ประกันชีวิตเบี้ยถูก คืออะไร?
ประกันชีวิตเบี้ยถูก คือ ผลิตภัณฑ์การเงินรูปแบบหนึ่งในการบริหารจัดการวางแผนการเงิน ที่ให้ผลประโยชน์ความคุ้มครองด้านชีวิตไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงยังเป็นสินทรัพย์ที่สามารถส่งต่อให้กับคนในครอบครัวในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจนทำให้ไม่มีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ประกันชีวิตเบี้ยถูกยังเป็นตัวช่วยสร้างวินัยทางการออมเงินให้กับผู้ถือกรมธรรม์ได้ด้วย เนื่องจากการทำประกันชีวิตเป็นเสมือนการเก็บออมเงินอีกวิธีการหนึ่ง ที่ไม่สามารถถอนออกมาได้ในระหว่างที่ยังไม่ครบสัญญา ทำให้คุณไปถึงเป้าหมายในการออมเงินได้มากกว่า
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตยังสามารถช่วยคุณในการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จาก 4 เหตุการณ์ ดังนี้
- 1. บริหารความเสี่ยงการเกิด : ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเบี้ยถูกช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินที่ต้องใช้สำหรับการมีบุตร ระดับการศึกษาบุตร ให้เป็นไปตามความประสงค์ที่ได้วางแผนไว้ได้
- 2. บริหารความเสี่ยงการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ : หากคุณเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีการวางแผนทำประกันไว้ ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะตกมาอยู่ในความรับผิดชอบของคุณเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยหรือรุนแรง ล้วนเป็นความเสี่ยงที่คุณต้องแบกรับทั้งสิ้น
- 3. บริหารความเสี่ยงกรณีอายุสั้นไป : การประสบเหตุจากข้อ 2 จนทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควร หากคุณมีการเตรียมหลักประกันชีวิตไว้แล้วโดยการทำประกันชีวิต จะทำให้คนในครอบครัวที่คุณรักยังคงมีเงินก้อนที่ได้จากบริษัทประกันใช้ในการดำเนินชีวิตตามแผนที่วางไว้ได้ต่อไปโดยไม่สะดุดทั้งด้านความเป็นอยู่และการศึกษาของบุตร
- 4. บริหารความเสี่ยงกรณีอายุยืนเกินไป : ปัญหาของการที่คุณมีอายุยืนเกินไป คือ หากคุณไม่ได้ทำประกันชีวิตมาก่อน เงินออมที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ช่วงวัยทำงานจนถึงวัยเกษียณสำหรับใช้ในการดำเนินชีวิตและใช้สำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลของคุณจะไม่เพียงพอ จะต้องมีการพึ่งพาคนอื่น ๆ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตจะเป็นตัวช่วยที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่างเช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่มีจุดประสงค์คุ้มครองชีวิตเรื่องการมีอายุยืนโดยเฉพาะ
ประกันชีวิตเบี้ยถูก มีกี่แบบ?
รูปแบบของประกันชีวิตเบี้ยถูก สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบดังนี้
1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
เป็นประกันชีวิตค่าเบี้ยถูกที่สุด เนื่องจากให้ความคุ้มครองด้านชีวิตภายในระยะเวลาตามแผนประกันชีวิตเท่านั้น เช่น หากคุณเลือกทำประกันแบบชั่วระยะเวลา 10 ปี หมายความว่ากรมธรรม์จะมีผลความคุ้มครองผู้เอาประกันเพียง 10 ปี เท่านั้น หากเกิดเหตุที่มีผลทำให้ผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลา 10 ปี บริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองทุนประกันชีวิตตามจำนวนที่ผู้เอาประกันซื้อไว้ แต่หากเป็นกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตหลังจากครบสัญญา 10 ปี บริษัทประกันจะไม่มีการจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองทุนประกันชีวิตให้กับผู้รับผลประโยชน์ทั้งสิ้น เนื่องจากถือว่าสัญญาได้มีผลสิ้นสุดลงแล้ว นอกจากนี้แบบประกันชั่วระยะเวลาจะเป็นประกันที่ไม่มีมูลค่าเงินสดเกิดขึ้นในกรมธรรม์ ไม่สามารถเก็บออมเงินได้เหมือนประกันชีวิตรูปแบบอื่น ๆ
2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
เป็นประกันชีวิตเบี้ยถูกอีกรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิตกับผู้เอาประกัน กรณีที่ผู้เอาประกันมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นบริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายผลประโยชน์ทุนประกันชีวิตให้กับผู้รับผลประโยชน์ทันที กรณีที่ผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบสัญญาหรืออยู่จนถึงอายุที่กำหนดในเงื่อนไขบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เนื่องจากเป็นประกันแบบที่มีมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ เป็นเสมือนเงินเก็บออมอีกหนึ่งก้อนของผู้เอาประกัน
ซึ่งประกันชีวิตแบบตลอดชีพนี้ส่วนมากจะมีระยะเวลาในการชำระเบี้ยที่ 10 - 20 ปี หลังจากชำระเบี้ยครบกำหนดแล้วประกันจะยังคงให้ความคุ้มครองต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 90 - 99 ปี แล้วแต่เงื่อนไขแผนประกันของแต่ละบริษัทประกัน ไม่ว่าการเสียชีวิตจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากจ่ายค่าเบี้ยประกันครบกำหนดแล้วหรือไม่ก็ตาม บริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายผลประโยชน์ทุนประกันชีวิตของผู้เอาประกันให้กับผู้รับผลประโยชน์ทุกกรณี
3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)
ประกันแบบสะสมทรัพย์จะเป็นประกันที่ให้ผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิตกับผู้เอาประกัน กรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตบริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายผลประโยชน์ทุนประกันชีวิตให้กับผู้รับผลประโยชน์ และให้ความคุ้มครองทั้งกรณีเสียชีวิตและอยู่ครบสัญญาเช่นเดียวกันกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แต่ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะมีเงินคืนหรือเงินปันผลจากบริษัทประกัน จ่ายให้กับผู้เอาประกันในระหว่างสัญญาร่วมด้วย
4. ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ (Annuities Insurance)
ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำจะมีความพิเศษกว่าแบบประกันชีวิตเบี้ยถูกรูปแบบอื่น ๆ ตรงที่นอกจากให้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว เมื่อชำระค่าเบี้ยครบตามสัญญาคุณจะได้รับเงินคืนเป็นประจำทุก ๆ ปีในรูปแบบเงินบำนาญ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการเงินในวัยเกษียณนั่นเอง
ค่าเบี้ยประกันชีวิต คิดมาจากอะไร?
ค่าเบี้ยประกันชีวิต คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเป็นค่าการประกันภัย เมื่อมีการตัดสินใจสมัครทำประกันกับบริษัทประกันนั้น ๆ เบี้ยประกันถือเป็นผลตอบแทนของบริษัทประกันที่จะได้รับจากการรับผิดชอบ แบกรับความเสี่ยงด้านชีวิตหรือสุขภาพของผู้เอาประกัน ค่าเบี้ยประกันชีวิตจะเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการเลือกประเภทแบบประกันที่คุณเลือกและปัจจัยเสี่ยงของคุณ โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันจะคิดคำนวณมาจากปัจจัยเสี่ยงเบื้องต้นของคุณ ดังนี้
- ปัจจัยเสี่ยงด้านเพศ : เพศที่แตกต่างกันจะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนั้นค่าเบี้ยประกันชีวิตสำหรับเพศชายและเพศหญิงจึงเป็นจำนวนที่ไม่เท่ากัน แม้จะมีอายุเท่ากันหรือเลือกแผนประกันประเภทเดียวกันและทุนประกันชีวิตเท่ากันก็ตาม
- ปัจจัยเสี่ยงด้านอายุ : บุคคลอายุมากค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าบุคคลอายุน้อย เนื่องจากบุคคลที่อายุมากจะมีความเสี่ยงด้านต่าง ๆ มากกว่าบุคคลที่อายุน้อย ค่าเบี้ยประกันจึงสูงกว่า
- ปัจจัยเสี่ยงด้านอาชีพ : อาชีพปัจจุบันของผู้เอาประกันมีผลกับค่าเบี้ยประกัน เนื่องจากบริษัทประกันจะมีการแบ่งกลุ่มอาชีพตามขั้นอาชีพ เพื่อเป็นการแยกกลุ่มความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ตั้งแต่ขั้นอาชีพ 1 - 4 เรียงลำดับจากความเสี่ยงน้อยสุดไปมากสุด โดยขั้นอาชีพ 1 จะมีระดับความเสี่ยงทางอาชีพน้อยที่สุด และขั้นอาชีพที่มีความเสี่ยงน้อยค่าเบี้ยประกันก็จะถูกกว่าขั้นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง
- ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ : หากสุขภาพก่อนการทำประกันของคุณสมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติ ไม่ได้เป็นโรคประจำตัวที่เป็นมาก่อนการทำประกัน บริษัทประกันจะมีการคำนวณค่าเบี้ยประกันตามปกติ แต่หากสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ตามปกติ มีโรคประจำตัวที่บริษัทประกันยังสามารถรับทำประกันได้ตามเงื่อนไข บริษัทประกันจะมีการคิดคำนวณค่าเบี้ยโดยการเพิ่มค่าเบี้ยในส่วนของความเสี่ยงด้านสุขภาพของคุณเพิ่มเติม
โดยบริษัทประกันจะมีการคำนวณเบี้ยประกันชีวิตเบี้ยถูกหรือแพง จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวตามสูตร ดังนี้
(ทุนประกันชีวิต x อัตราเบี้ยประกันชีวิต) ÷ 1,000 = เบี้ยประกันชีวิตที่ต้องชำระต่อปี
*อัตราเบี้ยประกันชีวิต เป็นตัวเลขที่นักคณิตศาสตร์ประกันภัยจากบริษัทประกันมีการคำนวณออกมาเป็นตัวเลขที่เหมาะสมที่ใช้เป็นมาตรฐานในการคำนวณค่าเบี้ยประกันของแต่ละบุคคลแบ่งตามเพศและช่วงอายุ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถขอตัวเลขอัตราเบี้ยประกันจากตัวแทนที่ดูแลหรือจากเอกสารรายละเอียดประกันได้
ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 25 ปี ต้องการทำทุนประกันชีวิต 200,000 บาท อัตราเบี้ยประกันชีวิต 19.31 จะได้เบี้ยประกันชีวิตที่ต้องชำระต่อปีอยู่ที่ (200,000 x 19.31) ÷ 1,000 = 3,862 บาท เป็นต้น
ประกันชีวิตเบี้ยถูกให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
ผลประโยชน์ความคุ้มครองที่ประกันชีวิตเบี้ยถูกมีให้บุคคลผู้เอาประกัน คือการเฉลี่ยความเสียหายให้กับผู้เอาประกันไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเหตุการณ์ใด ๆ ที่มีผลต่อชีวิตผู้เอาประกันด้วยตนเอง บริษัทประกันจะเข้ามาให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น
- การสูญเสียชีวิตทุกกรณี
- การสูญเสียอวัยวะจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
- การทุพพลภาพจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
- การสูญเสียรายได้ยามเกษียณ
สามารถใช้ประกันชีวิตเบี้ยถูก ยื่นลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?
ผู้เอาประกันสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตที่สมัครทำประกันไปใช้ในการยื่นลดหย่อนภาษีได้ ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร โดยหากคุณสมัครทำประกันชีวิตเบี้ยถูกแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) แบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) และแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) เบี้ยประกันจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท และหากคุณสมัครทำประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ (Annuities Insurance) คุณจะสามารถนำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท