Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

ยางรถยนต์กับสารพัดเรื่องราวน่ารู้ เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและเลือกให้เหมาะสม

ยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในรถยนต์ของเรา หากยางที่เราใช้งานไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะสร้างความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้สูง ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับยางรถยนต์ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคนควรรู้เผื่อเอาไว้ ตั้งแต่เรื่องประเภทยางเพื่อการเลือกที่เหมาะสม ไปจนถึงวิธีการดูข้อมูลบนตัวยาง เช่น ขนาดยางรถยนต์ และข้อมูลสเปคยางด้านอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นต้องรู้ด้วยว่าพอเราใช้งานยางไปนาน ๆ เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ หรือแม้กระทั่งการสลับยางรถยนต์เองก็เป็นเรื่องสำคัญที่มีช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่น่ารู้เกี่ยวกับยาง แรบบิท แคร์ ได้ทำการรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วในบทความนี้

ประเภทยางรถยนต์

ประเภทของยางรถยนต์ ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อย คือ Highway Terrain, All Terrain และ Mud Terrain โดยแต่ละประเภทที่เรากล่าวมา จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อสร้างความเหมาะสมในการใช้งานบนสภาพผิวถนนที่ไม่เหมือนกัน สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับยาวรถยนต์ทั้งหมดมีดังนี้

  • Highway Terrain ยางรถยนต์ที่มีดอกยางขนาดเล็ก ลายละเอียด ร่องเล็ก รีดน้ำได้ดี น้ำหนักเบา โครงสร้างที่เน้นความนุ่มเงียบ เพื่อให้สามารถเกาะถนนและใช้งานได้กับรถยนต์หลายประเภท
  • All Terrain ยางรถยนต์ที่มีขนาดดอกยางใหญ่และหนามากขึ้น ตัวร่องจะค่อนข้างห่าง เน้นให้ส่วนของดอกยางสามารถสัมผัสผิวถนนได้เยอะ เพื่อให้ช่วยตะกุยดินได้ดี สามารถใช้บนเส้นทางดินขรุขระได้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้านำไปวิ่งบนถนนปกติจะมีเสียงดัง
  • Mud Terrain ยางรถยนต์ที่มีดอกหนาใหญ่ ร่องลึกและห่างมากที่สุด เพื่อสามารถตะกุยดินได้ดีกว่าเดิม ใช้ลุยได้กับสภาพพื้นผิวที่เป็นดินโคลนได้ดีเยี่ยม ไม่เหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป

ยางรถยนต์ เป็นวัสดุอะไร

วัสดุในยางรถยนต์ปัจจุบันนี้มักจะใช้เป็นเส้นใยไนลอนโพลิเอสเทอร์ หรือไม่ก็ใยเหล็กพันเข้ากับเนื้อยาง สำหรับโครงด้านใน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงสามารถรองรับแรงได้เป็นอย่างดี ส่วนยางรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV จะแตกต่างออกไปจากปกติ เพราะมีการใช้งานวัสดุสังเคราะห์เกรดกันกระสุนอย่าง อารามิด (Aramid) หรือ เคฟล่าร์ (Kevlar) เพิ่มเติมเข้าไปด้วย

วิธีเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสม

วิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสม จะมีทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน คือ เลือกยางที่เหมาะกับการใช้งานของเรา, ขนาดยางรถยนต์, ดอกยาง, อายุกับสภาพยาง และราคาพร้อมการรับประกันยาง ซึ่งหากเราเลือกตามวิธีทั้งหมดที่กล่าวมา รับรองได้เลยว่าคุณจะมีโอกาสได้ใช้งานยางรถยนต์ที่คุ้มค่ามากที่สุดแน่นอน ส่วนเรื่องรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละวิธีมีดังต่อไปนี้

  • เลือกยางที่เหมาะกับการใช้งานของเรา โดยดูที่ลักษณะการใช้งานรถยนต์ของเรา ว่าวิ่งบนนถนนแบบไหน ให้เลือกสเปกยางที่ตอบโจทย์มากที่สุด
  • ขนาดยางรถยนต์ ที่ควรนำมาอ้างอิงให้เหมาะสมกับซุ้มล้อ เพราะถ้าหากเราเลือกขนาดยางรถยนต์ที่ไม่ตรงกันกับสเปกล้อปัจจุบัน อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนมากกว่าปกติ
  • ดอกยาง มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ดอกยาง 2 ทิศ ช่วยให้หน้ายางนุ่มเงียบ, ดอกยางแบบทิศเดียว ยึดเกาะถนนได้ดี มีความเสถียร และดอกยางแบบไม่สมมาตร ช่วยรีดน้ำได้ดี เพิ่มแรงยึดเกาะที่สูง
  • อายุกับสภาพยาง โดยเฉพาะคนที่เลือกใช้งานยางรถยนต์มือสองหรือยางเปอร์เซ็นต์ ควรดูอายุที่ด้านข้างแก้มยาง เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นว่ายางเส้นนั้นเหลืออายุการใช้งานกี่ปี
  • ราคาพร้อมการรับประกันยาง ว่ามีช่วงราคาอยู่ในงบประมาณของเราไหม มีการรับประกันคุณภาพยางรถยนต์ยาวนานเท่าไหร่

วิธีดูยางรถยนต์

การดูยางรถยนต์มีส่วนสำคัญพื้นฐานประมาณ 3 ส่วน คือ ยางรถยนต์ หน้ากว้าง กับ หน้าแคบ ต่างกันอย่างไร, รหัสยางรถยนต์ และขนาดยางรถยนต์ ซึ่งวิธีการดูทั้งหมดจะทำให้เราทราบข้อมูลในด้านสเปกของยาง ความเหมาะสมต่อการใช้งานในยางรถยนต์เส้นนั้น ๆ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เราสามารถเลือกใช้งานยางได้ดีขึ้นนั่นเอง



ยางรถยนต์ หน้ากว้าง กับ หน้าแคบ ต่างกัน อย่างไร

ความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์หน้ากว้าง หน้าแคบ คือ ยางหน้ากว้างจะช่วยเน้นเรื่องการยึดเกาะถนน การควบคุมที่ง่าย รองรับแรงกระแทก ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยส่วนหนึ่ง ทางด้านยางรถยนต์หน้าแคบ จะเน้นที่การรีดประสิทธิภาพเรื่องความเร็ว ประสิทธิภาพการเบรกดีกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยการที่รับน้ำหนักได้น้อยลง มีโอกาสลื่นไถลสูงขึ้น



รหัสยางรถยนต์

รหัสยางรถยนต์จะบ่งบอกได้ถึงข้อมูลหลายส่วน เช่น ความกว้างของยางรถยนต์, อัตราส่วนขนาดล้อ, โครงสร้างยาง, เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ และดัชนีระบุความเร็วของยางที่สามารถรองรับได้ วิธีการอ่านข้อมูลรหัสจากยางรถยนต์ สามารถอ่านได้ที่แก้มยาง โดยเรียงลำดับข้อมูลที่บอกบกแก้มยางตามลำดับทั้งหมดที่เรากล่าวมาได้เลย



ขนาดยางรถยนต์

ขนาดของยางรถยนต์ หรือความกว้างของยาง จะดูได้จากตัวเลข 3 ตัวแรกสุด เช่น 205 มีความหมายว่า ความกว้างจากแก้มยางด้านหนึ่งไปสู่แก้มยางอีกด้านหนึ่ง มีระยะประมาณ 205 มิลลิเมตร ถ้าหากล้อของเราสามารถรองรับได้ที่สเปกนี้ เราจะต้องหายางที่มีขนาดดังกล่าวมาใช้งานเท่านั้น



อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางขนาดยางรถยนต์

ยางรถยนต์ ราคาเฉลี่ยเท่าไหร่บ้าง

ยางรถยนต์ในปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นตั้งแต่ 2,800-3,000 บาทต่อเส้น ไปจนถึง 8,000-10,000 บาทต่อเส้น หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิต สเปกยาง และเทคโนโลยีที่ถูกผสมผสานเข้าไปในส่วนของตัวยาง ยิ่งดีมากเท่าไหร่ ยิ่งมีราคาสูงมากขึ้น

ยางรถยนต์ อายุการใช้งาน

ยางรถยนต์ อายุการใช้งานจริงเฉลี่ยประมาณ 3.5 ปี หรือระยะกิโลเมตรที่ 40,000-50,000 กิโลเมตร เมื่อเราใช้งานยางรถยนต์ไปจนถึงระดับดังกล่าว แปลว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ได้แล้ว

ยางรถยนต์ กี่ปีเปลี่ยน

ยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนทุกกี่ปี คำตอบ คือ ประมาณ 3-4 ปี หรือ 3.5 ปีตามที่เรากล่าวไว้ในหัวข้อด้านบน เพราะอายุการใช้งานยางรถยนต์ที่แท้จริงจะสูงสุดที่ 10 ปีเลยทีเดียว แต่พอมาใช้งานจริงบนท้องถนนไม่ว่าจะพื้นผิวเรียบแบบในเมือง หรือการวิ่งทางไกลบ้าง ทำให้อายุการใช้งานยางรถยนต์น้อยลง จนถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์เร็วขึ้นตามความเหมาะสม

ยางรถยนต์ 10 ปี มีไหม

ยางรถยนต์ที่มีอายุ 10 ปีนั้นมีอยู่จริง เพียงแต่ว่าจะเป็นในรูปแบบของยางที่ถูกเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี รักษาสภาพยางด้วยอุณหภูมิและสถานที่เก็บที่เหมาะสมมากที่สุด จึงทำให้ตัวยางรถยนต์อาจมีอายุได้ถึง 10 ปีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก่อนนำมาเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อใช้งาน ควรเช็กอายุที่เหลือ กับสภาพปัจจุบันด้วยว่าหน้ายางพร้อมใช้งานหรือไม่

การเปลี่ยนยางรถยนต์

การเปลี่ยนยางรถยนต์นั้นต้องดูอะไรบ้าง และต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อไหม เป็นคำถามที่เจ้าของรถยนต์มือถือใหม่อาจสงสัยกับวิธีการจัดการยางรถยนต์เมื่อถึงเวลา เพื่อคลายความกังวลก่อนถึงเวลาเปลี่ยน สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อย่อยด้านล่างทั้งสองข้อ

เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องดูอะไรบ้าง

เปลี่ยนยางรถยนต์ เราต้องทำการเช็กหลายจุด เช่น ตรวจเช็กสภาพหน้ายางรถยนต์, มองหาความผิดปกติบนผิวยางโดยรอบ, ร่องรอยความผิดปกติในส่วนของแก้มยาง, เนื้อยางเริ่มแข็งกระด้าง และ ถึงเวลาอายุการใช้งานของยางรถยนต์ หากเช็กดูแล้วเรามีเกินกว่า 2 หรือ 3 ข้อ แปลว่าถึงเวลาแล้วจริง ๆ ที่ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ไปใช้งาน

เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องตั้งศูนย์ไหม

เปลี่ยนยางรถใหม่ ไม่ถึงขั้นที่ต้องทำการตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ เพราะว่าการตั้งศูนย์ถ่วงล้อทำขึ้นที่ส่วนของล้อรถยนต์ไว้อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถใช้ค่าเดิมได้ เนื่องจากการเปลี่ยนยางไม่ได้ส่งผลกระทบต่อช่วงล่าง เว้นแต่ว่าเราจะมีการเปลี่ยนลูกหมาก ดุมล้อ เพลาขับ หรือส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นถึงจะต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่

วิธีการดูแลยางรถยนต์

4 วิธีดูแลยางรถยนต์ที่ควรทำสม่ำเสมอ คือ เช็คลมยางรถยนต์ให้บ่อย ลดความเสี่ยงปัญหาที่ทำให้ยางเสียหาย, ตรวจสอบสภาพยาง เพื่อดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปขัดในร่องดอกยางไหม, หมั่นตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เมื่อรู้สึกรถยนต์วิ่งไม่ตรงศูนย์ และการสลับยางรถที่ควรทำทุก 10,000 กิโลเมตร ช่วยให้ยางหน้าและหลังมีสภาพดอกยางที่สึกเท่ากัน เวลาเปลี่ยนในอนาคตจะได้ไม่มีปัญหา

สลับยางรถยนต์ คือ อะไร จำเป็นไหม

การสลับยางรถยนต์ คือ การสลับยางรถยนต์ไปอยู่ในตำแหน่งอื่น เพื่อช่วยให้การเสื่อมสภาพของดอกยางเกิดความสม่ำเสมอกัน ส่วนสลับยางรถยนต์ ตอนไหน ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของแต่ละผู้ใช้งานรถยนต์ แต่เบื้องต้นแนะนำว่าควรสลับยางรถยนต์ทุกการใช้งานประมาณ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร จะค่อนข้างเหมาะสมมากที่สุด

ตั้งศูนย์ถ่วงล้อต้องทำตอนไหน

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อควรทำเมื่อใช้งานรถยนต์ไปประมาณ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งในระยะนี้จะช่วยให้สามารถยืดอายุการใช้งานยางรถยนต์ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้มีประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีขึ้นอีกต่างหาก

รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์กันไปแบบจัดเต็มขนาดนี้ อย่าลืมหมั่นดูแลยางรถยนต์ของคุณให้ดี จะได้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงเลือกทำประกันรถยนต์ที่ดูแลยางได้ครอบคลุมภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์และราคาเบี้ยที่คุ้มค่า ซึ่งสามารถเข้ามาเช็กหรือติดต่อสอบถามโดยตรงกับ แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 เรามีประกันรถยนต์ให้คุณได้เลือกจากบริษัทชั้นนำมากถึง 30 แห่ง!

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา