ยางรถมอไซค์มีอายุการใช้งานกี่ปี ต้องเติมลมอย่างไร และมีทั้งหมดกี่ประเภท
หากคุณใช้รถมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นประจำ คงเข้าใจได้ดีเลยว่ายางรถมอไซค์เป็นหนึ่งสิ่งที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเติมลม การดูสภาพยางว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนหรือยัง ถือเป็นสิ่งที่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันควรทำ หรืออย่างน้อยการนำรถเข้าเช็คระยะตามรอบที่ศูนย์กำหนดมา ก็ถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ควรทำเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ทุกคนสามารถดูแลยางรถมอไซค์ได้ดี ลองมาดูข้อมูลทั้งหมดกัน
ยางรถมอเตอร์ไซค์ ใช้งานนานแค่ไหนถึงควรเปลี่ยน?
ยางรถมอเตอร์ไซค์ไม่มีการระบุหรือกำหนดไว้อย่างแน่นอนในเรื่องของ อายุการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่การใช้งานจะอยู่ที่ระหว่าง 10,000 – 20,000 กม. ถ้าคิดเป็นปีก็จะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 2 ปี บวกลบนิดหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย บางคนขับขี่ทางไกลมากกว่า 20 กม. เป็นประจำทุกวัน บางคนก็ใช้งานน้อย เช่นขับขี่ใช้งานระยะสั้น หรือขี่ไปจับจ่ายซื้อของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากการใช้งานแล้วยังจะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ สภาพอากาศ ที่จอดรถส่วนใหญ่เป็นอย่างไร จอดในที่ร่มหรือจอดตากแดด มีการบำรุงรักษาบ้างหรือไม่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวเนื่องกับอายุการใช้งานของยางแทบทั้งสิ้น ส่วนถ้าใครที่ไม่ชัวร์เรื่องระยะทางหรือจำนวนปี เรามีวิธีสังเกตยางแบบง่ายๆ มาบอกกัน
- สังเกตสะพานยาง ในส่วนนี้ดอกยางของล้อ ไม่ควรสึกเท่ากับสะพานยาง
- สังเกตโครงสร้างยางว่าดูผิดรูปหรือมีรูปทรงผิดปกติหรือไม่
- สังเกตรอยปริแตกของยาง
- สังเกตหน้ายางว่าโล้นแล้วหรือไม่
- วัดความลึกของร่องยาง ความลึกของร่องยางไม่ควรน้อยกว่า 3 – 4 ซม.
- ลองเอาเล็บจิกดู ถ้ายางแข็งมากขนาดที่เล็บจิกไม่ลง ก็ไม่ควรใช้ต่อไป
ทั้งหมดนี้เป็นการสังเกตยางรถมอเตอร์ไซค์แบบง่าย ๆ ว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแล้วหรือไม่ ถ้าหากว่ายางรถมอเตอร์ไซค์ของท่านมีจุดสังเกตเข้าข่ายทั้ง 6 ข้อที่ว่ามานี้ แนะนำว่าให้รีบเปลี่ยนโดยด่วนเลย อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะเราคิดว่ามันไม่คุ้มอย่างแน่นอน
ยางรถมอไซค์ เติมลมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ยางรถมอไซค์ เติมลมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมที่สุด ตามค่าพื้นฐานแล้วยางรถมอไซค์ควรเติมลมที่ประมาณ 28-40 ปอนด์/ตร.น.(PSI) แต่อย่าลืมว่ายางรถมอไซค์บางคันมีขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้มีการเติมลมยางไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ดังนั้นควรเช็กอีกครั้งก่อนทำการเติมลมยางรถมอไซค์ของคุณ
หมายเหตุ: วิธีการเช็คว่ายางรถมอไซค์ของเราควรเติมลมเท่าไหร่ สามารถสังเกตได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณ สวิงอาร์มใต้เบาะ และคู่มือด้านหลังซ้ายของรถ พอเช็กรายละเอียดความเหมาะสมครบถ้วน เราก็จะสามารถเติมลงยางรถมอไซค์ได้อย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว
ยางมอไซค์ อายุการใช้งานกี่ปี
ยางมอไซค์ อายุใช้งานกี่ปี คำตอบ คือ เฉลี่ย 1-2 ปี หรือระยะทางประมาณ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรืออาจยืดอายุการใช้งานได้ถึง 3-5 ปี ซึ่งปกติแล้วจะแนะนำให้เปลี่ยนยางรถมอไซค์ในช่วง 1-3 ปีโดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วย
ประเภทของยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานทั่วไป
1. ยางที่มีเนื้อยางค่อนข้างนิ่ม
ให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดี มีความปลอดภัย เหมาะกับการขับขี่ในระยะทางไกล แต่ก็จะมีการสึกหรอที่มากกว่า ดอกยางหมดเร็วกว่า สาเหตุมาจากพื้นผิวถนนที่มีความแข็งและอุณหภูมิที่สูงขึ้นระหว่างการขับขี่
2. ยางที่มีเนื้อแข็ง
จะให้ความแข็งแรงทนทานในการรับน้ำหนัก การใช้งานบนถนนที่มีสภาพขรุขระไม่สม่ำเสมอ ดอกยางสึกยาก เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปประหยัดค่าใช้จ่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก
ยางมอเตอร์ไซค์มีแบบไหนบ้าง
โดยยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้น มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ยางนอกรถมอเตอร์ไซค์
1. ยางนอกแบบไม่ใช้ยางใน (Tubeless Tire - TL)
ยางทูปเลส หรือที่อาจจะรู้จักกันในชื่อยางจุ๊บเลส คือยางนอกแบบที่ไม่มียางในซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาจุดบกพร่องของยางในอดีต โดยจะใช้ยางนอกที่มีเนื้อวัสดุที่หนา และมีโครงสร้างด้านในเป็นผ้าใบที่แข็งแรงกว่าไปยางมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
โดยยางทูปเลสนั้นจะต้องใช้กับล้อรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถรองรับยางทูปเลสได้เท่านั้น เนื่องจากขอบยางจะอันแน่นกับขอบกระทะล้อในการเก็บลม หากมีการรั่ว หรือมีรูจากการถูกสิ่งแหลมคมทิ่ม ลมจะรั่วออกช้ากว่ายางทั่วไป เพราะเนื้อยางจะบีบรูนั้นไว้ ต่างจากยางรุ่นเก่าๆที่ลมจะรั่วออกอย่างรวดเร็วหรืออาจจะเกิดยางระเบิดได้
เป็นยางที่มีความร้อนน้อยกว่า เนื่องจากไม่มีการเสียดสีกันระหว่างยางนอกและยางใน ทำให้มีโอกาสระเบิดน้อยกว่า และไม่เสี่ยงต่อการเกิดยางแบน แต่ทว่ายางทูปเลสมีราคาค่อนข้างสูง และหากมีแผลจากของมีคมขนาดใหญ่จะไม่สามารถใช้การปะแบบตัวหนอนได้ ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่
2. ยางนอกแบบใช้ยางใน (Tube Tire - TT)
ยางแบบใช้ยางในจะเป็นยางราคาถูก หาซื้อได้ง่าย มีความยืดหยุ่น สามารถอัดลมได้ รองรับการบรรทุกของหนักและใช้ในทุกสภาพถนน หากโดนของมีคมทิ่มจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการปะยางในราคามิตรภาพ แต่หากทิ่มทะลุเข้าไปถึงยางชั้นในแล้ว ลมจะรั่วออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ยางแบนในไม่กี่วินาที อีกทั้งยางนอกและยางในจะเกิดการเสียดสีกันในขณะขับขี่ ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนสูง และมีโอกาสในการระเบิดมากกว่ายางทูปเลส
วิธีเลือกยางมอเตอร์ไซค์ ต้องดูอะไรบ้าง
วิธีการเลือกซื้อยางรถมอเตอร์ไซค์นั้นหลายคนอาจคิดว่าก็ซื้อยางที่ราคาสูงหรือแบบของรถสปอร์ตไปเลยก็ได้เพราะทั้งเหนียว ทนทาน และให้การยึดเกาะเป็นอย่างดี แต่อันที่จริงแล้วถ้ารถมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้เป็นเพียงรถใช้งานธรรมดาทั่วไป หรือเป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แต่ก็ไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ก็ควรที่จะต้องเลือกยางที่มีคุณสมบัติตรงกับการใช้งานจริง โดยมีหลักพิจารณาเบื้องต้น ดังนี้
1. เลือกขนาดยางให้เข้ากับขนาดล้อ
แน่นอนว่าข้อแรกที่ต้องพิจารณาก่อนเลยก็คือการเลือกยางมอเตอร์ไซค์ที่จะใช้กับวงล้อของรถได้ ซึ่งในกรณีที่ต้องการจะเพิ่มหรือเปลี่ยนขนาดยางจากเส้นเดิมก็คงต้องศึกษาหรือสอบถามจากช่างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
2. เลือกประเภทของยางให้ถูกต้อง
อีกข้อหนึ่งซึ่งคงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องอื่นก็คือการเลือกยางให้เหมาะสมกับประเภทของรถและรูปแบบการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่ายางมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นของแต่ละแบรนด์ ย่อมถูกผลิตมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานกับรถแต่ละประเภทอยู่แล้ว การเลือกใช้ยางไม่เหมาะกับรถนอกจากจะมีผลต่อสมรรถนะแล้วยังถือว่าเสี่ยงต่อความปลอดภัยด้วย
3. ดูดอกยางและลักษณะยาง
ดอกยางและลักษณะของเนื้อยาง ย่อมส่งผลอย่างมากต่อสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งถึงแม้จะเป็นยางมอเตอร์ไซค์ประเภทเดียวกัน ทว่าแต่ละแบรนด์หรือแต่ละรุ่น ก็อาจจะมีการออกแบบรูปแบบของดอกยาง หรือคุณสมบัติของเนื้อยาง ความแข็งแรง ความนุ่ม ไม่เหมือนกัน ทำให้เหมาะกับการขับขี่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ขับขี่ควรต้องศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ด้วย
4. ดูความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง
ค่าความสามารถในการรับน้ำหนัก รวมถึงอัตราเร็วสูงสุดที่ยางทำได้ก็เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึง เพื่อตัดสินใจว่ายางรุ่นนี้มีสเปกที่คุ้มค่ากับราคา และเหมาะกับลักษณะการใช้งานหรือไม่
วิธีอ่านรหัสตัวเลขบนยางมอเตอร์ไซค์
สำหรับชุดตัวเลขบนยางรถมอเตอร์ไซค์นั้นล้วนมีความหมายที่บอกถึงสเปกและคุณลักษณะต่าง ๆ ของตัวยาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราจะพบเห็นชุดตัวเลขใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบตัวเลขหน่วยเป็นนิ้ว แบบตัวเลขระบบเมตริก และแบบตัวอักษร ซึ่งแต่ละแบบมีวิธีอ่านค่า ดังนี้
ระบบตัวเลขหน่วยเป็นนิ้ว - ตัวอย่าง 5.00 H 16 4PR
- 5.00 คือ ความกว้างในส่วนของแก้มยาง
- H คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางทำได้
- 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
- 4PR คือ ความแข็งแรงและความสามารถในการรับน้ำหนัก
ระบบตัวเลขเมตริก - ตัวอย่าง 130/90 - 16 67 H
- 130 คือ ความกว้างของยาง
- 90 คือ ซีรีส์ของยาง
- 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
- 67 คือ ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง
- H คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางทำได้
แบบตัวอักษร - ตัวอย่าง MT 90 - 16 Load Range B
- M คือ รหัสมอเตอร์ไซค์
- T คือ รหัสความกว้างของยาง
- 90 คือ ซีรีส์ของยาง
- 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
- Load Range B ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง
นอกจากนี้ยังมีตัวเลขหรือตัวหนังสือที่อาจพบได้แต่ก็ไม่ทราบถึงความหมายที่แน่นอน หรืออาจพบได้ในยางมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ยางบิ๊กไบค์ เช่น ZR, M/C, 73W และ DOT 1219
ยางมอไซค์ ขอบ 17 ยางมอไซค์ ขอบ 14 ดูอย่างไร
ก่อนตัดสินใจซื้อยางรถมอไซค์ที่ไม่ว่าจะเป็นยางมอไซค์ ขอบ 17 หรือ ยางมอไซค์ ขอบ 14 เราต้องดูรหัสที่อยู่บนแก้มยางเสียก่อนว่ายางรถมอไซค์ของเรา มีขนาดขอบเท่าไหร่ และมีสเปกอื่น ๆ ยังไงบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะมี 2 แบบที่แตกต่างกันดังนี้
แบบที่ 1 (มาตรานิ้ว)
เป็นรหัสในลักษณะ 2.25 L17 4PR โดย 2.25 คือความกว้างหน้ายางหน่วยเป็นนิ้ว, L คือความเร็วสูงสุดที่ยางรับได้ L=120 กม./ชม., 17 คือ ขนาดขอบล้อหน่วยเป็นนิ้ว และ 4PR (Ply Rating) คือ ความแข็งแรงวัสดุที่ใช้รองหน้ายาง 4PR = เท่ากับความแข็งที่รองด้วยผ้าใบ 4 ชั้น
แบบที่ 2 (มาตราเมตริก)
เป็นรหัสในลักษณะ 120/70-ZR17 M/C (58W) โดย 120 คือ ความกว้างหน้ายางหน่วยเป็น มิลลิเมตร, 70 คือ ความสูงแก้มยาง โดยวัดเป็นเปอร์เซ็นต์จากความกว้างแก้มยาง ในที่นี้คือ 70% ของ 120 มม. = 84 มม., Z คือตัวบอกว่าใช้กับรถความเร็วสูง, R คือชนิดของยางเรเดียล ถ้าไม่มีจะเป็นยาง Bely Bias, 17 คือขอบล้อหน่วยเป็นนิ้ว, M/C บ่งบอกว่าออกแบบมาให้มอเตอร์ไซค์, 58 คือ เรทรับน้ำหนักสูงสุดเทียบเท่า 236 กก. และ W คือความเร็วสูงสุดที่รับได้ ซึ่ง W=270 กม./ชม.
ยางมอไซค์บวมเกิดจากสาเหตุอะไร
ยางมอไซค์บวมเกิดจากอะไร ในเบื้องต้นนั้นสามารถสันนิษฐานออกมาได้ประมาณ 3 ข้อ คือ ยางเสื่อมสภาพไปเอง, เกิดการเบียดหรือกระแทกรุนแรง และบรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัด รายละเอียดในแต่ละสาเหตุดูได้จากลิสต์ดังต่อไปนี้
ยางเสื่อมสภาพ
เพราะยางรถมอไซค์ขาดการดูแล หมดอายุ และใช้งานในขณะที่ลมยางอ่อนบ่อยครั้ง จึงทำให้แก้มยางรับภาระหนักเกินไป จนเกิดความเสียหายเป็นยางบวม
เกิดการเบียดหรือกระแทกรุนแรง
อาจทำให้โครงยางรถมอไซค์ภายในเกิดการเสียหาย ผ้าใบแก้มยางเสียหาย จนทำให้ยางบวมได้เช่นกัน
บรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัด
เช่นเดียวกันกับเหตุผลข้ออื่น เมื่อยางรถมอไซค์รับน้ำหนักมากเกินขีดจำกัด แก้มยางจะทำงานหนัก จนกลายเป็นยางบวมในท้ายที่สุด
ดูแลยางมอเตอร์ไซค์ ให้ใช้งานได้ยาวนาน
- เติมลมยางให้มีแรงดันพอดีกับการขับขี่
- ทำความสะอาดสิ่งแปลกปลอมที่ติดค้างอยู่คาล้อ เช่น หิน กรวด ลวด ตะปู ของแข็งแหลม เป็นต้น
- ขับขี่ ไม่เบรกล็อกล้อหรือออกตัวด้วยความเร็วสูงเกินไป
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง บนสภาพถนนที่มีทาง ขรุขระ หลุมบ่อหรือร่องถนน
- ตรวจเช็กดอกยางที่ใช้งาน อย่างสม่ำเสมอ
หากดูแลอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างระมัดระวัง นอกจากเป็นการดูแลยางรถแล้วยังรวมถึงตัวรถมอเตอร์ไซค์และผู้ขับขี่ให้ปลอดภัยอีกด้วย เป็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับยางมอเตอร์ไซค์สำคัญอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง เรารวบรวมแบบจัดเต็มจัดแน่นมาให้ทุกท่านได้เอาไว้เป็นความรู้ แต่การทำประกันภัยก็สามารถคุ้มครองทั้งท่านและรถมอเตอร์ไซค์ของท่านได้ด้วยเช่นกัน ให้คุณได้หมดปัญหากังวลใจระหว่างการเดินทาง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันก็สามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะรถยก รถลาก ทางประกันภัยยินดีให้บริการและอำนวยความสะดวกให้คุณลูกค้าทุกท่าน หากใครยังตัดสินในไม่ได้ว่าจะใช้ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ของบริษัทไหน ให้เรา แรบบิท แคร์ ช่วยเปรียบเทียบประกันแต่ละประเภทให้เหมาะสำหรับรถคุณ
ราคายางมอเตอร์ไซค์โดยเฉลี่ย
สำหรับราคายางรถมอไซค์โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่หลักร้อย-หลักพัน โดยจะแบ่งกันตามประเภทของยาง และรูปแบบการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ยางรถมอไซค์ปกติ ที่เป็นยางมอไซค์ ไม่มียางใน จะราคาหลักร้อยไปจนถึงเกือบพันบาท ส่วนยางประเภทที่ใช้กับรถขนาดใหญ่ หรือไม่ใช่รถทั่วไป จะมีราคาหลักพันขึ้นไป และมียางนอกยางในแตกต่างกันด้วย
หากคุณเป็นคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แรบบิท แคร์ ขอแนะนำเสริมว่าควรทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมเผื่อเอาไว้ เพราะจะช่วยดูแลได้อย่างครอบคลุมหากเกิอุบัติเหตุ ซึ่งถ้ามีความสงสัยว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร สามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อทำการเปรียบเทียบหาความเหมาะสม และอ่านรายละเอียดคำถามที่สงสัยได้อย่างครบถ้วน หรือจะเลือกโทรปรึกษาโดยตรงที่ 1438 ก็สามารถติดต่อได้ทุกเวลา
ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์
ตารางความคุ้มครอง | ผลประโยชน์ | ||||
---|---|---|---|---|---|
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3 | |
คู่กรณี | |||||
บุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
ทรัพย์สินของคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
รถของผู้เอาประกันภัย | |||||
การชนแบบมีคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
การชนแบบไม่มีคู่กรณี | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
ไฟไหม้ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
รถหาย | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
ภัยธรรมชาติ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ |
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล | |||||
อุบัติเหตุส่วนบุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การรักษาพยาบาล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การประกันตัวผู้ขับขี่ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |