Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

เปรียบเทียบประกันมอเตอร์ไซค์ ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

ยางรถมอไซค์มีอายุการใช้งานกี่ปี มีทั้งหมดกี่ประเภท

ยางรถมอไซค์มีอายุการใช้งานกี่ปี ต้องเติมลมอย่างไร และมีทั้งหมดกี่ประเภท

หากคุณใช้รถมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นประจำ คงเข้าใจได้ดีเลยว่ายางรถมอไซค์เป็นหนึ่งสิ่งที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเติมลม การดูสภาพยางว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนหรือยัง ถือเป็นสิ่งที่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันควรทำ หรืออย่างน้อยการนำรถเข้าเช็คระยะตามรอบที่ศูนย์กำหนดมา ก็ถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ควรทำเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ทุกคนสามารถดูแลยางรถมอไซค์ได้ดี ลองมาดูข้อมูลทั้งหมดกัน

ยางรถมอเตอร์ไซค์ ใช้งานนานแค่ไหนถึงควรเปลี่ยน?

ยางรถมอเตอร์ไซค์ไม่มีการระบุหรือกำหนดไว้อย่างแน่นอนในเรื่องของ อายุการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่การใช้งานจะอยู่ที่ระหว่าง 10,000 – 20,000 กม. ถ้าคิดเป็นปีก็จะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 2 ปี บวกลบนิดหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย บางคนขับขี่ทางไกลมากกว่า 20 กม. เป็นประจำทุกวัน บางคนก็ใช้งานน้อย เช่นขับขี่ใช้งานระยะสั้น หรือขี่ไปจับจ่ายซื้อของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากการใช้งานแล้วยังจะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ สภาพอากาศ ที่จอดรถส่วนใหญ่เป็นอย่างไร จอดในที่ร่มหรือจอดตากแดด มีการบำรุงรักษาบ้างหรือไม่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวเนื่องกับอายุการใช้งานของยางแทบทั้งสิ้น ส่วนถ้าใครที่ไม่ชัวร์เรื่องระยะทางหรือจำนวนปี เรามีวิธีสังเกตยางแบบง่ายๆ มาบอกกัน

  1. สังเกตสะพานยาง ในส่วนนี้ดอกยางของล้อ ไม่ควรสึกเท่ากับสะพานยาง
  2. สังเกตโครงสร้างยางว่าดูผิดรูปหรือมีรูปทรงผิดปกติหรือไม่
  3. สังเกตรอยปริแตกของยาง
  4. สังเกตหน้ายางว่าโล้นแล้วหรือไม่
  5. วัดความลึกของร่องยาง ความลึกของร่องยางไม่ควรน้อยกว่า 3 – 4 ซม.
  6. ลองเอาเล็บจิกดู ถ้ายางแข็งมากขนาดที่เล็บจิกไม่ลง ก็ไม่ควรใช้ต่อไป

ทั้งหมดนี้เป็นการสังเกตยางรถมอเตอร์ไซค์แบบง่าย ๆ ว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแล้วหรือไม่ ถ้าหากว่ายางรถมอเตอร์ไซค์ของท่านมีจุดสังเกตเข้าข่ายทั้ง 6 ข้อที่ว่ามานี้ แนะนำว่าให้รีบเปลี่ยนโดยด่วนเลย อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะเราคิดว่ามันไม่คุ้มอย่างแน่นอน

ยางรถมอไซค์ เติมลมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม

ยางรถมอไซค์ เติมลมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมที่สุด ตามค่าพื้นฐานแล้วยางรถมอไซค์ควรเติมลมที่ประมาณ 28-40 ปอนด์/ตร.น.(PSI) แต่อย่าลืมว่ายางรถมอไซค์บางคันมีขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้มีการเติมลมยางไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ดังนั้นควรเช็กอีกครั้งก่อนทำการเติมลมยางรถมอไซค์ของคุณ

หมายเหตุ: วิธีการเช็คว่ายางรถมอไซค์ของเราควรเติมลมเท่าไหร่ สามารถสังเกตได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณ สวิงอาร์มใต้เบาะ และคู่มือด้านหลังซ้ายของรถ พอเช็กรายละเอียดความเหมาะสมครบถ้วน เราก็จะสามารถเติมลงยางรถมอไซค์ได้อย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว

ยางมอไซค์ อายุการใช้งานกี่ปี

ยางมอไซค์ อายุใช้งานกี่ปี คำตอบ คือ เฉลี่ย 1-2 ปี หรือระยะทางประมาณ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรืออาจยืดอายุการใช้งานได้ถึง 3-5 ปี ซึ่งปกติแล้วจะแนะนำให้เปลี่ยนยางรถมอไซค์ในช่วง 1-3 ปีโดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วย

ประเภทของยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานทั่วไป

1. ยางที่มีเนื้อยางค่อนข้างนิ่ม

ให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดี มีความปลอดภัย เหมาะกับการขับขี่ในระยะทางไกล แต่ก็จะมีการสึกหรอที่มากกว่า ดอกยางหมดเร็วกว่า สาเหตุมาจากพื้นผิวถนนที่มีความแข็งและอุณหภูมิที่สูงขึ้นระหว่างการขับขี่

2. ยางที่มีเนื้อแข็ง

จะให้ความแข็งแรงทนทานในการรับน้ำหนัก การใช้งานบนถนนที่มีสภาพขรุขระไม่สม่ำเสมอ ดอกยางสึกยาก เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปประหยัดค่าใช้จ่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก

ยางมอเตอร์ไซค์มีแบบไหนบ้าง

โดยยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้น มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ยางนอกรถมอเตอร์ไซค์

1. ยางนอกแบบไม่ใช้ยางใน (Tubeless Tire - TL)


ยางทูปเลส หรือที่อาจจะรู้จักกันในชื่อยางจุ๊บเลส คือยางนอกแบบที่ไม่มียางในซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาจุดบกพร่องของยางในอดีต โดยจะใช้ยางนอกที่มีเนื้อวัสดุที่หนา และมีโครงสร้างด้านในเป็นผ้าใบที่แข็งแรงกว่าไปยางมอเตอร์ไซค์ทั่วไป

โดยยางทูปเลสนั้นจะต้องใช้กับล้อรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถรองรับยางทูปเลสได้เท่านั้น เนื่องจากขอบยางจะอันแน่นกับขอบกระทะล้อในการเก็บลม หากมีการรั่ว หรือมีรูจากการถูกสิ่งแหลมคมทิ่ม ลมจะรั่วออกช้ากว่ายางทั่วไป เพราะเนื้อยางจะบีบรูนั้นไว้ ต่างจากยางรุ่นเก่าๆที่ลมจะรั่วออกอย่างรวดเร็วหรืออาจจะเกิดยางระเบิดได้

เป็นยางที่มีความร้อนน้อยกว่า เนื่องจากไม่มีการเสียดสีกันระหว่างยางนอกและยางใน ทำให้มีโอกาสระเบิดน้อยกว่า และไม่เสี่ยงต่อการเกิดยางแบน แต่ทว่ายางทูปเลสมีราคาค่อนข้างสูง และหากมีแผลจากของมีคมขนาดใหญ่จะไม่สามารถใช้การปะแบบตัวหนอนได้ ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่

2. ยางนอกแบบใช้ยางใน (Tube Tire - TT)


ยางแบบใช้ยางในจะเป็นยางราคาถูก หาซื้อได้ง่าย มีความยืดหยุ่น สามารถอัดลมได้ รองรับการบรรทุกของหนักและใช้ในทุกสภาพถนน หากโดนของมีคมทิ่มจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการปะยางในราคามิตรภาพ แต่หากทิ่มทะลุเข้าไปถึงยางชั้นในแล้ว ลมจะรั่วออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ยางแบนในไม่กี่วินาที อีกทั้งยางนอกและยางในจะเกิดการเสียดสีกันในขณะขับขี่ ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนสูง และมีโอกาสในการระเบิดมากกว่ายางทูปเลส

วิธีเลือกยางมอเตอร์ไซค์ ต้องดูอะไรบ้าง

วิธีการเลือกซื้อยางรถมอเตอร์ไซค์นั้นหลายคนอาจคิดว่าก็ซื้อยางที่ราคาสูงหรือแบบของรถสปอร์ตไปเลยก็ได้เพราะทั้งเหนียว ทนทาน และให้การยึดเกาะเป็นอย่างดี แต่อันที่จริงแล้วถ้ารถมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้เป็นเพียงรถใช้งานธรรมดาทั่วไป หรือเป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แต่ก็ไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ก็ควรที่จะต้องเลือกยางที่มีคุณสมบัติตรงกับการใช้งานจริง โดยมีหลักพิจารณาเบื้องต้น ดังนี้

1. เลือกขนาดยางให้เข้ากับขนาดล้อ

แน่นอนว่าข้อแรกที่ต้องพิจารณาก่อนเลยก็คือการเลือกยางมอเตอร์ไซค์ที่จะใช้กับวงล้อของรถได้ ซึ่งในกรณีที่ต้องการจะเพิ่มหรือเปลี่ยนขนาดยางจากเส้นเดิมก็คงต้องศึกษาหรือสอบถามจากช่างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

2. เลือกประเภทของยางให้ถูกต้อง

อีกข้อหนึ่งซึ่งคงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องอื่นก็คือการเลือกยางให้เหมาะสมกับประเภทของรถและรูปแบบการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่ายางมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นของแต่ละแบรนด์ ย่อมถูกผลิตมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานกับรถแต่ละประเภทอยู่แล้ว การเลือกใช้ยางไม่เหมาะกับรถนอกจากจะมีผลต่อสมรรถนะแล้วยังถือว่าเสี่ยงต่อความปลอดภัยด้วย

3. ดูดอกยางและลักษณะยาง

ดอกยางและลักษณะของเนื้อยาง ย่อมส่งผลอย่างมากต่อสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งถึงแม้จะเป็นยางมอเตอร์ไซค์ประเภทเดียวกัน ทว่าแต่ละแบรนด์หรือแต่ละรุ่น ก็อาจจะมีการออกแบบรูปแบบของดอกยาง หรือคุณสมบัติของเนื้อยาง ความแข็งแรง ความนุ่ม ไม่เหมือนกัน ทำให้เหมาะกับการขับขี่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ขับขี่ควรต้องศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ด้วย

4. ดูความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง

ค่าความสามารถในการรับน้ำหนัก รวมถึงอัตราเร็วสูงสุดที่ยางทำได้ก็เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึง เพื่อตัดสินใจว่ายางรุ่นนี้มีสเปกที่คุ้มค่ากับราคา และเหมาะกับลักษณะการใช้งานหรือไม่

วิธีอ่านรหัสตัวเลขบนยางมอเตอร์ไซค์

สำหรับชุดตัวเลขบนยางรถมอเตอร์ไซค์นั้นล้วนมีความหมายที่บอกถึงสเปกและคุณลักษณะต่าง ๆ ของตัวยาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราจะพบเห็นชุดตัวเลขใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบตัวเลขหน่วยเป็นนิ้ว แบบตัวเลขระบบเมตริก และแบบตัวอักษร ซึ่งแต่ละแบบมีวิธีอ่านค่า ดังนี้

ระบบตัวเลขหน่วยเป็นนิ้ว - ตัวอย่าง 5.00 H 16 4PR

  • 5.00 คือ ความกว้างในส่วนของแก้มยาง
  • H คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางทำได้
  • 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
  • 4PR คือ ความแข็งแรงและความสามารถในการรับน้ำหนัก

ระบบตัวเลขเมตริก - ตัวอย่าง 130/90 - 16 67 H

  • 130 คือ ความกว้างของยาง
  • 90 คือ ซีรีส์ของยาง
  • 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
  • 67 คือ ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง
  • H คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางทำได้

แบบตัวอักษร - ตัวอย่าง MT 90 - 16 Load Range B

  • M คือ รหัสมอเตอร์ไซค์
  • T คือ รหัสความกว้างของยาง
  • 90 คือ ซีรีส์ของยาง
  • 16 คือ ขนาดวงล้อ (16 นิ้ว)
  • Load Range B ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง

นอกจากนี้ยังมีตัวเลขหรือตัวหนังสือที่อาจพบได้แต่ก็ไม่ทราบถึงความหมายที่แน่นอน หรืออาจพบได้ในยางมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ยางบิ๊กไบค์ เช่น ZR, M/C, 73W และ DOT 1219

ยางมอไซค์ ขอบ 17 ยางมอไซค์ ขอบ 14 ดูอย่างไร

ก่อนตัดสินใจซื้อยางรถมอไซค์ที่ไม่ว่าจะเป็นยางมอไซค์ ขอบ 17 หรือ ยางมอไซค์ ขอบ 14 เราต้องดูรหัสที่อยู่บนแก้มยางเสียก่อนว่ายางรถมอไซค์ของเรา มีขนาดขอบเท่าไหร่ และมีสเปกอื่น ๆ ยังไงบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะมี 2 แบบที่แตกต่างกันดังนี้

แบบที่ 1 (มาตรานิ้ว)

เป็นรหัสในลักษณะ 2.25 L17 4PR โดย 2.25 คือความกว้างหน้ายางหน่วยเป็นนิ้ว, L คือความเร็วสูงสุดที่ยางรับได้ L=120 กม./ชม., 17 คือ ขนาดขอบล้อหน่วยเป็นนิ้ว และ 4PR (Ply Rating) คือ ความแข็งแรงวัสดุที่ใช้รองหน้ายาง 4PR = เท่ากับความแข็งที่รองด้วยผ้าใบ 4 ชั้น

แบบที่ 2 (มาตราเมตริก)

เป็นรหัสในลักษณะ 120/70-ZR17 M/C (58W) โดย 120 คือ ความกว้างหน้ายางหน่วยเป็น มิลลิเมตร, 70 คือ ความสูงแก้มยาง โดยวัดเป็นเปอร์เซ็นต์จากความกว้างแก้มยาง ในที่นี้คือ 70% ของ 120 มม. = 84 มม., Z คือตัวบอกว่าใช้กับรถความเร็วสูง, R คือชนิดของยางเรเดียล ถ้าไม่มีจะเป็นยาง Bely Bias, 17 คือขอบล้อหน่วยเป็นนิ้ว, M/C บ่งบอกว่าออกแบบมาให้มอเตอร์ไซค์, 58 คือ เรทรับน้ำหนักสูงสุดเทียบเท่า 236 กก. และ W คือความเร็วสูงสุดที่รับได้ ซึ่ง W=270 กม./ชม.

ยางมอไซค์บวมเกิดจากสาเหตุอะไร

ยางมอไซค์บวมเกิดจากอะไร ในเบื้องต้นนั้นสามารถสันนิษฐานออกมาได้ประมาณ 3 ข้อ คือ ยางเสื่อมสภาพไปเอง, เกิดการเบียดหรือกระแทกรุนแรง และบรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัด รายละเอียดในแต่ละสาเหตุดูได้จากลิสต์ดังต่อไปนี้

ยางเสื่อมสภาพ

เพราะยางรถมอไซค์ขาดการดูแล หมดอายุ และใช้งานในขณะที่ลมยางอ่อนบ่อยครั้ง จึงทำให้แก้มยางรับภาระหนักเกินไป จนเกิดความเสียหายเป็นยางบวม

เกิดการเบียดหรือกระแทกรุนแรง

อาจทำให้โครงยางรถมอไซค์ภายในเกิดการเสียหาย ผ้าใบแก้มยางเสียหาย จนทำให้ยางบวมได้เช่นกัน

บรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัด

เช่นเดียวกันกับเหตุผลข้ออื่น เมื่อยางรถมอไซค์รับน้ำหนักมากเกินขีดจำกัด แก้มยางจะทำงานหนัก จนกลายเป็นยางบวมในท้ายที่สุด

ดูแลยางมอเตอร์ไซค์ ให้ใช้งานได้ยาวนาน

  1. เติมลมยางให้มีแรงดันพอดีกับการขับขี่
  2. ทำความสะอาดสิ่งแปลกปลอมที่ติดค้างอยู่คาล้อ เช่น หิน กรวด ลวด ตะปู ของแข็งแหลม เป็นต้น
  3. ขับขี่ ไม่เบรกล็อกล้อหรือออกตัวด้วยความเร็วสูงเกินไป
  4. ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง บนสภาพถนนที่มีทาง ขรุขระ หลุมบ่อหรือร่องถนน
  5. ตรวจเช็กดอกยางที่ใช้งาน อย่างสม่ำเสมอ

หากดูแลอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างระมัดระวัง นอกจากเป็นการดูแลยางรถแล้วยังรวมถึงตัวรถมอเตอร์ไซค์และผู้ขับขี่ให้ปลอดภัยอีกด้วย เป็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับยางมอเตอร์ไซค์สำคัญอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง เรารวบรวมแบบจัดเต็มจัดแน่นมาให้ทุกท่านได้เอาไว้เป็นความรู้ แต่การทำประกันภัยก็สามารถคุ้มครองทั้งท่านและรถมอเตอร์ไซค์ของท่านได้ด้วยเช่นกัน ให้คุณได้หมดปัญหากังวลใจระหว่างการเดินทาง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันก็สามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะรถยก รถลาก ทางประกันภัยยินดีให้บริการและอำนวยความสะดวกให้คุณลูกค้าทุกท่าน หากใครยังตัดสินในไม่ได้ว่าจะใช้ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ของบริษัทไหน ให้เรา แรบบิท แคร์ ช่วยเปรียบเทียบประกันแต่ละประเภทให้เหมาะสำหรับรถคุณ

ราคายางมอเตอร์ไซค์โดยเฉลี่ย

สำหรับราคายางรถมอไซค์โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่หลักร้อย-หลักพัน โดยจะแบ่งกันตามประเภทของยาง และรูปแบบการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ยางรถมอไซค์ปกติ ที่เป็นยางมอไซค์ ไม่มียางใน จะราคาหลักร้อยไปจนถึงเกือบพันบาท ส่วนยางประเภทที่ใช้กับรถขนาดใหญ่ หรือไม่ใช่รถทั่วไป จะมีราคาหลักพันขึ้นไป และมียางนอกยางในแตกต่างกันด้วย

หากคุณเป็นคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แรบบิท แคร์ ขอแนะนำเสริมว่าควรทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมเผื่อเอาไว้ เพราะจะช่วยดูแลได้อย่างครอบคลุมหากเกิอุบัติเหตุ ซึ่งถ้ามีความสงสัยว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร สามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อทำการเปรียบเทียบหาความเหมาะสม และอ่านรายละเอียดคำถามที่สงสัยได้อย่างครบถ้วน หรือจะเลือกโทรปรึกษาโดยตรงที่ 1438 ก็สามารถติดต่อได้ทุกเวลา

ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์

ตารางความคุ้มครองผลประโยชน์ 
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3
คู่กรณี
บุคคล ✔️✔️✔️✔️✔️
ทรัพย์สินของคู่กรณี✔️✔️✔️✔️✔️
รถของผู้เอาประกันภัย
การชนแบบมีคู่กรณี✔️✔️✔️
การชนแบบไม่มีคู่กรณี✔️
ไฟไหม้✔️✔️✔️
รถหาย✔️✔️✔️
ภัยธรรมชาติ✔️✔️✔️
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง✔️✔️
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล
อุบัติเหตุส่วนบุคคล✔️✔️✔️✔️✔️
การรักษาพยาบาล✔️✔️✔️✔️✔️
การประกันตัวผู้ขับขี่✔️✔️✔️✔️✔️

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา