อยากเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถใหม่จะต้องทำอย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้าง?

เชื่อว่าหลาย ๆ คนกำลังมีความต้องการที่จะอยากเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถ ชำรุดบ้าง อยากเปลี่ยนเลขทะเบียนรถใหม่บ้าง หรือว่าป้ายทะเบียนหล่นหายระหว่างทางบ้าง ซึ่งก็จะมีคำถามตามมาอีกว่าจะมีวิธีการอย่างไร ขั้นตอนยุ่งยากไหม และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เพราะว่าป้ายทะเบียนรถนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่า รถยนต์คันนี้มีความแตกต่างจากรถยนต์คันอื่นอย่างไรบ้าง นอกจากในเรื่องของสีรถยนต์ รุ่นของรถยนต์ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่เจ้าของรถได้ทำการติดตกแต่งเอาไว้ อีกทั้งเจ้าของรถยนต์นั้นก็จำเป็นที่จะต้องต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อทะเบียนรถยนต์ในทุก ๆ ปี ดังนั้นป้ายทะเบียนรถจึงมีความสำคัญมาก เพราะถ้าหากจะเปรียบระหว่างคนเราที่จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันตัวตนแล้ว รถยนต์ก็จำเป็นจะต้องมีป้ายทะเบียนรถไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการระบุถึงที่มาของรถยนต์ในแต่ละคันเหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากเราดำเนินการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์กับทางขนส่งเรียบร้อยแล้ว และได้มีการทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ก็อย่าลืมไปแจ้งกับทางประกันรถยนต์ที่เราทำไว้ด้วย เพราะถ้าหากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้ดำเนินการเคลมเร็ว ไม่ล่าช้าไปมากกว่าปกติ

หลังจากที่เรามีเลขทะเบียนรถที่ถูกใจแล้ว อันดับต่อไปเราก็จะต้องเตรียมเอกสารเพื่อไปดำเนินการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถตามขั้นตอนที่กรมการขนส่งทางบกต่อ โดยที่รถยนต์ในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานครนั้น จะสามารถติดต่อได้ที่อาคาร 2 กรมการขนส่งทางบก ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด ที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่จังหวัดรับผิดชอบได้เลย

เอกสารที่ใช้เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถใหม่มีดังนี้

• บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาของเจ้าของรถคนปัจจุบัน
• เล่มทะเบียนรถตัวจริงพร้อมสำเนา
• หลักฐานที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของเลขทะเบียนรถใหม่
• หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล(ในกรณีที่ดำเนินการในนามของนิติบุคคล)
• หนังสือมอบอำนาจ(ในกรณีที่เจ้าของรถไม่สามารถเดินทางมาทำเรื่องเองได้)
  
  

ขั้นตอนในการขอเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถใหม่มีดังนี้

• ดำเนินการจองหมายเลขทะเบียนใหม่ได้ที่เว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบกที่ https://reserve.dlt.go.th/reserve/v2/ หรือประมูลเลขทะเบียนรถได้ที่ www.tabienrod.com
• เตรียมเอกสารในรายการข้างต้นดังกล่าวให้พร้อม สำหรับยื่นเรื่องที่กรมการขนส่งทางบก
• ต้องดำเนินการจดทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วันหลังจากที่ได้รับป้ายทะเบียนมาแล้ว เพราะถ้าหากเกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ จะถูกยกเลิกป้ายทะเบียนรถทันที
• ไปจดทะเบียนพร้อมรับป้ายทะเบียนรถ และชำระเงินค่าป้ายทะเบียนรถให้เรียบร้อย
• นำใบเสร็จรับเงินพร้อมกับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ไปดำเนินการจดทะเบียนรถให้เสร็จสิ้นที่กรมการขนส่งทางบก

ในกรณีที่เราต้องการแค่อยากจะเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ โดยที่ยังเป็นรถยนต์คันเดิมอยู่ และเลขทะเบียนก็ยังใช้เป็นเลขเดิมอยู่ หรือต้องการที่จะสลับเลขทะเบียนรถยนต์กับคนในครอบครัวนั้น ก็จะมีวิธีการที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นตอน นั่นก็คือการเตรียมเอกสารของเจ้าของทะเบียนรถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกับมีเอกสารยินยอมในการสลับเปลี่ยนเลขทะเบียนรถยนต์เพิ่มเข้ามานั่นเอง ส่วนขั้นตอนอื่น ๆ นั้นก็จะเหมือนกับในกรณีแรกที่เราต้องการจะเปลี่ยนเลขทะเบียนรถยนต์ไปเลย โดยสามารถดาวน์โหลดใบคำขอ หรือเอกสารแบบฟอร์มต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกด้วยตนเองได้เลย และสำหรับในกรณีที่เป็นการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถใหม่ที่ยังไม่เคยใช้กับรถยนต์คันไหนมาก่อน ก็จะมีเงื่อนไขในการยื่นเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นมา คือภาษีของรถยนต์คันนั้นจะต้องมีอายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป หากน้อยกว่านี้ แนะนำว่าให้ต่ออายุภาษีรถยนต์ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยดำเนินการยื่นเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ตามปกติ

เอกสารที่ใช้สลับทะเบียนรถมีดังนี้

• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ
• บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
• หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
• บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (กรณีนิติบุคคล)
• หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีเจ้าของรถไม่สะดวกดำเนินการ)
• บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
• แผ่นป้ายทะเบียนเดิม (กรณีสลับแผ่นป้ายทะเบียนคนละเขตพื้นที่)

เบื้องต้นในกรณีที่ป้ายทะเบียนรถเกิดการชำรุด หล่นหาย หรือสีลบเลือน เจ้าของรถยนต์สามารถยื่นคำขอเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถทดแทนได้เลย โดยการเตรียมแผ่นป้ายอันเดิมที่ชำรุดหรือสีลบเลือน และเล่มจดทะเบียนรถพร้อมสำเนา กับบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถพร้อมสำเนา(หากเจ้าของรถไม่ได้มาทำเรื่องด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจมาด้วย) ส่วนค่าใช้จ่ายจะมีในส่วนของค่าคำขอ 5 บาท และค่าป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น 200 บาท ส่วนรถมอเตอร์ไซค์จะมี 1 แผ่น 100 บาท แต่ถ้าเกิดในกรณีที่ป้ายทะเบียนรถหล่นหาย อันนี้จะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจก่อน แล้วค่อยดำเนินเรื่องต่อไปตามขั้นตอนปกติ

สำหรับค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมของการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถที่ได้มีการขอจองผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกนั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500 บาท และสำหรับค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมในการจองเลขป้ายทะเบียนรถที่ได้จากการประมูลมานั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,500 บาท และในส่วนของการออกค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถใหม่ สำหรับรถยนต์ที่ยังไม่เคยมีแผ่นป้ายทะเบียนมาก่อนนั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100 บาท และจะมีค่าคำขออื่น ๆ อีก 75 บาท สรุปแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 675-1,675 บาท

• ค่าขอสลับป้ายทะเบียนรถธรรมดา: 500 บาท
• ค่าขอสลับป้ายทะเบียนรถที่ได้จากการประมูล: 1,500 บาท
• ค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถ (กรณีขอแผ่นป้ายใหม่): 100 บาทต่อแผ่น
• ค่าคำขออื่น ๆ: 75 บาท

เบื้องต้นจะมี 2 ขั้นตอนหลัก ๆ นั่นก็คือการแจ้งย้ายรถออกและการแจ้งย้ายรถเข้า ดังนี้

• การแจ้งย้ายรถออก
  ขั้นตอนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะแจ้งย้ายออกที่ต้นทางจังหวัดเดิม หรือว่าปลายทางในจังหวัดที่ต้องการจะย้าย หากแจ้งย้ายรถออกที่จังหวัดเดิม ก็จะต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งของจังหวัดเดิมที่จดทะเบียนอยู่ โดยการเตรียมเอกสารสำหรับการแจ้งย้ายรถออก 3 อย่าง คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ สำเนาทะเบียนบ้าน และเล่มจดทะเบียนรถ พร้อมกับเตรียมเงิน 55 บาท ที่จะใช้เป็นค่าคำขอ 5 บาท และค่าย้ายรถออกอีก 50 บาท โดยทั้งนี้จะต้องแจ้งย้ายรถออกก่อนจะถึงวันที่กำหนดเสียภาษี และเมื่อแจ้งย้ายรถออกเรียบร้อยแล้วก็จะต้องรีบดำเนินการแจ้งย้ายรถเข้าภายใน 15 วัน เพราะถ้าหากเกินระยะเวลาที่กำหนดแล้วนั้น จะต้องมีเสียค่าปรับเพิ่มด้วย แต่ถ้าหากแจ้งย้ายรถออกที่ปลายทาง เมื่อได้รับหนังสือแจ้งย้ายรถออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการนัดหมายวันที่จะต้องเข้ามาดำเนินการย้ายรถเข้าอีกครั้ง พร้อมกับจะต้องนำรถไปตรวจสอบและทำการคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม จากนั้นจึงดำเนินการตามขั้นตอนปกติ คือเตรียมเอกสารทั้ง 3 อย่างเหมือนเดิมและค่าธรรมเนียม 55 บาทเท่าเดิม จากนั้นก็จะต้องรีบดำเนินการแจ้งย้ายรถเข้าภายใน 15 วัน เพราะถ้าหากเกินระยะเวลาที่กำหนดแล้วจะต้องมีเสียค่าปรับตามที่กำหนดไว้
• การแจ้งย้ายรถเข้า
  สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่ต้องการย้ายได้ตามปกติ โดยการเตรียมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เล่มจดทะเบียนรถ และแผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม พร้อมกับเงินค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท ค่าคำขอ 5 บาท ค่าใบแทนการเสียภาษี 20 บาท และค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น 200 บาท(ถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ก็จะ 1 แผ่น 100 บาท)
  
  

ข้อควรรู้ : ป้ายทะเบียนรถของคุณระบุจังหวัดใด ภาษีรถยนต์ที่ชำระไปจะถูกนำไปใช้ในการบำรุงและพัฒนาเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ของจังหวัดนั้น ๆ

จริง ๆ แล้วนั้น ถ้าหากว่าเราลืมแจ้งกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ว่าได้มีการไปเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์มา ก็ยังสามารถได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และก็ยังสามารถขอเคลมได้ตามปกติ เพียงแต่แค่อาจจะมีระยะเวลาในการดำเนินการที่ล่าช้ามากกว่าปกติ เพราะว่าทางบริษัทจะต้องมีขั้นตอนเข้าไปทำการตรวจสอบเลขที่ตัวถังของรถยนต์ เพื่อนำมายืนยันว่ารถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์คันเดียวกันกับที่ระบุไว้ในกรมธรรม์หรือไม่ โดย

สามารถทำได้ แต่จะต้องรอให้ครบ 3 เดือนก่อน นับตั้งแต่วันที่จองเลขทะเบียนรถยนต์คันล่าสุด โดยจะอ้างอิงจากเลขประจำตัวและรายละเอียดของรถที่จองเลขทะเบียน จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถใหม่ได้

เบื้องต้นให้รีบติดต่อกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ได้ทำไว้ ว่าได้มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถมา เพื่อจะได้ตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นรถคันเดียวกันจริง ซึ่งบริษัทประกันภัยจะออกสลักหลังและเปลี่ยนใหม่ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากท่านใดกำลังมองหาประกันภัยให้กับรถของท่าน ก็สามารถดูบริษัทประกันภัยชั้นนำต่าง ๆ และข้อเสนอพิเศษได้ที่แรบบิท แคร์

เพราะแรบบิท แคร์ พร้อมดูแลคุณเสมอ ที่นี่สามารถเลือกผ่อนค่าเบี้ยประกันได้ทุกชั้นประกัน สูงสุดถึง 10 งวด ผ่อนง่ายสบายกระเป๋า จะผ่อนเป็นเงินสดก็ได้ อีกทั้งที่นี่ยังมีคุณภาพการบริการดีเยี่ยม ลูกค้าจึงหายกังวลและสบายใจได้เลยเมื่อซื้อประกันภัยกับแรบบิท แคร์

หากคุณเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ใหม่แล้วลืมแจ้งบริษัทประกันภัย คุณยังสามารถเคลมประกันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ โดยทั่วไป ควรแจ้งบริษัทประกันภัยให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการเคลมประกันในอนาคต

ในกรณีนำป้ายทะเบียนรถที่ได้จากการจองหรือประมูลมาใช้ในการดำเนินการด้านทะเบียน หรือกรณีสลับแผ่นป้ายทะเบียน รถคันนั้นจะต้องมีภาษีเหลือไม่น้อยกว่า 30 วัน หากภาษีเหลือน้อยกว่า 30 วัน จะต้องชำระภาษีประจำปีก่อนดำเนินการ

หากคุณเปลี่ยนทะเบียนรถยนต์ แต่ยังมีประกันรถยนต์อยู่ คำถามเรื่องความคุ้มครองของประกันยังคงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้

1. ความคุ้มครองของประกันยังคงอยู่

• การเปลี่ยนทะเบียนรถยนต์ ไม่ส่งผลต่อความคุ้มครอง ของประกันภัยรถยนต์ตราบใดที่ รถยนต์คันเดียวกัน และการเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงเรื่องของเลขทะเบียนใหม่
• ประกันจะยังคงคุ้มครองรถของคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่คุณทำไว้
  
  

2. แจ้งบริษัทประกันเรื่องการเปลี่ยนทะเบียน

แม้ว่าการเปลี่ยนทะเบียนรถจะไม่ส่งผลต่อความคุ้มครองของประกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้อง แจ้งบริษัทประกัน ให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้ข้อมูลในกรมธรรม์เป็นปัจจุบันและถูกต้อง เช่น

• แจ้งการเปลี่ยนทะเบียนใหม่ต่อบริษัทประกัน
• ขอแก้ไขเอกสารกรมธรรม์ เช่น ใบกรมธรรม์ หรือเอกสารเคลมต่าง ๆ ให้เป็นหมายเลขทะเบียนใหม่
• บางบริษัทประกันอาจมีการออก สลักหลังกรมธรรม์ เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องตามเลขทะเบียนใหม่ โดยทั่วไปไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  
  

3. เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งเปลี่ยนทะเบียนกับประกัน

เมื่อต้องการแจ้งเปลี่ยนทะเบียนกับบริษัทประกัน คุณอาจต้องใช้เอกสารต่อไปนี้:

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกัน
• สำเนาทะเบียนรถที่มีเลขทะเบียนใหม่
• เอกสารกรมธรรม์ประกันภัย
  
  

4. ผลกระทบหากไม่แจ้งเปลี่ยนทะเบียน

หากคุณไม่แจ้งการเปลี่ยนทะเบียนรถกับบริษัทประกัน อาจเกิดปัญหาในกรณีที่ต้องการเคลมประกัน เนื่องจากเลขทะเบียนในเอกสารประกันไม่ตรงกับทะเบียนปัจจุบันของรถ:

• บริษัทประกันอาจขอเอกสารเพิ่มเติมหรือยืนยันตัวตนของรถก่อนทำการเคลม
• กรณีที่ต้องการต่อประกันในปีถัดไป อาจมีความสับสนในการออกกรมธรรม์ใหม่
  
  

โดยสรุปแล้ว ประกันรถยนต์ยังคงคุ้มครองแม้คุณจะเปลี่ยนทะเบียนรถ แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งบริษัทประกัน เพื่อปรับปรุงข้อมูลทะเบียนรถในกรมธรรม์ให้เป็นปัจจุบันเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต