สัญญาณอันตราย หากมีอาการแบบนี้อาจเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ

คุณเคยเป็นหรือไม่กับอาหารที่อยู่ ๆ ก็ชาตามมือ เท้า หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไม่ทราบสาเหตุ หากเป็นบ่อยครั้งอย่าปล่อยไว้เฉย ๆ เพราะอาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งนับเป็นโรคอันตรายร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคุณ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คุณเป็นโรคร้ายดังกล่าวนี้ แรบบิท แคร์ ขอแชร์ข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับโรคปลายประสาทอักเสบมาให้คุณดังต่อไปนี้

โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy) นั้น เป็นโรคที่เกิดจากความเสียหายของระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งเป็นความเสียหายที่มาจากเส้นประสาทบริเวณไขสันหลังและสมอง เส้นประสาทบริเวณนี้จะทำหน้าที่ส่งคำสั่งไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบจะรู้สึกชาหรือเจ็บแปลบตรงบริเวณปลายเท้าและตามมือ

โรคปลายประสาทอักเสบนั้นมักพบในผู้ป่วยที่มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป เนื่องจากเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน การทำงานของเส้นประสาทก็มีความเป็นได้ที่จะเสื่อมตามอายุขัย นอกจากนี้โรคร้ายบางชนิดอาจส่งผลกระทบให้เกิดปลายประสาทอักเสบได้ด้วย โดยเฉพาะโรคเบาหวานซึ่งผู้ป่วยเป็นเบาหวานมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มักพบว่าเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ, โรคที่ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยผิดปกติ, โรคขาดสารอาหาร, ผู้ที่ได้รับสารพิษอันตรายเข้าสู่ร่างกาย, รวมถึงการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตามร่างกายก็อาจส่งผลกระทบให้ปลายประสาทอักเสบได้เช่นกัน

ผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบจะใช้ชีวิตในชีวิตประจำวันลำบากขึ้น การเคลื่อนไหวจะติดขัด เกิดอาการอ่อนแรงและชาตามมือและเท้า อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายปัสสาวะ และการไหลเวียนของเลือด เป็นต้น

ผู้ป่วยที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบมีจะมีสัญญาณตามอาการที่ปรากฏให้เห็นมากมาย ทางเราได้รวบรวมอาการปลายประสาทอักเสบโดยอ้างอิงจากโรงพยาบาลสมิติเวชมาสรุปให้ได้ทราบดังนี้

• 1. มีอาการเหน็บชา รู้สึกชา หรือรู้สึกเสียวแปลบ ๆ ที่บริเวณเท้าและมือ บางกรณีอาการเจ็บอาจลามไปถึงแขนและขาได้
• 2. บริเวณมือและเท้ามีการรับความรู้สึกน้อยลง
• 3. ผิวหนังรู้สึกไวต่อการสัมผัสเป็นพิเศษ รู้สึกสะดุ้งเมื่อมีวัตถุมาสัมผัสผิวหนัง
• 4. บริเวณผิวหนังรู้สึกแสบ ๆ เหมือนถูกเข็มจิ้มซ้ำ ๆ กัน
• 5. รู้สึกปวดบริเวณตามขา แขน และลำตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ
• 6. กล้ามเนื้อรู้สึกอ่อนแรง เวลาเคลื่อนไหวต้องใช้แรงเยอะกว่าปกติ
• 7. ร่างกายเสียสมดุลได้ง่าย รักษาการทรงตัวไม่ค่อยได้ เดินเซและหกล้มง่าย
• 8. ผิวหนังรู้สึกไวต่อความร้อน
• 9. เหงื่อออกเยอะมากเป็นพิเศษ หรือไม่สามารถขับเหงื่อได้
• 10.มีอาการเวียนหัวและหน้ามืดจากภาวะความดันโลหิตต่ำ
• 11.มีปัญหาเกี่ยวกับระบบอวัยวะย่อยอาหาร ท้องผูก ท้องเสีย ย่อยยาก เช่น กระเพาะ ลำไส้ ไปจนถึง กระเพาะปัสสาวะ
• 12.ความดันโลหิตต่ำ
• 13.รู้สึกปวดบริเวณเท้าเมื่อเดิน หรือลงน้ำหนักที่เท้า
• 14.รู้สึกปวดข้อมือเมื่อทำกิจกรรมนาน ๆ
  
  

สาเหตุที่เกิดอาการเช่นนี้เนื่องจากตัวระบบประสาทที่เชื่อมต่อกับผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายนั้นมีการทำงานบกพร่อง การรับความรู้สึกจึงผิดแปลกไปจากปกติ อาการที่ปรากฏนั้นจะขึ้นกับว่าผู้ป่วยนั้นเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ณ ระบบประสาทประเภทไหน ยกตัวอย่างเช่น หากเกิดการอักเสบที่ เส้นประสาทรับความรู้สึกก็จะส่งผลต่อการรับความรู้สึก การสัมผัสตามผิวหนัง อุณหภูมิ และการสัมผัส แต่ถ้าเกิดการอักเสบที่เส้นประสาทสั่งการก็จะมีการบกพร่องต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเกิดกับเส้นประสาทอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับอวัยวะภายใน ก็จะทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะภายในบกพร่อง เช่น ความดันโลหิต ระบบย่อยอาหาร ระบบขับเหงื่อ ระบบการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

ดังนั้นหากคุณสำรวจตนเองแล้วพบว่ามีอาการดังกล่าว ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด หากพบว่าร่างกายมีการทำงานผิดปกติก็จะได้วางแผนรักษาต่อไป

โรคปลายประสาทอักเสบนั้นหากอาการไม่รุนแรงมาก จะสามารถรักษาได้ด้วยการดูแลตนเองซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ทั้งนี้เราแนะนำให้คุณไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าคุณเป็นโรคดังกล่าวนี้ในระดับใด โดยแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติและเช็กอาการ รวมถึงตรวจร่างกายบริเวณที่เกิดอาการ ทั้งนี้แพทย์อาจมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด เช่น ตรวจการทำงานของเส้นประสาท NCV (ตรวจด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อวัดค่าความแข็งแรงของเส้นประสาท), การตรวจด้วยคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ EMG (ตรวจด้วยการแทงเข็มเข้าสู่ผิวหนัง เพื่อวัดคลื่นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ), การทำ CT-Scan, การทำสแกน MRI, การเอกซเรย์, การตรวจการทำงานของระบบประสาทส่วนอื่น ๆ เป็นต้น

เมื่อทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว แพทย์จะวางแผนรักษาโรคปลายประสาทอักเสบของคุณให้เหมาะสม ซึ่งการรักษาจะทำเพื่อบรรเทาอาการ โดยจะมีแนวทางดังนี้

• หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง แพทย์จะใช้ยาบรรเทาอาการปวด เช่น กลุ่มยาแก้ปวด NSAIDs ควบคู่ไปกับยาบรรเทาอาการอักเสบ รวมถึงใช้ยาทาหรือยาแปะตามร่างกาย ณ บริเวณจุดที่ปวด
• ถ้าใช้ยาแก้ปวดไม่ได้ผล แพทย์อาจใช้ยารักษาที่มีส่วนประกอบของ Opioid ซึ่งกลุ่มยานี้จะต้องอยู่ในการดูแลและจ่ายยาโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด
• สำหรับผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบเสื่อมอาการรุนแรง แพทย์จะเพิ่มระดับวิธีการรักษาตามแนวทางดังนี้
• ใช้วิธีการรักษาด้วยการนำกระแสไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนัง โดยจะต้องทำเป็นประจำทุกวัน ครั้งละประมาณ 30 นาที ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน
• ใช้วิธีเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง ซึ่งเป็นการนำ Antibody และโปรตีนออกจากเลือดผู้ป่วย
• ให้อิมมูโนโกลบูลิน ซึ่งจะเป็นการให้โปรตีนกับผู้ป่วยที่เป็นโรคปลายประสาทเสื่อม เพื่อยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน
• หากป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบจากการกดทับของเส้นประสาท แพทย์อาจเลือกใช้วิธีผ่าตัดเพื่อรักษา
• รักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว

แม้ว่าโรคปลายประสาทอักเสบจะสามารถบำบัดและรักษาหายได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่ แต่ทั้งนี้ผู้ที่เป็นปลายประสาทอักเสบอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมา เช่น การเป็นแผลที่บริเวณเท้า การติดเชื้อจากบาดแผลทำให้กล้ามเนื้อตาย เส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของหัวใจล้มเหลวฉับพลัน ระบบการไหลเวียนของเลือดผิดปรกติ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติของเส้นประสาทจะได้รีบรักษาทันที

ทั้งนี้เพื่อป้องกันให้คุณเสี่ยงเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ เราจึงขอแนะนำให้ทานวิตามินบี 1, วิตามินบี 6, และวิตามินบี 12 รวมถึงหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ตลอดจนรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นั่งหรือนอนให้ถูกท่าไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งร่างกายไปกดทับกันเอง พยายามหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารน้ำตาลสูง

หากพบว่ามีอาการเส้นปลายประสาทอักเสบและรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้องก็สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งแพทย์จะวางแผนเลือกแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม ในระหว่างการรักษาผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ลดทานอาหารมันและน้ำตาลสูง ทานอาหารที่มีวิตามิน ออกกำลังกายเบา ๆ และทำกายภาพตามแผนที่กำหนด เพียงเท่านี้ก็จะหายจากโรคปลายประสาทอักเสบได้ หรืออย่างน้อยก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงตอนก่อนป่วย

โรคปลายประสาทอักเสบนั้นเป็นหนึ่งในโรคที่คุณควรพึงระวัง เพราะนอกจากจะทำให้คุณเจ็บป่วยหรือใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้วโรคนี้ยังมีค่ารักษาแพง ผู้ป่วยหนักจะต้องเข้ารับการรักษาเฉพาะทางจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นการทำประกันสุขภาพไว้ก่อนจึงเป็นแนวทางคุ้มครองคุณไปอีกชั้น เพราะประกันจะจ่ายค่ารักษาให้กับคุณในกรณีที่เป็นโรคปลายประสาทเสื่อมตามวงเงินแผนประกันภัย ช่วยให้คุณเซฟค่าใช้จ่ายไปได้หลายบาท รวมถึงประกันสุขภาพยังคุ้มครองค่ารักษาโรคภัยอื่น ๆ อีกด้วย เลือกทำประกันสุขภาพที่ราคาคุ้มค่าพร้อมได้รับความคุ้มครองที่ตรงใจ เลือกทำประกันกับแรบบิท แคร์