Adjuster คือใคร เกี่ยวข้องอะไรกับประกันภัย

เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แน่นอนว่าหากเรามีความคุ้มครองภายใต้ประกันภัย จะมีอยู่หนึ่งคนที่นับว่าเป็นคนกลางประกันภัย มีหน้าที่เพื่อทำการเจรจา ตกลงค่าสินไหมทดแทน หรือพูดคุยกันในเรื่องความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เค้าจะถูกเรียกว่า Adjuster นั่นเอง

จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า Adjuster คือ ผู้เจรจาตกลง หรือบุคคลผู้ซึ่งกระทำการเพื่อผู้รับประกันภัยหรือผู้เอาประกันภัย ในการตกลงเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทน หรือความรับผิดชอบของผู้รับประกันภัย ซึ่งผู้เจรจาตกลง อาจจะเป็นพนักงานของผู้รับประกันภัยหรือเป็นผู้ประกอบการโดยอิสระและผู้รับประกันภัยว่าจ้างให้เจรจาตกลงความเสียหายเฉพาะราย หรือเป็นหน่วยงานเฉพาะ ในการเจรจาตกลงความเสียหายที่ผู้รับประกันภัยว่าจ้างก็ได้เช่นกัน ทำให้ Adjuster จึงถือว่ามีความสำคัญในขั้นตอนของการเคลมประกัน เนื่องจากจะต้องเป็นผู้เจรจาตกลงเรื่องค่าสินไหมทดแทนนั่นเอง

Loss Adjuster หรือ Claims Adjuster คือผู้ประเมินวินาศภัย เป็นผู้ประกอบการโดยอิสระที่เชี่ยวชาญเรื่องสินไหมทดแทน จะถูกมอบหมายโดยผู้รับประกันหรือบริษัทประกัน ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทประกัน สำหรับกรณีที่ต้องเจรจาตกลงการเรียกสินไหมทดแทนที่มีความซับซ้อนหรือมีกรณีฟ้องร้องเกิดขึ้น ที่บริษัทประกันจะต้องเป็นผู้จ่าย โดยผู้ประเมินวินาศภัยจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประเมินวินาศภัยจากนายทะเบียนและขึ้นทะเบียนต่อสำนักงาน คปภ. (มาตรา 35/2) และต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ (มาตรา 35/6)

• 1. เพื่อยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของการเรียกร้องสินไหมทดแทน ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาเงื่อนไขการเอาประกัน และมีการเดินทางไปยังพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
• 2. เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องของการซ่อมแซม ซึ่งจะมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อม และอาจจะแนะนำอู่ซ่อมในเครือบริษัทประกันนั้นๆ
• 3. ออกรายงานหรือใบประเมินความเสียหายให้แก่บริษัทประกัน รวมไปถึงเจรจาต่อรองขอบเขตของความรับผิดชอบของบริษัทประกัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดว่า ผู้ประเมินวินาศภัย หรือ ผู้ประเมินวินาศภัยต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากลจากบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงในปัจจุบันส่วนใหญ่รวมตัวกันในรูปแบบนิติบุคคลอยู่แล้ว ซึ่งลักษณะของนิติบุคคลต้องเป็นไปตามที่คปภ. กำหนดดังนี้

• ต้องเป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด
• มีฐานะการเงินมั่นคงโดยมีผู้ถือหุ้นได้ใช้เงินในหุ้น หรือมีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
• มีสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขาในประเทศไทย
• มีผู้ตรวจสอบและประเมินวินาศภัยที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์

เมื่อเกิดวินาศภัยตามประเภทและจำนวนเงินเอาประกันตามที่ประกันภันกำหนด คู่สัญญาประกัน จะเลือก Loss Adjuster หากมีการตกลงเลือก Loss Adjuster ได้แล้ว บริษัทจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย แต่หากคู่สัญญาตกลงเลือกผู้ประเมินวินาศภัยไม่ได้ กรณีนี้ คู่สัญญาของแต่ละฝ่ายจะต้องเลือกผู้ประเมินวินาศภัยของตนเอง และแต่ละฝ่ายต้องเป็นผู้รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่าย ซึ่ง Loss Adjuster จะเข้ามามีบทบาทในขั้นตอนของการสำรวจ ตรวจสอบความเสียหาย เพื่อคำนวณมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง อีกทั้งยังจัดส่งรายงานผลการสำรวจและการคำนวณมูลค่าความเสียหายไปยังบริษัทประกันภัย เพื่อพิจารณาสินไหมภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าผู้ประเมินวินาศภัยถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในระบบประกันภัย เพราะนับว่าเป็นคนกลางประกันภัย ในการประเมินและเจรจาค่าสินไหมทดแทนอย่างเป็นธรรม รวมถึงสนับสนุนป้องกันการฉ้อโกงด้านประกันภัย ทำให้ Loss Adjuster มีผลเป็นอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบประกันภัย

และจากข้อมูลล่าสุดของคปภ. พบว่า คปภ. เอง ก็มีการพัฒนาและส่งเสริมการให้บริการที่เกี่ยวกับคนกลางประกันภัยรวมถึงผู้ประเมินวินาศภัยด้วย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Licensing ที่เป็นระบบในการให้บริการการออกใบอนุญาต Loss Adjuster การให้บริการข้อมูล การขอต่ออายุใบอนุญาต เป็นต้น เพื่อให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถยื่นเอกสารต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยคปภ.ได้ตั้งเป้าหมาย E-Licensing ให้แล้วเสร็จในปี 2566