Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Jan 31, 2023

กระจกรถเป็นฝ้าเกิดจากอะไร มักเกิดที่บริเวณไหน มีวิธีไล่ฝ้าอย่างไรบ้าง?

กระจกรถเป็นฝ้าเป็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นยามขับรถและถือว่าอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องขับรถเป็นระยะทางไกล ๆ หรือในเวลากลางคืน ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครต้องการทราบเหตุผลว่าการที่กระจกรถเป็นฝ้านั้นเกิดจากอะไร เกิดบริเวณไหนได้บ้าง รวมถึงต้องการทราบวิธีดูแลปฏิบัติเมื่อกระจกรถเป็นฝ้า แรบบิท แคร์ ได้นำวิธีง่าย ๆ มาฝาก ให้ทุกคนได้ลองอ่านและนำไปใช้กันดู!

กระจกรถเป็นฝ้าเกิดจากอะไร?

สำหรับใครที่สงสัยว่ากระจกรถยนต์เป็นฝ้านั้นเกิดจากอะไร โดยปกติแล้วการเกิดฝ้าบนกระจกรถมักจะเกิดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งสามารถเกิดจากอุณหภูมิความชื้นที่มีทั้งในและนอกตัวรถ

  • ถ้าฝ้าเกิดขึ้นที่ด้านนอกของรถ : คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าอุณหภูมิภายนอกรถสูงกว่าอุณหภูมิที่อยู่ภายในรถ

  • ถ้าฝ้าเกิดขึ้นที่ด้านในของรถ : คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าอุณหภูมิที่อยู่ภายนอกรถ

กระจกรถเป็นฝ้า เกิดขึ้นบริเวณใดได้บ้าง?

ขึ้นชื่อว่ากระจกรถเป็นฝ้า แน่นอนว่าสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนที่เป็นกระจกของตัวรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นกระจกด้านหน้ารถ กระจกด้านข้าง กระจกด้านหลัง ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งด้านนอกและด้านในของตัวรถขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอุณหภูมิความชื้นดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหากระจกรถเป็นฝ้าในหัวข้อถัดไป แรบบิท แคร์ มีวิธีแก้ปัญหามาให้ทั้งวิธีไล่ฝ้ากระจกหน้า วิธีไล่ฝ้ากระจกหลัง วิธีไล่ฝ้าในรถ ไปจนถึงวิธีการจัดการเมื่อกระจกรถเป็นฝ้าด้านนอกมาฝากทุกคน

วิธีไล่ฝ้ากระจกหน้า และวิธีไล่ฝ้ากระจกหลังรถยนต์

ในส่วนของวิธีไล่ฝ้าบริเวณกระจกหน้าและวิธีไล่ฝ้ากระจกหลังรถยนต์ความจริงแล้วไม่ได้แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงจะขึ้นอยู่กับว่าการเกิดฝ้าบริเวณต่าง ๆ นั้น เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกตัวรถนั่นเอง ซึ่งเบื้องต้นวิธีไล่ฝ้าในรถและนอกรถเมื่อกระจกรถเป็นฝ้าจะมี ดังนี้

  • การปรับอุณหภูมิภายในและภายนอกรถให้เท่ากัน : วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหากระจกรถเป็นฝ้าทั้งด้านในและกระจกรถเป็นฝ้าด้านนอกได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่เกิดฝ้าบนกระจกรถด้านนอก ควรปรับแอร์ในรถให้อุณหภูมิอุ่นขึ้น แต่ถ้าฝ้าเกิดขึ้นที่ด้านในรถ ควรเพิ่มระดับความเย็นจากแอร์ภายในรถในเย็นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรหมั่นสังเกตสภาพอากาศภายนอกรถอย่างสม่ำเสมอและพยายามบาลานซ์อุณหภูมิทั้งภายนอกและภายในให้เท่ากัน จะช่วยป้องกันไม่ให้กระจกรถเป็นฝ้าได้เป็นอย่างดี

  • การปรับแนวลมจากแอร์ให้ไม่โดยตรงบริเวณกระจกรถโดยตรง : เนื่องจากหากลมเย็นจากแอร์โดนบริเวณกระจกรถอุณหภูมิด้านนอกของกระจกจะสูงขึ้น และทำให้เกิดฝ้าบนกระจกได้ง่ายขึ้น วิธีนี้จึงถือเป็นอีกวิธีที่จะช่วยปรับอุณหภูมิที่ภายนอกและภายในกระจกรถให้เท่ากันทั้งสองฝั่ง

  • การลดกระจกเพื่อให้อากาศด้านนอกเข้ามาภายในตัวรถ : วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีในฤดูหนาว การลดกระจกลงเล็กน้อยจะช่วยให้อุณหภูมิด้านนอกเข้ามาและถ่ายเทอากาศและอุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถได้อย่างรวดเร็ว ส่วนในฤดูฝนอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมนักเนื่องจากละอองน้ำจะกระเด็นเข้ามาในรถและอาจส่งผลให้ภายในตัวรถเสียหายได้

  • ใช้ที่ปัดน้ำฝนในการปัดฝ้าที่เกิดขึ้นบนกระจกด้านนอก : กรณีที่กระจกรถเป็นฝ้าที่ด้านนอกเพียงฉีดน้ำสะอาดแล้วใช้ที่ปัดน้ำฝนปัดชะล้างฝ้าออกก็เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน

  • ปรับโหมดของช่องแอร์ให้เป็นโหมดสูบอากาศเข้า : ความจริงแล้ววิธีนี้คือวิธีที่ได้ผลดีที่สุด แต่ควรตัดสินใจเลือกใช้เป็นวิธีสุดท้าย เพราะเมื่อเปิดโหมดนี้จะทำให้ฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาติดตามช่องแอร์ของรถยนต์ และทำให้ช่องแอร์อุดตันและเสียหายได้นั่นเอง

ความอันตรายเมื่อกระจกรถเป็นฝ้า

สำหรับบางคนที่อาจยังไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของกระจกรถเป็นฝ้า จริง ๆ แล้วสถานการณ์นี้ถือว่าอันตรายเป็นอย่างมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนเพราะจะเป็นการเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากเลยทีเดียว เพราะแน่นอนว่าเมื่อขับขี่ยานพาหนะอยู่บนท้องถนน นอกจะจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาแล้ว ทัศนวิสัยการมองเห็นได้อย่างรอบทิศทางนับเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าแม้จะมองเห็นได้อย่างรอบด้านแต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นหากกระจกรถเป็นฝ้าจนบดบังทัศนวิสัย แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและค่าใช้จ่ายจากการอุบัติเหตุจากกระจกรถเป็นฝ้า

  • หมั่นสังเกตุอุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถอย่างสม่ำเสมอ
  • หากกระจกรถเริ่มเป็นฝ้าให้เร่งรีบแก้ปัญหาทันทีไม่ควรนิ่งนอนใจ
  • ตรวจสอบสภาพของรถยนต์ทุกครั้งก่อนใช้งาน
  • ขับขี่รถอย่างมีสติและมีสมาธิ ไม่วอกแวก ไม่ใช้โทรศัพท์เวลาขับรถ
  • มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน
  • ทำประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ถ้ากระจกรถเป็นฝ้าจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่

หากกระจกรถยนต์เป็นฝ้าจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ คำถามว่าประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่คุณทำไว้ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุนั้น

• ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันชั้น 1 มักจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเองหรือของคู่กรณี แต่ความคุ้มครองจะพิจารณาจากสาเหตุของอุบัติเหตุด้วยว่าเกิดจากความประมาทหรือการใช้งานที่ผิดพลาดหรือไม่

  • หากอุบัติเหตุเกิดจากกระจกเป็นฝ้า และเป็นเหตุสุดวิสัยที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหาย
  • อย่างไรก็ตาม หากบริษัทประกันตรวจสอบและพบว่าเกิดจากความประมาท เช่น ไม่เปิดที่ปัดฝ้าหรือเปิดแอร์เพื่อแก้ไขกระจกฝ้า ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่บริษัทประกันจะปฏิเสธการคุ้มครองได้

• ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+ จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับคู่กรณีในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด และในบางกรณีจะคุ้มครองรถของคุณเองในกรณีที่มีการชนกับยานพาหนะอื่น แต่ไม่ได้ครอบคลุมความเสียหายจากการที่รถของคุณเสียหายเพียงอย่างเดียว เช่น กระจกเป็นฝ้าและเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้มีการชนกับคู่กรณีอื่น

• ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3
ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3 จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับคู่กรณีในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด แต่จะไม่คุ้มครองรถของคุณเองในทุกกรณี รวมทั้งไม่ครอบคลุมความเสียหายจากการที่รถของคุณเสียหายเพียงอย่างเดียว เช่น กระจกเป็นฝ้าและเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น

ข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณีกระจกเป็นฝ้า

  • การเกิดกระจกเป็นฝ้าจนทำให้ทัศนวิสัยไม่ดีเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้ เช่น การเปิดที่ปัดฝ้า การปรับแอร์ภายในรถยนต์ เป็นต้น ดังนั้น ถ้าหากมีการตรวจสอบว่าคุณไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ควรจะทำได้ อาจทำให้บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการคุ้มครองจากเหตุนี้
  • หากคุณขับรถต่อไปแม้ทัศนวิสัยไม่ดี เช่น กระจกเป็นฝ้าหนักโดยไม่แก้ไขและเกิดอุบัติเหตุ จะถือว่าเป็นความประมาท ซึ่งอาจส่งผลต่อความคุ้มครอง

โดยสรุปแล้ว ประกันภัยชั้น 1 จะมีความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่การคุ้มครองขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และระดับความประมาทในเหตุการณ์นั้น หากเป็นเหตุสุดวิสัยที่ป้องกันไม่ได้ ประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ มักจะคุ้มครอง แต่หากเป็นความประมาทที่สามารถป้องกันได้ เช่น การขับขี่ต่อไปโดยไม่แก้ไขปัญหากระจกฝ้า ประกันภัยอาจปฏิเสธการคุ้มครองได้

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา