

ตารางขนาดยางรถยนต์ และวิธีการเทียบขนาดยางที่ควรรู้?
คนที่มีรถยนต์อาจจะพอมีความรู้ในเรื่องของยางรถยนต์กันมาบ้างพอสมควรแล้ว เพราะว่ายางรถยนต์หรือยางรถไฟฟ้า EV นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญมากของรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากจะช่วยทำให้รถยนต์นั้นวิ่งไปได้และวิ่งไปอย่างราบรื่นแล้ว การเลือกใช้ยางรถยนต์ก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน ทั้งในเรื่องของการเทียบขนาดยางรถยนต์ หรือในเรื่องของตารางขนาดยางรถยนต์ที่เราควรทำความเข้าใจเบื้องต้น เพราะถ้าหากว่าเราใช้ยางรถยนต์ที่ไม่เหมาะสมกับรถยนต์ ก็อาจจะทำให้ยางรถยนต์นั้นสึกหรอเร็ว หรือประสิทธิภาพในการวิ่งของรถยนต์นั้นน้อยลงได้
ขนาดยางรถยนต์มีกี่แบบ?
จากตารางขนาดยางรถยนต์และการเทียบขนาดยางรถยนต์ จะพบว่ามีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ
1. แบบเมตริก หรือ Metric Size
สำหรับขนาดยางรถยนต์แบบเมตริกนั้นจะสามารถสังเกตได้จากตัวเลข 3 หลักบนยางรถยนต์ เช่น ตัวเลข 3 หลักบนยางรถยนต์ คือ 275/60 R20 ก็จะหมายความว่ายางรถยนต์เส้นนี้มีความกว้างของหน้ายางอยู่ที่ 275 มิลลิเมตร มีความสูงของแก้มยางอยู่ที่ 60% (ซีรีส์) R คือโครงสร้างของยางที่เป็นแบบเรเดียล และเป็นยางรถยนต์ล้อขอบ 20 นิ้วนั่นเอง สามารถเทียบได้จากตารางขนาดยางรถยนต์ และจะมีวิธีการหาความกว้างของแก้มยางได้ดังนี้
- วิธีการหาความกว้างของแก้มยางแบบเมตริก
สูตร หน้ายาง x (ซีรีส์/100)
275 x (60/100) = 165 มิลลิเมตร - วิธีการแปลงหน่วยของแก้มยางจากมิลลิเมตรเป็นนิ้ว
สูตร หน้ายาง (มิลลิเมตร) / 25.4 [1 นิ้ว = / 25.4 มิลลิเมตร]
165 / 25.4 = 6.5 นิ้ว 
2. แบบนิ้ว หรือ Inch Size
สำหรับขนาดยางรถยนต์แบบนิ้วนั้นจะสามารถสังเกตได้จากตัวเลข 2 หลักบนยางรถยนต์ เช่น ตัวเลข 2 หลักบนยางรถยนต์ คือ 35 x 12.5 R17 ก็จะหมายความว่ายางรถยนต์เส้นนี้มีความกว้างของหน้ายางอยู่ที่ 12.5 นิ้ว มีความสูงของยางอยู่ที่ 35 นิ้ว R คือโครงสร้างของยางที่เป็นแบบเรเดียล และเป็นยางขอบ 17 นิ้วนั่นเอง สามารถเทียบได้จากตารางขนาดยางรถยนต์ และจะมีวิธีการหาความกว้างของแก้มยางได้ดังนี้
- วิธีการหาความกว้างของแก้มยางแบบนิ้ว
สูตร (ความสูงของยาง - ขอบล้อ) / 2
(35 - 17) / 2 = 9 นิ้ว - วิธีการหาอัตราความสูงของแก้มยางรถยนต์ (ซีรีส์) แบบนิ้ว
สูตร (แก้มยาง / หน้ายาง)
(9/12.5) = 72% หรือซีรีส์ 72 
การเทียบขนาดของยางจากตารางขนาดยางรถยนต์ที่ใกล้เคียงกัน
ขนาดยางรถยนต์แบบนิ้ว (Inch Size)  | ขนาดยางรถยนต์แบบเมตริก (Metric Size)  | 
|---|---|
30 x 9.5 R15 (ความสูง 30 นิ้ว, หน้ายาง 9.5 นิ้ว, แก้มยาง 15 นิ้ว)  | 295/65 R15 (ความสูง 30.1 นิ้ว, หน้ายาง 11.6 นิ้ว, แก้มยาง 7.5 นิ้ว)  | 
31 x 10.5 R15 (ความสูง 31 นิ้ว, หน้ายาง 10.5 นิ้ว, แก้มยาง 15 นิ้ว)  | 265/75 R15 (ความสูง 30.6 นิ้ว, หน้ายาง 10.4 นิ้ว, แก้มยาง 7.8 นิ้ว)  | 
35 x 12.5 R17 (ความสูง 35 นิ้ว, หน้ายาง 12.5 นิ้ว, แก้มยาง 17 นิ้ว)  | 315/70 R17 (ความสูง 34.4 นิ้ว, หน้ายาง 12.4 นิ้ว, แก้มยาง 8.7 นิ้ว)  | 
33 x 12.5 R20 (ความสูง 33 นิ้ว, หน้ายาง 12.5 นิ้ว, แก้มยาง 20 นิ้ว)  | 275/60 R20 (ความสูง 33.0 นิ้ว, หน้ายาง 10.8 นิ้ว, แก้มยาง 6.5 นิ้ว)  | 
ค่าดัชนีในการรับน้ำหนักของยางรถยนต์?
เมื่อเราเทียบขนาดยางรถยนต์ได้จากตารางขนาดยางรถยนต์ไปแล้ว สำหรับค่าดัชนีในการรับน้ำหนักของยางรถยนต์ หรือ Load Index นั้นจะสามารถรับน้ำหนักโดยมีหน่วยเป็นกิโลกรัม และจะแสดงค่าอยู่บนยางรถยนต์ โดยต่อหลังรหัส 3 หลักบนตัวยาง ซึ่งจะสามารถเทียบค่าได้จากตารางต่อไปนี้
ดัชนีการรับน้ำหนักของยางรถยนต์  | กิโลกรัม  | 
|---|---|
69  | 325  | 
70  | 335  | 
71  | 345  | 
72  | 355  | 
73  | 365  | 
74  | 375  | 
75  | 387  | 
76  | 400  | 
77  | 412  | 
78  | 425  | 
79  | 437  | 
80  | 450  | 
81  | 462  | 
82  | 475  | 
83  | 487  | 
84  | 500  | 
85  | 515  | 
86  | 530  | 
87  | 545  | 
88  | 560  | 
89  | 580  | 
90  | 600  | 
91  | 615  | 
92  | 630  | 
93  | 650  | 
94  | 670  | 
95  | 690  | 
96  | 710  | 
97  | 730  | 
98  | 750  | 
99  | 775  | 
100  | 800  | 
101  | 825  | 
102  | 850  | 
103  | 875  | 
104  | 900  | 
105  | 925  | 
106  | 950  | 
107  | 975  | 
108  | 1,000  | 
109  | 1,030  | 
110  | 1,060  | 
111  | 1,090  | 
112  | 1,120  | 
ตัวอักษรที่บ่งบอกขีดจำกัดความเร็วสูงสุดของยางรถยนต์?
เมื่อเทียบขนาดยางรถยนต์ได้จากตารางขนาดยางรถยนต์แล้ว ในส่วนของตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้นจะบ่งบอกถึงขีดจำกัดความเร็วสูงสุดที่ยางรถยนต์เส้นนั้นสามารถรับได้ มีหน่วยเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ตัว N-Y อยู่บนยางรถยนต์ โดยแสดงต่อหลังค่าดัชนีในการรับน้ำหนักของยางรถยนต์ สามารถเทียบค่าได้จากตารางต่อไปนี้
ตัวอักษรภาษาอังกฤษ  | ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.)  | 
|---|---|
N  | 140  | 
P  | 150  | 
Q  | 160  | 
R  | 170  | 
S  | 180  | 
T  | 190  | 
H  | 210  | 
V  | 240  | 
W  | 270  | 
Y  | 300  | 
วิธีการเลือกดูขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสม
- วิธีแรกที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการดูข้อมูลจากสมุดคู่มือการใช้รถยนต์ที่มาพร้อมกับรถยนต์ตอนที่ซื้อใหม่ ๆ เพราะในนั้นจะมีบอกทุกรายละเอียดของยางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของยางมาตรฐาน น้ำหนักของยางที่เหมาะสม แรงดันลมภายในยางรถยนต์ หรือประเภทของยางรถยนต์ที่เหมาะสม เนื่องจากยางรถยนต์นั้นจะมีหน้าที่ในการรับน้ำหนัก ลดแรงกระแทกระหว่างพื้นถนนกับล้อรถยนต์ ลดการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน รวมไปถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นรถยนต์แต่ละประเภทก็จะมีการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป ตามขนาดและการใช้งานของรถยนต์ และยังรวมไปถึงลักษณะการขับขี่ของผู้ขับอีกด้วย
 - วิธีต่อมาจะเป็นการดูจากตารางขนาดยางรถยนต์ ว่ารถยนต์ของเรานั้นควรจะใช้ยางขนาดเท่าไหร่ และควรเลือกใช้เป็นยางรถยนต์ประเภทใด
 - วิธีนี้จะดูจากขนาดของเครื่องยนต์เป็นหลัก เช่น รถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดของเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ควรจะเลือกใช้เป็นยางขนาด 185/60 R15 หรือ 195/55 R15 รถยนต์ขนาดกลางที่มีขนาดของเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี ควรเลือกใช้เป็นยางขนาด 215/50 R17 และรถกระบะที่มีขนาดของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,500-3,000 ซีซี ควรจะเลือกใช้เป็นยางขนาด 215/65 R16 หรือ 265/60 R18 (ยางรถยนต์ขอบ 18)
 
ตารางขนาดยางรถยนต์ เมื่อเปรียบเทียบในเรื่องความกว้างของหน้ายาง
หน้ายางรถยนต์แคบ  | หน้ายางรถยนต์กว้าง  | 
|---|---|
| ยางรับน้ำหนักได้น้อย | มีรัศมีวงเลี้ยวที่เพิ่มมากขึ้น | 
| ความต้านทานต่อการลื่นไถลน้อย | เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้น จึงทำให้เปลืองน้ำมันมากกว่า | 
| มาตรวัดความเร็วอาจคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง | เมื่อมีรัศมีวงเลี้ยวที่กว้าง จึงทำให้เมื่อเลี้ยวล้อรถจนสุด อาจทำให้เกิดการเสียดสีในซุ้มล้อรถได้ | 
ความคุ้มครองประกันรถยนต์
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
ถ้าหากว่ายางรถยนต์เกิดความเสียหายเกิดขึ้นมา แบบนี้ประกันภัยจะรับเคลมไหม?
หากจะพูดถึง ประกันรถยนต์ สำหรับแผนกรมธรรม์ประกันภัยชั้น 1 นั้นทางบริษัทประกันจะสามารถรับเคลมยางรถยนต์ที่เกิดความเสียหายขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น โดยจะมีการนำค่าเสื่อมสภาพของยางรถยนต์มาคำนวณพร้อมกับจะพิจารณาร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นบนยางรถยนต์ และส่วนใหญ่ก็จะสามารถเคลมได้ 50% ของราคายางรถยนต์ ซึ่งถ้าหากว่ายางรถยนต์นั้นเกิดความเสียหายที่นอกเหนือจากการเกิดอุบัติเหตุ แบบนี้ทางบริษัทประกันก็จะไม่สามารถรับเคลมประกันให้ได้ เช่น ยางที่หมดอายุไปแล้ว ยางที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือยางที่ใช้ผิดประเภท
ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ของตนเอง โดยเลือกดูจากตารางขนาดยางรถยนต์ข้างต้น ว่ารถของเรานั้นเหมาะสมที่จะใช้ยางรถยนต์แบบไหน
แล้วควรที่จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนดี?
สำหรับมือใหม่หัดขับหรือรถยนต์ป้ายแดง แนะนำว่าให้เลือกทำเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไปเลยจะดีที่สุด เพราะว่าเป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดทุกกรณี จึงทำให้เรามีความมั่นใจในทุกการขับขี่มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ในอนาคต เช่น รถยนต์ไฟไหม้ รถยนต์น้ำท่วม รถยนต์สูญหาย หรือเกิดอุบัติเหตุก็ตาม ทางบริษัทก็จะให้ความคุ้มครองทั้งตัวเราและตัวคู่กรณีอีกด้วย จึงเห็นได้ถึงคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายไปจริง ๆ เนื่องจากผลประโยชน์ที่เราจะได้รับนั้นมันเหมาะสมกับทั้งตัวเราและกับตัวรถยนต์เองด้วย สามารถคลิกดูรายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1
ซื้อประกันรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
แผนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกัน 2+, 2, ประกัน3+ และ 3 ล้วนมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับความคุ้มครองในแต่ละแผนกรมธรรม์ที่ลูกค้าได้เลือก แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบความคุ้มครองกับราคาของเบี้ยประกันภัยรถยนต์แล้ว แน่นอนว่าที่แรบบิท แคร์ นั้นสามารถให้ความสะดวกสบายได้มากเลยทีเดียว
เนื่องจากลูกค้าจะสามารถเลือกซื้อแผนกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เลยทันที เพราะแรบบิท แคร์ เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายจากบริษัทประกันภัยชั้นนำทั่วประเทศ ที่ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้เลยทันที เช็คไว เช็คง่าย รวดเร็วทันใจ แถมยังมีความปลอดภัยสูง สามารถคลิกดูข้อเสนอพิเศษและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แรบบิท แคร์


