เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: Jun 14, 2023
แก้ไขโดยNok Srihongวันที่แก้ไข: Aug 19, 2024
รวมเรื่องบัตรเดบิตที่ควรรู้ ตอบทุกข้อสงสัย
บัตรเดบิต หรือ Debit Card เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของทุกคน น้องแคร์เชื่อเหลือเกินว่ามีหลายคนที่เกิดความสงสัยว่าเรื่องว่าบัตรเดบิต คืออะไร? กันอย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้จะขออาสาพาทุกคนไปรู้จักกับบัตรประเภทนี้กันให้มากขึ้นทั้งที่ว่าบัตรใบนี้คืออะไร? บัตรเดบิต คือ บัตร atm หรือไม่? ไปจนถึงเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ที่เป็นข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คน รับรองได้เลยว่าเมื่ออ่านเนื้อหานี้จบทุกคนจะรู้จักกับบัตรเดบิตกันมากขึ้นอย่างแน่นอน
บัตรเดบิต คืออะไร? สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง?
บัตรเดบิต คือ บัตรที่ทางธนาคารออกให้โดยที่บัตรนี้ถูกผูกโยงไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือ Debit Card ซึ่งตัวบัตรเดบิตสามารถใช้ทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ทางการเงินผ่านเครื่อง ATM ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงิน โอนเงิน สอบถามยอดบัญชีคงเหลือ และสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการไม่ว่าจะเป็นที่ร้านค้าที่รองรับการใช้งานบัตรเดบิต หรือว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งเป็นกระบวนการการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากแบบอัตโนมัติ ซึ่งผู้ที่ถือหรือใช้บัตรเดบิตจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี ตามอัตราต่าง ๆ ที่ธนาคารเป็นคนกำหนด
ข้อดีของบัตรเดบิต
- ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก ช่วยลดความเสียหายจากเหตุไม่คาดฝัน
- ช่วยให้การใช้จ่ายทางธุรกรรมเป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว
- สามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้ไม่ว่าจะเป็นการกดเงินสดหรือชำระสินค้า
- เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมการใช้จ่ายของตัวเอง
ข้อเสียของบัตรเดบิต
- อาจเกิดความเสียหายจากกรณีที่มีผู้อื่นนำบัตรไปใช้ชำระเงิน
บัตรเดบิตเหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่อยากควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินจากที่กำหนดไว้ เพราะการใช้จ่ายจะตัดผ่านยอดเงินในบัญชีทันทีไม่สามารถใช้เงินเกินที่ตัวเองมีได้
เหมาะกับคนที่ยังไม่อยากทำบัตรเครดิต หรือยังไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ เนื่องจากเพียงแค่คุณมีอายุ 15 ปีขึ้นไป และมีบัญชีเงินฝากธนาคารอยู่คุณก็สามารถเปิดบัตรเดบิตได้กับธนาคารดังกล่าวแล้ว ซึ่งง่ายกว่าการสมัครบัตรเครดิตที่มีเงื่อนไขซับซ้อนกว่า
บัตรเดบิต คือ บัตร ATM ใช่หรือไม่ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
บัตรเดบิต (Debit Card) ถ้าจะให้พูดอย่างเข้าใจได้ง่าย ๆ นั่นก็คือบัตร ATM ที่ได้มีการเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานเข้ามา โดยที่บัตรทั้งสองประเภทนี้ต่างเป็นบัตรที่ออกโดยธนาคาร และผูกไว้กับบัญชีเงินฝากทั้งคู่ และนอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่เหมือนกันตรงที่สามารถใช้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านเครื่อง ATM หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ก็มีข้อแตกต่างที่บัตร Debit สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- บัตรเดบิตสามารถที่จะใช้รูดซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้
- สามารถนำไปชำระค่าสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ได้
- สามารถนำบัตรเดบิตไปใช้ในต่างประเทศได้ไม่ว่าจะเป็นการกดเงินสดหรือรูดจ่ายค่าสินค้าและบริการ ในขณะที่บัตร ATM สามารถกดเงินได้แค่ภายในประเทศ
บัตรเดบิตหรือบัตร ATM หายต้องทำอย่างไรบ้าง?
บัตรเดบิตเป็นบัตรที่ควรรักษาไว้กับตัวอย่างดี แต่ถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันบัตรหายหรือถูกขโมยไปคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ อย่างแรกที่ควรปฏิบัติคือตั้งสติก่อนลองค้นหาดูอีกรอบว่าบัตรหายไปจริง ๆ หรือไม่ ซื้อถ้ายืนยันได้ว่าบัตรนั้นหายไปจริง ๆ ก็มีขั้นตอนในการปฏิบัติดังนี้
- ติดต่อทางธนาคารทำเรื่องอายัดบัตรไม่ว่าจะเป็นการโทรไปที่ธนาคาร ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันซึ่งสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อทำการอายัดบัตรก็ได้
- ดำเนินการสมัครบัตรใหม่
วงเงิน บัตรเดบิต คือ อะไร? ใช้เงินเกินได้หรือไม่?
วงเงินบัตรเดบิตคือจำนวนเงินสูงสุดที่ถูกจำกัดการใช้ในแต่ละวันไม่ให้เกินจำนวนเงินดังกล่าวนั่นเอง เช่นถ้าเรามีเงินเป็นจำนวน 10,000 บาท แต่วงเงินบัตรเดบิตถูกจำกัดไว้ที่ 6,000 บาท เราจะไม่สามารถใช้ได้เงินจำนวนนี้ โดยวงเงินการใช้บัตรเดบิตธนาคารจะกำหนดมาเป็นวงเงินจำนวนหนึ่ง ผู้ที่ถือบัตรเดบิตสามารถปรับแก้ในภายหลังได้ ซึ่งถือว่าเป็นการคุมค่าใช้จ่ายและยังเป็นการจำกัดความเสียหายเมื่อบัตรถูกขโมยหรือถูกใช้โดยผู้อื่นอีกด้วย
แต่ก็อย่าลืมว่า Debit Card เป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตร ทุกการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามจะเป็นการดึงเอาเงินในบัญชีที่ผูกไว้ออกมาใช้จ่าย หรืออาจจะสรุปได้ว่าเราไม่สามารถใช้บัตรเดบิตได้เกินวงเงินในบัญชีที่ตัวเองมีนั่นเอง จึงเหมาะกับคนที่ต้องการคุมการใช้จ่ายอยู่ในงบที่กำหนด
แต่ก็อย่าลืมว่า Debit Card เป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตร ทุกการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามจะเป็นการดึงเอาเงินในบัญชีที่ผูกไว้ออกมาใช้จ่าย หรืออาจจะสรุปได้ว่าเราไม่สามารถใช้บัตรเดบิตได้เกินวงเงินในบัญชีที่ตัวเองมีนั่นเอง จึงเหมาะกับคนที่ต้องการคุมการใช้จ่ายอยู่ในงบที่กำหนด
CVV บัตรเดบิต คืออะไร? มีไว้ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
CVV บัตรเดบิต คือ ชุดตัวเลขที่อยู่บนบัตรเดบิตโดยมาจากคำเต็มคือ Card Verification Value เป็นตัวเลขที่สถาบันการเงินกำหนดขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ โดยจะใช้เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตนเมื่อมีการทำธุรกรรมออนไลน์ทางการเงินด้วยบัตรเดบิตนั่นเอง
โดยตัวเลขชุดนี้จะเป็นตัวเลขจำนวน 3 ตัว อยู่ที่ด้านหลังของ Debit Card บริเวณด้านขวาของแถบเซ็นลายมือชื่อนั่นเอง ซึ่งเลข CVV บัตรเดบิตเปรียบเสมือนกับเลขประจำตัวของบัตร ที่ทางธนาคารจะเป็นผู้กำหนดเอาไว้ ผู้ใช้บัตรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง
ซึ่งการใช้ตัวเลขชุดนี้ในกรณีชำระค่าใช้จ่ายออนไลน์ โดยหลังจากที่กรอกตัวเลย 16 หลักที่บัตร และวันหมดอายุของบัตรลงไปในระบบแล้ว ก็ถึงคราวของการกรอกตัวเลข 3 หลักนี้
โดยตัวเลขชุดนี้จะเป็นตัวเลขจำนวน 3 ตัว อยู่ที่ด้านหลังของ Debit Card บริเวณด้านขวาของแถบเซ็นลายมือชื่อนั่นเอง ซึ่งเลข CVV บัตรเดบิตเปรียบเสมือนกับเลขประจำตัวของบัตร ที่ทางธนาคารจะเป็นผู้กำหนดเอาไว้ ผู้ใช้บัตรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง
ซึ่งการใช้ตัวเลขชุดนี้ในกรณีชำระค่าใช้จ่ายออนไลน์ โดยหลังจากที่กรอกตัวเลย 16 หลักที่บัตร และวันหมดอายุของบัตรลงไปในระบบแล้ว ก็ถึงคราวของการกรอกตัวเลข 3 หลักนี้
บัตรเดบิต Visa และ Mastercard คืออะไร? เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง?
บัตรเดบิต Visa และ Mastercard คือ Debit Card ที่ออกให้โดยสถาบันทางการเงินหรือธนาคาร โดยที่ร่วมมือกับเครือข่ายทางการเงินอย่าง Visa และ Mastercard ซึ่งหน้าที่ของเครือข่ายทางการเงินของทั้ง 2 บริษัทจะเป็นการทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่างร้านค้าหรือบริการต่าง ๆ กับธนาคารเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องที่ง่าย
ตัว VISA เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสำหรับการชำระเงินผ่านบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการใช้บัตรเดบิต Visa จะให้ความปลอดภัยทางการเงินแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับในการชำระเงินทั่วโลก ทำให้เมื่อเดินทางไปต่างประเทศเพื่อน ๆ สามารถใช้บัตร Visa กับร้านค้าที่รับบัตรกว่า 28 ล้าน ร้านค้า สามารถกดเงินสดได้กว่า 2 ล้านตู้จาก 200 ประเทศทั่วโลก
ส่วน Mastercard ก็เป็นเครือข่ายทางการเงินที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเหมือนกับ VISA โดยอำนวยความสะดวกสบายด้านการเงิน รวมถึงให้ความปลอดภัยเมื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ จนเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับจากกว่า 30 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก เมื่อถึงเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต Mastercard ได้อย่างสบายใจ
ตัว VISA เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสำหรับการชำระเงินผ่านบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการใช้บัตรเดบิต Visa จะให้ความปลอดภัยทางการเงินแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับในการชำระเงินทั่วโลก ทำให้เมื่อเดินทางไปต่างประเทศเพื่อน ๆ สามารถใช้บัตร Visa กับร้านค้าที่รับบัตรกว่า 28 ล้าน ร้านค้า สามารถกดเงินสดได้กว่า 2 ล้านตู้จาก 200 ประเทศทั่วโลก
ส่วน Mastercard ก็เป็นเครือข่ายทางการเงินที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเหมือนกับ VISA โดยอำนวยความสะดวกสบายด้านการเงิน รวมถึงให้ความปลอดภัยเมื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ จนเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับจากกว่า 30 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก เมื่อถึงเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต Mastercard ได้อย่างสบายใจ
Card Holder Name บัตรเดบิต คืออะไร?
Card Holder Name บัตรเดบิต คือ ชื่อของเจ้าของบัญชีที่ผูกกับบัตร Debit ไว้ โดยเราจะต้องใช้เวลาที่เราจะต้องชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการออนไลน์ โดยจะต้องการชื่อบัญชีของเจ้าของบัตรให้ถูกต้องนั่นเอง
บัตรเดบิตก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมทางการเงินของเพื่อน ๆ ให้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างในเรื่องอย่างการจำกัดจำนวนเงิน ที่เราจะสามารถใช้ได้ไม่เกินจำนวนเงินที่มีในบัญชีเงินฝากของเรา ซึ่งต่างจากบัตรเครติดตรงที่วงเงินที่ใช้ได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในบัญชีของเรา และทุกการใช้จ่ายของบัตรเครดิตยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้คุณได้เลือกใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นเครดิตเงินคืน ส่วนลดค่าน้ำมัน บริการพิเศษที่สนามบิน ซึ่งที่ยกมาเป็นเพียงแค่บางส่วนของสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเท่านั้น หากสนใจสมัครบัตรเครติดก็สามารถมาสมัครได้ที่แรบบิท แคร์ กันได้เลย
บัตรเดบิตก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมทางการเงินของเพื่อน ๆ ให้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างในเรื่องอย่างการจำกัดจำนวนเงิน ที่เราจะสามารถใช้ได้ไม่เกินจำนวนเงินที่มีในบัญชีเงินฝากของเรา ซึ่งต่างจากบัตรเครติดตรงที่วงเงินที่ใช้ได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในบัญชีของเรา และทุกการใช้จ่ายของบัตรเครดิตยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้คุณได้เลือกใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นเครดิตเงินคืน ส่วนลดค่าน้ำมัน บริการพิเศษที่สนามบิน ซึ่งที่ยกมาเป็นเพียงแค่บางส่วนของสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเท่านั้น หากสนใจสมัครบัตรเครติดก็สามารถมาสมัครได้ที่แรบบิท แคร์ กันได้เลย
บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ