงินสดที่หน่วยรับบริจาคโดยตรง โดยวิธีบริจาคผ่านทาง QR Code จะต้องทำการบริจาคผ่านธนาคารด้วยแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคารต่าง ๆ ที่มีระบบรองรับการบริจาค E-Donation ผู้บริจาคจะต้องกรอกข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลเข้าระบบ E-Donation เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี
เมื่อบริจาคเรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะส่งเงินที่ได้รับบริจาคให้กับหน่วยรับบริจาคและส่งข้อมูลการบริจาคจากผู้เสียภาษีหรือผู้บริจาคเข้าระบบ โดยที่จะมีการบันทึกข้อมูลการบริจาคภายใน 2 วันทำการ ซึ่งหากบริจาคผ่านทาง QR Code หน่วยรับบริจาคไม่จำเป็นที่จะต้องกรอกข้อมูลการบริจาคเข้าระบบด้วยตนเอง ที่สำคัญ ป้ายที่แสดง QR Code สำหรับการบริจาคจะต้องมีข้อมูลหรือข้อความที่แสดงถึงชื่อของหน่วยงานที่เป็นหน่วยรับบริจาคนั้น ๆ ให้กับผู้บริจาคทราบ และมีข้อความว่า “E-Donation” แสดงอยู่เสมอ
สำหรับวิธีบริจาคด้วยเงินสดที่หน่วยรับบริจาคโดยตรง ผู้บริจาคสามารถบริจาคเงินด้วยเงินสดได้ตามเดิม อย่างไรก็ตาม สำหรับวิธีนี้ ทางหน่วยรับบริจาคจะต้องเป็นผู้กรอกข้อมูลการบริจาคจากผู้เสียภาษีหรือผู้บริจาคเข้าสู่ระบบ เพื่อที่ทางระบบจะนำข้อมูลการบริจาคส่งต่อให้กับกรมสรรพากรเพื่อดำเนินการต่อไป
E-Donation ลดหย่อน 2 เท่าจริงหรือไม่
สำหรับคำถามที่ว่าด้วยการบริจาค E-Donation ลดหย่อน 2 เท่า จริงหรือไม่ จาก ข้อมูลของคณะรัฐมนตรี เรื่องการขยายเวลาลดหย่อนภาษี 2 เท่า กล่าวไว้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.) และภาษีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ทำการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่หน่วยรับบริจาคด้านสาธารณสุข เพื่อพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข โดยสามารถบริจาค ลดหย่อนภาษีผ่านระบบ E-Donation ได้ ซึ่งสำหรับบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ และหักลดหย่อนภาษีเป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่ทำการบริจาคให้แก่หน่วยบริจาค
รวมไปถึงบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลก็จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น ยังมีหน่วยรับบริจาคอื่น ๆ ที่สามารถบริจาคเพื่อได้รับการลดหย่อนภาษี 2 เท่าผ่านระบบ E-Donation เช่น หน่วยงานหรือองค์กรด้านการกีฬา และสถานศึกษา ยกตัวอย่างเช่น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานหรือหน่วยรับบริจาคบางหน่วยไม่สามารถบริจาคเพื่อรับการลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้ สำหรับบุคคลธรรมดาที่ต้องการบริจาคเงินให้กับหน่วยงานที่สามารถทำการบริจาคเพื่อรับการลดหย่อนภาษี 2 เท่า สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยรับบริจาคที่สามารถบริจาคเพื่อรับการลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร รายชื่อสำหรับหน่วยรับบริจาคเพื่อลดหย่อนเงินภาษี
E-Donation ต่างจากการบริจาคลดหย่อนภาษี 2 เท่าธรรมดาอย่างไร
เมื่อพูดถึงการบริจาคแบบ E-Donation กับการบริจาคลดหย่อนภาษี 2 เท่าแบบธรรมดา ข้อสำคัญที่การบริจาคแบบ E-Donation แตกต่างจากการบริจาคแบบธรรมดา นั่นคือความสะดวกสบายในการยื่นข้อมูลเพื่อทำการลดหย่อนภาษีกับกรมสรรพากร
หากเป็นการบริจาคแบบธรรมดา จะต้องมีการเก็บข้อมูลและหลักฐานการบริจาคทุกครั้งที่ทำการบริจาค ลดหย่อนภาษี ทั้งตัวผู้เสียภาษีหรือผู้บริจาค และผู้รับบริจาค โดยฝั่งของผู้บริจาคจะต้องเก็บหลักฐานการบริจาคทั้งหมดเพื่อยื่นเอกสารสำหรับการยื่นเรื่องขอลดหย่อนภาษีกับกรมสรรพากร และทางฝั่งผู้รับบริจาคเองก็จะต้องบันทึกข้อมูลการบริจาคในแต่ละครั้งด้วย โดยส่วนใหญ่แล้ว ภายในหนึ่งหน่วยบริจาคจะมีผู้บริจาคให้กับหน่วยรับบริจาคมากพอสมควร ทำให้ทางหน่วยบริจาคอาจเกิดปัญหาในการจัดเก็บข้อมูลการบริจาคของผู้บริจาคแต่ละคน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาข้อมูลสูญหายได้
แต่สำหรับการบริจาคแบบ E-Donation ทั้งผู้เสียภาษีหรือผู้บริจาค และผู้รับบริจาคสามารถวางใจได้ว่าข้อมูลการบริจาคผ่านระบบ E-Donation จะได้รับการบันทึกเข้าสู่ระบบออนไลน์อย่างครบถ้วน ผู้บริจาคไม่จำเป็นต้องเก็บหลักฐานในการบริจาคแต่ละครั้ง เพราะข้อมูลการบริจาคจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบเรียบร้อย โดยเฉพาะการบริจาคผ่านช่องทาง QR Code
หรือหากทำการบริจาคกับหน่วยรับบริจาคที่ใช้งานระบบ E-Donation ด้วยเงินสด ก็สามารถใช้ระบบในการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริจาคให้กับผู้บริจาคแต่ละคนได้ ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ทั้งสองฝ่าย และสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา อีกทั้ง กรมสรรพากรยังสามารถนำข้อมูลจากระบบไปใช้ในกระบวนการต่อไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้การบริจาคผ่านระบบ E-Donation มีความน่าเชื่อถือและสะดวกสบายกว่าการบริจาคแบบธรรมดาเป็นอย่างมาก
ช่องทางอื่นที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
นอกจากการบริจาคผ่านระบบ E-Donation แล้ว ยังมีช่องทางอื่นที่สามารถใช้เพื่อลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยเฉพาะการซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ซึ่งประกันที่สามารถซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีได้มีด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่ ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันภัยโรคร้ายแรง และประกันการดูแลระยะยาว ซึ่งประกันอุบัติเหตุเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลเมื่อมีการสูญเสียอวัยวะ เกิดการทุพพลภาพ ส่วนประกันสุขภาพจะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ รวมไปถึงมีการชดเชยเงินในกรณีที่สูญเสียอวัยวะ ได้รับทุพพลภาพจากการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ
สำหรับประกันโรคร้ายแรง จะให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง โดยรายละเอียดและเงื่อนไขของความคุ้มครองของประกันประเภทต่าง ๆ เป็นไปตามกรมธรรม์กำหนดไว้ ซึ่งการเลือกซื้อประกันเหล่านี้สามารถเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีได้ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ก่อนทำการเลือกซื้อประกันแต่ละประเภท เพื่อให้ตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด
จากความรู้ของการบริจาคแบบ E-Donation ทำให้เราได้ทราบว่าการบริจาคแบบ E-Donation คืออะไร มีวิธีการบริจาค E-Donation อย่างไรบ้าง E-Donation ลดหย่อน 2 เท่าได้จริงหรือไม่ การบริจาค ลดหย่อนภาษีแบบ E-Donation แตกต่างจากการบริจาคแบบธรรมดาอย่างไร และนอกเหนือจากการบริจาคแบบ E-Donation ยังมีช่องทางอื่นที่สามารถใช้เพื่อลดหย่อนภาษีหรือไม่ แน่นอนว่าการบริจาคเงินให้กับหน่วยรับบริจาคต่าง ๆ ถือเป็นผลดี เพราะนอกจากเราจะสามารถบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษีได้ ทางองค์กรหรือหน่วยงานที่รับบริจาคก็สามารถนำเงินบริจาคที่ได้รับไปพัฒนาองค์กรได้ด้วย โดยเฉพาะองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านการกีฬา เพราะองค์กรเหล่านี้ล้วนเป็นองค์กรที่สามารถพัฒนาประเทศชาติของเราให้ดียิ่งขึ้น
หากต้องการเลือกซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ ควรเลือกซื้อประกันที่ให้สิทธิประโยชน์ให้กับเราได้ตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด โดยแรบบิท แคร์ สามารถมอบตัวเลือกประกันจากบริษัทต่าง ๆ ชั้นนำเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ โดยหากเลือกซื้อประกันจากแรบบิท แคร์ สามารถเลือกซื้อแผนประกันภัยต่าง ๆ พร้อมรับความคุ้มครองจากประกันที่เลือกซื้อไว้ภายใน 1 วัน เมื่อผ่านการพิจารณาเงื่อนไขตามที่บริษัทประกันภัยกำหนดไว้ สุดท้ายนี้ อย่าลืมบริจาคผ่านระบบ E-Donation เพื่อได้รับการลดหย่อนภาษี 2 เท่า
ประกันชีวิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ