ความหมายและความสำคัญของสายพานมอเตอร์ไซค์
รถมอเตอร์ไซค์ถือได้ว่าเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมมากทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เพราะด้วยราคาที่ไม่สูงมาก อีกทั้งยังมีขนาดที่กะทัดรัด ขับขี่คล่องตัว ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับการจราจรในประเทศไทย รถติดแค่ไหนก็สามารถที่จะลัดเลาะไปจนถึงที่หมายปลายทางได้ จึงทำให้แทบทุกบ้านจะต้องมีรถมอเตอร์ไซค์ไว้สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน และด้วยประเภทของรถมอเตอร์ไซค์อย่างเครื่องยนต์ระบบเกียร์ออโต้ที่ได้รับความนิยมมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ระบบเกียร์ปกติ จึงทำให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้ในปัจจุบันนั้นมีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ๆ ออกมามากมาย เพราะด้วยความสะดวกสบายที่มากกว่า แถมยังไม่ต้องคอยเข้าเกียร์ให้เมื่อยเท้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรถมอเตอร์ไซค์แบบเกียร์ออโต้ก็มักจะมีปัญหาอยู่ที่สายพาน ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานที่สั้นกว่าโซ่ จึงอาจจะทำให้สายพานมอเตอร์ไซค์นั้นมีการขาดได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรที่จะดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพื่อความปลอดภัยทุกครั้งในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
สายพานมอเตอร์ไซค์คืออะไร?
สายพานรถมอเตอร์ไซค์(Belt) คือ ชิ้นส่วนหนึ่งที่จะทำงานควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ โดยจะหมุนวนลูปไปเรื่อย ๆ คล้ายกับโซ่รถมอเตอร์ไซค์ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานหรือรถมอเตอร์ไซค์กำลังเคลื่อนที่ เพราะสายพานมอเตอร์ไซค์จะทำหน้าที่ในการส่งกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหลัง จึงส่งผลทำให้รถมอเตอร์ไซค์นั้นเคลื่อนที่ได้ แต่ตัวสายพานมอเตอร์ไซค์นี้จะอยู่เฉพาะแค่ในรถมอเตอร์ไซค์แบบออโตเมติกเท่านั้น หรือในระบบเครื่องยนต์เกียร์ออโต้ โดยจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ต้องคอยเข้าเกียร์ ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งตัวสายพานมอเตอร์ไซค์นี้จะทำมาจากยางหรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น Polyurethane และถึงแม้ว่าสายพานมอเตอร์ไซค์จะทำงานคล้ายกันกับโซ่รถมอเตอร์ไซค์ แต่ตัวสายพานมอเตอร์ไซค์นี้จะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะรองรับการใช้งานที่หนักได้เท่ากับโซ่รถมอเตอร์ไซค์ แต่ข้อดีของสายพานมอเตอร์ไซค์ก็มีมากมาย เช่น ทำอัตราเร่งได้ดีกว่า น้ำหนักเบา เสียงเบา และไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น จึงไม่เกิดเป็นสนิม รวมไปถึงยังทนทานในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าได้ ส่วนอายุการใช้งานของสายพานมอเตอร์ไซค์จะอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000 กิโลเมตร ถึงจะต้องมีการเปลี่ยนเป็นสายพานมอเตอร์ไซค์เส้นใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับด้วย
สายพานขาด เกิดจากอะไร?
• การใช้งานในชีวิตประจำวัน
จากสถิติพบว่าการขาดของสายพานมอเตอร์ไซค์นั้นจะมีสาเหตุมาจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือลักษณะการขับขี่ที่ชอบออกรถมอเตอร์ไซค์แบบกระชากตัวแรง ๆ และชอบบิดคันเร่งแบบเร็ว ๆ เลยจะทำให้สายพานมอเตอร์ไซค์สึกหรอเร็วขึ้น
• อุณหภูมิหรือความร้อน
เรื่องของอุณหภูมิหรือความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักในการทำให้สายพานมอเตอร์ไซค์นั้นขาดและเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
• การปรับแต่งชุดชาม
การปรับแต่งชุดชามที่จะทำให้สายพานมอเตอร์ไซค์นั้นทำงานหนักมากขึ้น เพราะด้วยภาระที่สายพานจะต้องแบกรับเพิ่มไว้ เช่น สายพานมอเตอร์ไซค์จะต้องมีการขยายตัวมากขึ้น หรือการที่สายพานมอเตอร์ไซค์นั้นจะต้องมีรอบการทำงานที่มากขึ้นกว่าปกติ
• ตัวชามผิดปกติ
เกิดจากตัวชามที่มีความผิดปกติจากระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน จึงอาจจะทำให้ตัวชามนั้นมีร่องรอยการสึกหรอที่ผิดเพี้ยนไปจากแบบเดิม
หากสายพานขาด อันตรายไหม?
สิ่งแรกที่ทุกคนจะสามารถรู้สึกได้ว่าสายพานนั้นเริ่มมีการเสื่อมสภาพแล้ว นั่นก็คือเวลาที่เรากำลังจะออกตัวแล้วจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่ารถสั่น พร้อมกับเริ่มมีเสียงดังเกิดขึ้นที่บริเวณสายพานมอเตอร์ไซค์ เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะทำการตรวจสอบโดยทันทีว่าสายพานมอเตอร์ไซค์นั้นมีรอยแตกลายงาหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าสายพานมอเตอร์ไซค์นั้นเกิดขาดขึ้นมา วิธีแก้ไขจะมีเพียงเดียวคือจะต้องรีบเปลี่ยนสายพานมอเตอร์ไซค์เส้นใหม่อย่างเดียวทันที และถึงแม้ว่าสายพานมอเตอร์ไซค์ขาดจะมีความอันตรายที่น้อยกว่าโซ่ขาด แต่อย่างไรแล้วก็อันตรายมากเช่นกัน หากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และอาจจะต้องมีการเสียค่าซ่อมแซมหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ดังนั้นจึงควรที่จะหมั่นตรวจเช็กสายพานมอเตอร์ไซค์ในระยะทาง 1,000 กิโลเมตรแรก หลังจากนั้นควรจะตรวจเช็กทุก ๆ 4,000 กิโลเมตร และก็ควรจะเปลี่ยนสายพานมอเตอร์ไซค์เส้นใหม่เมื่อสายพานมอเตอร์ไซค์ขาด หรือมีการใช้งานถึง 24,000 กิโลเมตร ในกรณีที่ไม่ได้มีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวสายพานมอเตอร์ไซค์
เวลาที่สายพานขาด อาการของรถมอเตอร์ไซค์จะเป็นอย่างไร?
ถ้าหากว่าเราได้ลองเปิดเช็กดูการสึกหรอของสายพานมอเตอร์ไซค์ตรงช่องระบายที่ตัวแคร้งก์ได้ ก็จะทำให้มองเห็นถึงลักษณะของสายพานมอเตอร์ไซค์ได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงควรที่จะเปิดฝาแคร้งก์ออกมาเลยก็จะดีกว่า เพราะจะได้มองเห็นถึงความสึกหรอของสายพานมอเตอร์ไซค์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เวลาที่จะต้องเดินทางไกลก็จะได้มีการเตรียมตัวเช็กสภาพรถก่อนล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะถ้าเกิดว่าสายพานมอเตอร์ไซค์นั้นขาดขึ้นมาระหว่างทาง มันก็อาจจะส่งผลทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นก็จะมีข้อสังเกตอีกหนึ่งอย่างที่เราจะสามารถรู้ได้เลยว่าสายพานใกล้จะขาด นั่นก็คือเสียงของเครื่องยนต์ที่มีความผิดปกติจากการใช้งาน ถ้าหากว่าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ควรที่จะจอดรถเข้าข้างทางทันทีเพื่อที่จะตรวจสอบหาสาเหตุ และเข้าร้านซ่อมที่อยู่ใกล้ตรงจุดนั้นมากที่สุด ไม่ควรที่จะฝืนขับต่อไปเรื่อย ๆ เพราะถ้าสายพานมอเตอร์ไซค์ขาดแล้วไปตีแคร้งก์แตก แบบนี้จะถือว่าอันตรายมาก
แล้วเวลาที่สายพานขาด สตาร์ทติดไหม?
โดยปกติแล้วถ้าสายพานรถมอเตอร์ไซค์ขาดแบบนี้ เราก็ไม่ควรที่จะไปพยายามสตาร์ทรถ เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นจึงควรที่จะรีบแก้ไขเปลี่ยนสายพานมอเตอร์ไซค์ใหม่โดยเร็วที่สุด โดยการเลือกซื้อสายพานมอเตอร์ไซค์ที่มีคุณภาพดี มีการรับประกันอายุการใช้งาน และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นของรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ วัสดุ ความเข้ากันได้ และความพร้อมในการใช้งานด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่าจะเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งตัวสายพานมอเตอร์ไซค์และตัวรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสายพานมอเตอร์ไซค์ได้อีกด้วย
ถ้าหากสายพานมอเตอร์ไซค์เกิดขาดขึ้นมา แบบนี้ประกันจะรับเคลมหรือไม่?
โดยปกติแล้วทางบริษัทประกันภัยจะรับเคลมแค่ในส่วนที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น และถ้าเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานก็จะไม่สามารถเคลมประกันภัยได้ เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถที่จะทำประกันอะไหล่รถยนต์ควบคู่ไปกับการทำประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ได้เลย เพื่อความอุ่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์
ตารางความคุ้มครอง | ผลประโยชน์ | ||||
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3 | |
คู่กรณี | |||||
บุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
ทรัพย์สินของคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
รถของผู้เอาประกันภัย | |||||
การชนแบบมีคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
การชนแบบไม่มีคู่กรณี | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
ไฟไหม้ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
รถหาย | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
ภัยธรรมชาติ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ |
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล | |||||
อุบัติเหตุส่วนบุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การรักษาพยาบาล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การประกันตัวผู้ขับขี่ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
หากซื้อมอเตอร์ไซค์มาแล้ว ควรจะเลือกซื้อประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้นไหนดี?
อันดับแรกให้เราสังเกตพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเราเองก่อนว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าเกิดว่าเพิ่งซื้อรถมาใหม่ก็ควรที่จะทำประกันภัยชั้น 1 ไว้จะดีที่สุด เพราะในเรื่องของความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด คุ้มค่ามากที่สุด ถึงแม้จะชนแบบไม่มีคู่กรณีก็สามารถที่จะส่งเคลมได้อย่างสบาย และหากเกิดปัญหาอะไรก็สามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นรถยกหรือรถลาก ทางบริษัทประกันภัยก็ยินดีที่จะให้บริการให้กับลูกค้าทุกท่าน จึงมั่นใจและอุ่นใจได้อย่างหายห่วง
ซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
นอกจากจะมีโปรโมชั่นพิเศษและส่วนลดอีกมากมายที่รอให้คุณแล้ว แรบบิท แคร์ ยังมีบริการดูแลลูกค้าแบบจัดเต็มที่พร้อมจะให้คำปรึกษาตั้งแต่ครั้งแรกที่เลือกทำประกันภัยไปจนถึงการรับเรื่องประสานงานเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุอย่างรวดเร็วทันใจลูกค้าแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงอุ่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังถ้าเลือกทำประกันภัยกับแรบบิท แคร์ สามารถดูสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์แรบบิท แคร์