Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Jan 20, 2023

ใช้รถใช้ถนนต้องรู้ไว้! ตามกฎหมายจราจร ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตร ?

ปัญหาที่ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนมากต้องเจอ คือ การที่ผู้ร่วมใช้ถนนขับรถไม่เปิดไฟเลี้ยว แล้วการเปิดไฟเลี้ยวสำคัญอย่างไร มีประเภทไหนบ้าง ตามกฎหมายจราจร ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตร ? ใครกำลังสงสัย วันนี้ แรบบิท แคร์ นำข้อมูลมาให้ รวมถึงนำบทลงโทษหากไม่เปิดไฟเลี้ยวมาให้รู้ไว้เป็นข้อเตือนใจ ขับรถปลอดภัยทำตามกฎหมายจราจร!

ความสำคัญของการให้สัญญาณไฟเลี้ยว

หากพูดถึงความสำคัญของการให้สัญญาณไฟเลี้ยวนั้น จะถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกมองข้ามในการขับขี่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากการให้สัญญาณไฟเลี้ยวเป็นวิธีการสื่อสารหลักของผู้ขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยแจ้งให้ผู้อื่นรู้ถึงเจตนาและทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ เช่น การเลี้ยว การเปลี่ยนเลน หรือการจอด โดยการให้สัญญาณไฟเลี้ยวจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมีเวลาที่จะปรับเปลี่ยนการเส้นทางการขับขี่ของตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

อีกทั้งการให้สัญญาณไฟเลี้ยวยังเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าผู้ขับขี่ต้องทำอย่างเคร่งครัด การละเว้นการใช้สัญญาณไฟเลี้ยวไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพียงเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลให้เกิดความผิดทางกฎหมายที่จะต้องได้รับบทลงโทษทางกฎหมาย จึงสามารถสรุปได้ว่าสัญญาณไฟเลี้ยวเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและเคารพต่อผู้ขับขี่คนอื่นบนท้องถนน อีกทั้งยังแสดงถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้องและสมควรที่จะปฏิบัติด้วยนั่นเอง

4 ประเภท การให้สัญญาณไฟเลี้ยวตามจุดต่าง ๆ ของรถ พร้อมความหมาย

  • ไฟเลี้ยวด้านหน้า: มักจะเป็นไฟสีเหลืองที่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของรถ ใช้สำหรับแจ้งเจตนาการเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
  • ไฟเลี้ยวด้านข้าง: ไฟเลี้ยวด้านข้างอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระจกมองข้างหรือติดอยู่ที่ข้างรถ โดยมักจะสว่างขึ้นเมื่อผู้ขับขี่กำลังเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
  • ไฟเลี้ยวด้านหลัง: เหมือนกับไฟเลี้ยวด้านหน้าแต่ตั้งอยู่ที่ด้านหลังของรถ มันจะสว่างขึ้นเมื่อผู้ขับขี่มีเจตนาที่จะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
  • ไฟฮาซาร์ด (Hazard Lights): ไฟฮาซาร์ดจะทำให้ไฟเลี้ยวทั้งหมดสว่างขึ้นพร้อมกัน โดยทั่วไปจะใช้เมื่อรถมีปัญหาหรือต้องการแจ้งว่ามีอุบัติเหตุหรืออุปสรรคบนถนนด้านหน้าทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่รถไปตามปกติได้นั่นเอง

ก่อนเลี้ยวต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตร ?

สำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่า ตามกฎหมายจราจร ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตร ? นั้น ตามกฎหมายของประเทศไทย ผู้ขับขี่จะต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนการเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางการขับขี่อย่างน้อย 30 เมตร ถือเป็นการให้สัญญาณล่วงหน้าซึ่งมีระยะเวลาให้กับผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน ได้สามารถปรับเส้นทางการขับขี่ของพวกเขา ซึ่งจะถือเป็นวิธีที่ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถปฏิบัติและจำเป็นต้องปฏิบัติเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนถนน

การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไฟเลี้ยวนี้อาจส่งผลให้ผู้ขับขี่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการปรับรวมถึงการลงโทษที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการไม่เปิดไฟเลี้ยว ผู้ที่ไม่เปิดไฟเลี้ยวอาจทำการเคลมประกันไม่ได้อีกด้วย (เงื่อนไขขึ้นอยู่กับบริษัท) เพราะฉะนั้น การให้สัญญาณไฟเลี้ยวตามกฎหมาย นอกจากจะเป็นเหมือนกับการแสดงถึงความรับผิดชอบและความเคารพต่อผู้ขับขี่คนอื่นแล้ว ยังถือเป็นการมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดอีกด้วย

บทลงโทษหากไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าหากผู้ขับขี่ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวเมื่อกำลังจะเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวตามกฎหมายของประเทศไทย อาจต้องเผชิญกับบทลงโทษทางกฎหมายซึ่งผู้ขับขี่อาจต้องรับการปรับทางการเงินหรือถูกหักคะแนนในใบขับขี่ ซึ่งตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 (แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2538) ม.36 วรรค 1, 148 จะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ใช้ไฟเลี้ยวแบบไหน ผิดกฎหมายจราจร ?

  • ไฟเลี้ยวเสีย/ไม่สามารถใช้งานได้: หากไฟเลี้ยวของคุณไม่ทำงาน ไม่สามารถให้สัญญาณไฟเลี้ยวได้ตามปกติ แสดงว่ารถของคุณอาจมีปัญหาทางเทคนิค การขับขี่โดยไม่มีไฟเลี้ยวที่ทำงานถือว่าผิดกฎหมาย
  • การใช้ไฟฮาซาร์ด (Hazard Lights) ในระหว่างการขับขี่: ในสถานการณ์ปกติ การใช้ไฟฮาซาร์ดในขณะที่ขับขี่อาจถือว่าผิดกฎหมาย เพราะมันสร้างความสับสนและอาจทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจตนาของคุณ
  • การใช้ไฟเลี้ยวสีที่ไม่ถูกต้อง: ตามกฎหมายไฟเลี้ยวทุกคันต้องมีสีเหลือง การใช้ไฟเลี้ยวสีอื่นถือว่าผิดกฎหมาย
  • การใช้ไฟเลี้ยวที่จังหวะการกะพริบไม่ถูกต้อง: หากเจ้าของรถทำการปรับแต่งไฟเลี้ยวให้มีจังหวะกะพริบแตกต่างจากมาตรฐานจะถือว่าผิดกฎหมาย

หลังจากทราบความสำคัญของการเปิดไฟเลี้ยว และรู้ว่าตามกฎหมายจราจร ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตรกันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันอย่างเคร่งครัด หากโดนจับหรือโดนปรับจะอ้างว่าไม่ทราบว่าต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว กี่เมตรก่อนเลี้ยวไม่ได้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังต้องมีสติทุกครั้งที่ขึ้นขับ และอย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ที่จะช่วยดูแลอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนได้ตลอดเวลาอย่างครอบคลุม กับ แรบบิท แคร์

หากไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองไหม

การไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุจะมีผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบของผู้ขับขี่และการเคลมประกันรถยนต์ได้ ดังนี้

1. การคุ้มครองของประกันรถยนต์

  • ประกันชั้น 1 : จะยังคงให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี แม้ว่า ผู้ขับขี่จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม แต่บริษัทประกันอาจพิจารณาปรับค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) หรือค่าเสียหายส่วนร่วม (Excess) ที่ต้องจ่ายในกรณีที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ เช่น ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวหรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร
  • ประกันชั้น 2+ และชั้น 3+ : จะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น โดยความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง หากผู้เอาประกันมีคู่กรณีที่สามารถระบุตัวตนได้ แต่หากไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนสิ่งของข้างทาง) จะไม่คุ้มครอง
  • ประกันชั้น 2 และชั้น 3 : จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกัน ดังนั้น หากผู้ขับขี่ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวและเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายของคู่กรณี แต่ไม่ครอบคลุมค่าซ่อมรถของผู้เอาประกันเอง

2. ผลกระทบต่อความรับผิดชอบและการเคลมประกัน

  • การไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวถือว่าเป็นการขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และสามารถถูกตีความว่าเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ขับขี่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบในการเกิดอุบัติเหตุ
  • หากผู้ขับขี่ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวและเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันอาจตัดสินว่า ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด โดยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดของคู่กรณี ในกรณีนี้อาจต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกหรือค่าปรับตามที่ระบุในกรมธรรม์

3. ผลกระทบต่อเบี้ยประกันในอนาคต

  • หากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดในการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกรณีที่เกิดจากการไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว บริษัทประกันอาจปรับเพิ่มเบี้ยประกันในปีถัดไป เนื่องจากการมีประวัติการเคลมประกันที่เกิดจากความประมาทหรือความผิดพลาดของผู้ขับขี่เอง

4. คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้สัญญาณไฟเลี้ยว

  • ควรให้สัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้งก่อนเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่รอบข้างสามารถทราบและเตรียมตัวได้ ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
  • หากเกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าไม่ได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยว ควรยอมรับความผิดพลาดของตนเองและทำการเจรจากับคู่กรณีอย่างสุภาพ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย

การไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ยังคงให้ความคุ้มครองอยู่ แต่จะส่งผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบในการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายบางส่วน และอาจมีผลต่อการปรับเบี้ยประกันในอนาคต ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติตามกฎจราจรและให้สัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้งที่จำเป็น

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา