เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ ไดสตาร์ท ทำหน้าที่อะไร? ต้องดูแลรักษาอย่างไร?
สำหรับรถที่ใช้งานมานานคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาอันน่าปวดหัวนี้ได้ จอดรถข้ามวัน จะไปข้างนอกทั้งทีต้องมาลุ้นว่าจะสตาร์ทรถติดหรือไม่ ซึ่งปัญหานี้หากเกิดก่อนเดินทางต้องเซ็งแน่ ๆ วันนี้ แรบบิท แคร์ มีสาเหตุและวิธีป้องกันเวลารถสตาร์ทไม่ติดมาฝาก
หลายคนคงสงสัยว่า “ไดชาร์จ” และ “ไดสตาร์ท” แตกต่างกันอย่างไรเพราะทั้งสองอย่างเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาล้วนทำให้รถยนต์ของคุณนั้นสตาร์ทไม่ติดเหมือนกันบ้างคนถึงกับเข้าใจว่าไดชาร์จและไดสตาร์ทคืออุปกรณ์เดียวกัน ซึ่งทั้งสองอย่างทำหน้าที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไดชาร์จ ทำหน้าที่ขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานเท่านั้นทำหน้าที่คล้ายเครื่องปั่นไฟ ปั่นกระแสไฟและจ่ายไปยังอุปกรณ์และระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถยนต์ แถมยังส่งไฟไปสำรองยังแบตเตอรี่อีกด้วย หากไดชาร์จเสียจะไม่สามารถปั่นกระแสไฟได้ เมื่อรถยนต์ใช้แบตเตอรี่สำรองจนหมดเป็นสาเหตุทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั้นเอง ซึ่งบทความในวันนี้จะเล่าถึงไดสตาร์ทเป็นหลักเพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถยนต์ของเราสตาร์ทไม่ติด
ไดสตาร์ทำหน้าที่อะไร
ไดสตาร์ท หรือเรียกอีกอย่างว่ามอเตอร์สตารท์ โดยหลักการทำงาน คือ ทำงานด้วยกระแสไฟตรงแรงดันต่ำใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์ โดยจะทำการแปลงกระแสไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานกล ส่งกำลังไปฉุดเครื่องยนต์ให้เครื่องยนต์ทำงาน เมื่อเครื่องยนต์ทำงานหรือเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้ว ไดสตาร์ทจะหยุดทำงานทันที เป็นการทำงานเพียงระยะเวลาสั้น ๆ จึงทำให้ไดสตาร์ทมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จนเกิดความละเลยทำให้เกิดอาการเสื่อมหรือเสียได้
ตำแหน่งไดสตาร์ท
หากเราต้องตรวจเช็คสภาพไดสตาร์ทอยู่เป็นประจำแล้วไดสตาร์ทอยู่ส่วนไหนของรถวันนี้มีคำตอบ เมื่อเปิดฝากกระโปรงหน้ารถขึ้นจะพบสายพานต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งหน้าเครื่อง ฝั่งตรงข้ามกับตำแหน่งนี้จะเรียกว่า ตำแหน่งท้ายเครื่อง ซึ่งไดสตาร์ทจะอยู่บริเวณตำแหน่งท้ายเครื่อง ใต้จานจ่ายตัวบนสุดสังเกตง่าย ๆ ด้านบนจานจ่ายจะมีสายไฟหัวเทียนจำนวน 4 เส้น
ปัญหาที่มักพบเกี่ยวกับไดสตาร์ท
ไดสตาร์ทค้าง
เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้วแต่ไดสตาร์ทยังหมุนและมีเสียงตลอดเวลา อาจมีสาเหตุมาจากมีสนิมหรือสิ่งสกปรกเกาะบริเวณไดสตาร์ท ทำให้โซลินอยเกิดอาการฝืดไม่เด้งกลับจึงทำให้มอเตอร์ค้างและหมุนตลอดเวลา แก้ไขได้โดยถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ออกเพื่อตัดกระแสไฟไม่ให้ชิ้นส่วนดังกล่าวทำงาน หากปล่อยให้ค้างเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้งอาจทำให้ไดสตาร์ทเกิดการไหม้ได้
ไดชาร์จไฟอ่อนหรือเสื่อม
อาการจะคล้ายกับแบตเตอรี่เสื่อม แต่เครื่องยนต์ยังสามารถสตาร์ทติดอยู่ เมื่อสตาร์ทรถติดจะได้ยินเสียงแปลก ๆ หรือเกิดอาการรถดับเองขณะรอบต่ำ รถดับกลางอากาศ เกิดจากไดชาร์จไฟอ่อน เป็นสัญญานเตือนว่าในอนาคตรถยนต์ของคุณอาจเกิดอาการสตาร์ทไม่ติด ปัญหาไดชาร์ทไฟอ่อนหรือเสื่อมต้องทำการแก้ไขโดยด่วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้งานรถยนต์ในภายหลัง ควรรีบเข้าศูนย์บริการหรืออู่เพื่อตรวจเช็คสภาพไดชาร์จไฟ
ไดสตาร์ทถ่านหมด
ไดสตาร์ทมีอาการหมุนช้าอืดหรือไม่หมุน ขั้นตอนแรกให้เราตรวจสอบแรงดันไฟภายในแบตเตอรี่หากแรงดันปกติไม่ต่ำหรือสูงเกินไปแสดงว่าอาการไดสตาร์ทอืด เกิดจาก แปรงถ่าน (Carbon Brush) หมดอายุ ซึ่งต้องรีบนำรถยนต์เข้าไปตรวจสภาพและทำการเปลี่ยนแปรงถ่าน ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปรงถ่านขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของรถยนต์
ซึ่งอาการสตาร์ทรถยนต์ไม่ติดหรือติดแล้วมีเสียง หมุนช้า อืด อาจเกิดจากปัญหาไดสตาร์ทถ่านหมดไม่ใช่อาการไดสตาร์ทพัง เพียงนำรถเข้าเปลี่ยนแปรงถ่านเท่านั้น ไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนไดสตาร์ใหม่ หากเกิดอาการดังกล่างแนะนำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์ทุกท่านนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด
วิธีแก้ไขปัญหาไดสตาร์ทเสีย
วิธีแก้ไขปัญหาไดสตาร์ ดังต่อไปนี้ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้รถสตาร์ทติดและสามารถขับไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เท่านั้น ไม่สามารถแกไข้ปัญหาได้ในระยะยาว
เข็นรถ สำหรับรถเกียร์ปกติ
วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะรถยนต์เกียร์ปกติ (เกียร์กระปุก) เท่านั้น โดยเริ่มเข็นจากการใส่เกียร์ 1 ค้างไว้
เหยียบคลัตซ์ พร้อมบิดกุญแจสตาร์ทรถไปพร้อม ๆ กัน ให้ไฟที่หน้าปัดแสดง เมื่อเข็นจนได้ความเร็วพอควร ให้ทำการปล่อยยคลัตซ์และเหยียบคันเร่ง หลังจากเครื่องสตาร์ทติดให้แตะเบรกไว้
ใช้สิ่งของเคาะบริเวณไดสตาร์ท
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ โดยใช้สิ่งของลักษณะแข็งที่สามารถหาได้ เช่น แม่แรง ประแจ กระทุ้งเบา ๆ บริเวณไดสตาร์ 3-4 ครั้ง ตรงตำแหน่งสีดำที่มีสติกเกอร์สีบรอนซ์แปะอยู่จากนั้นลองสตารท์เครื่องยนต์
วิธีบำรุงรักษาไดสตาร์ทไม่ให้เสียเร็ว
- ขณะสตาร์ทรถยนต์เมื่อเครื่องยนต์ติดให้ปล่อยมือทันที ไม่ควรบิดกุญแจหรือปุ่มสตาร์ทไว้นานเพราะอาจจะทำให้ไดสตารท์ไหม้ได้
- มั่นเช็คบริเวณไดสตารท์ไม่ควรมีคราบน้ำมันหรือฝุ่นเกาะอยู่บริเวณดังกล่าวเพราะอาจทำให้แปรงถ่านไดสตาร์ทสกปรกไม่สามารถหมุนหรือทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ควรหลีกเลี่ยงการทำให้ไดสตาร์ทโดนน้ำหรือชื้น เพราะจะทำให้เแปรงถ่านขัดตัว ทำให้ไดสตาร์ทไม่หมุนเป็นเหตุให้อุปกรณ์ภายในเกิดสนิมลแะความเสียหายได้
สาเหตุอื่นที่มีส่วนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
เมื่อนำรถเข้าตรวจเช็คไดสตาร์ทแล้วพบว่าปัญหาสตาร์ทไม่ติดไม่ได้มาจากไดสตาร์ท บางทีอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ดังต่อไปนี้ เช่น
แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม
เป็นสาเหตุรองอีกอย่างนอกจากไดสตารท์มีปัญหา คือ แบตเตอรี่รถยนเสื่อม โดยปกติอายุการใช้งานของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ปี หาแบตเตอรี่เสื่อม รถยนต์มักมีอาการ เช่น สตาร์ทติดยาก เวลาจอดรถเป็นเวลานานมักสตาร์ทไม่ติด หรือเวลาสตาร์ทรถยนต์ได้ยินเสียงแชะ ๆ ลากยาว วิธีปัญหาแก้เบื้องต้น คือ พวงสตาร์ทจากรถยนต์คันอื่นเพื่อให้แบตเตอรี่ได้รับการชาร์จไฟ
ขั้วแบตเตอรี่สกปรก
เราจะเช็คได้อย่างไรว่าขั้วแบตเตอรี่มีความสกปรก วิธีการเช็คง่าย ๆ คือ เช็คคราบขี้เกลือที่เกาะบริเวณขั้วแบตเตอรี่ มีลักษณะเป็นขี้เกลือสีเขียวอมฟ้า ซึ่งการที่ขี้เกลือเกาะบริเวณขั้วแบตเตอรี่ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งผ่านไปยังระบบต่าง ๆภายในรถยนต์ได้ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั้นเอง โดยวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือ ใช้แปรงขัดที่บริเวณขั้วแบตเตอรี่ด้วยน้ำโซดา
ปั้มติ๊กเสีย
ปั้มติ๊ก มีหน้าที่สำคัญในการดูดน้ำมันจากถังน้ำมัรไปยังเครื่องยนต์ หากปั้มติ๊กเสียจะไม่สามารถดูดน้ำมั้นขึ้นมาและไม่สามารถจุดระเบิดเครื่องยนต์ได้ สาเหตุที่ปั้มติ๊กเสียมาจากการที่เราปล่อยให้ไฟเตือนน้ำมันต่ำกว่าเกณฑ์เตือนบ่อยครั้ง ส่วนมากมักพบปัญหาปั้มติ๊กเสียในรถยนต์รุ่นเก่ามากกว่ารุ่นใหม่
ระบบไฟมีปัญหา
หากสตาร์ทรถไม่ติด และไม่มีไฟขึ้นโชว์บริเวณหน้าปัด อาการนี้มักเกิดขึ้นเวลาจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานหรือมีสาเหตุมากจากระบบไฟภายในรถยนต์เสียหรือเกิดการขัดข้อง โดยสาเหตุที่พบบ่อยคือหนูเข้าไปกัดสายไฟ หรือลืมปิดไฟหน้ารถเป็นระยเวลานาน
ปัญหารถยนต์ยอดฮิตอื่น ๆ
รถเข้าเกียร์ไม่ได้
- รถเข้าเกียร์ไม่ได้เกิดจากอะไร
- อาการน้ำมันเกียร์รั่ว วิธีแก้ไข
- รถเข้าเกียร์ไม่ได้ ประกันรับเคลมไหม
แบตเตอรี่รถยนต์หมด วิธีพ่วง
- อาการแบตรถยนต์หมดเป็นอย่างไร?
- วิธีพ่วงแบตรถยนต์
- ข้อควรระวังสำหรับการจั้มแบตรถยนต์
ไดสตาร์ทเสียแล้ว เคลมประกันได้หรือไม่ ?
สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ แต่ต้องเป็นกรณีที่ไดสตาร์ทเสียหายจากอุบัติเหตุเท่านั้น! โดยหากเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่นชนเสาไฟ ชนฟุตบาท หรือเสียหลักพลิกคว่ำ จะมีแค่ประกันชั้น 1 เท่านั้นที่รับเคลม หากแต่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกด้วย และหากเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ สามารถเคลมได้ด้วยเช่นกัน
แต่กรณีที่ประกันจะไม่รับเคลม ไม่ว่าจะเป็นประกันระดับใดก็ตาม คือกรณีที่ไดสตาร์ทเสียจากการใช้งานอย่างเดียว ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ เช่นคาวมขัดข้องของระบบเครื่องยนต์ การเสื่อมสภาพของไดสตาร์ท ไปจนถึงการใช้งานรถยนต์หนักหน่วงเกินไป ซึ่งเป็นความเสียหายของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อเราใช้งานรถยนต์ไปอย่างยาวนานจนเกินไป
จากบทความที่กล่าวมาเบื้องต้นทุกคนคงทราบกันแล้วว่า “ไดสตาร์ทรถยนต์” มีความสำคัญแค่ไหนแม้เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตามแต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยสำหรับคนที่ต้องใช้รถยนต์ในการไปไหนมาไหนเป็นประจำ เพราะฉะนั้นเราควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์ของเราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดการซ่อมครั้งใหญ่ จากเสียเงินเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นอาจต้องเสียเพิ่มเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกันตามไปด้วย อย่าลืมว่าระบบภายในของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบเดียวกันหากมีอุปกรณ์หรือระบบใดเกิดปัญหาอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน
หากคุณเป็นคนรักและเอาใจใส่รถ แรบบิท แคร์ แนะนำให้คุณทำ ประกันรถยนต์ เพราะประกันรถยนต์จะช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หากรถของท่านประสบอุบัติเหตุหรือเกิดปัญหาฉุกเฉินสามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะพังหนักแค่ไหนก็สามารถเคลมได้ คุ้มครองทั้งรถ คุ้มครองทั้งคน คุ้มสุด ๆ ให้เรา แรบบิท แคร์ ช่วยเลือก ประกันรถยนต์ ที่เหมาะกับรถคุณ
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์