รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด สามารถทำได้หรือไม่?
สำหรับคนที่เพิ่งออกรถคันใหม่มาได้ไม่นาน และเริ่มมีปัญหาการเงินที่สภาพคล่องเริ่มไม่เหมือนเดิม จนต้องมองหาที่ขายรถเพื่อเปลี่ยนรถเป็นเงินมาใช้จ่ายกัน ต้องบอกเลยว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจขาย เพราะรถยนต์ที่ยังไม่ผ่อนไม่หมดนั้นก็สามารถที่จะนำไปรีไฟแนนซ์ได้เหมือนกัน โดยที่การรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดบางแห่งก็ไม่เช็คเครดิตกันก่อนด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเรื่องสภาพคล่องด้านการเงินให้ดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมด จะมีข้อควรรู้อย่างไรบ้างนั้น ในบทความนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
รีไฟแนนซ์รถที่ยังไม่ผ่อนไม่หมด คืออะไร?
ก่อนที่จะไปดูขั้นตอนโดยรวมของการรีไฟแนนซ์รถยังไม่ผ่อนไม่หมด เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของรีไฟแนนซ์กันก่อน ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดก็คือการเปลี่ยนรถยนต์ให้กลายเป็นเงินก้อน โดยที่ยังมีรถไว้ใช้งานต่อไป ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้มีเงินใช้ในยามจำเป็น และเป็นเงินก้อนสำหรับการนำไปใช้ลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้การรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดนั้นจะเป็นการนำรถยนต์มาใช้เป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันขอสินเชื่อ
ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีรถเป็นทรัพย์สินที่มีชื่อตนเองเป็นเจ้าของ แต่ก็มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้เงินเป็นการฉุกเฉิน ซึ่งแน่นอนว่าการ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เป็นเรื่องที่ทำได้แม้ว่าจะยังเหลือระยะการผ่อนอีกหลายงวดก็ตาม ซึ่งทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่แล้วจะพิจารณาจากรถที่มีการผ่อนไปแล้วอย่างน้อย ๆ ครึ่งสัญญา อาทิเช่น รถยนต์ที่ต้องผ่อนทั้งหมด 5 ปี หากว่ามีการผ่อนไปแล้วมากกว่า 2.5 ปี ก็จะสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ทันที โดยที่บางแห่งก็ไม่เช็คเครดิตอีกด้วย
ผ่อนรถมาปีเดียว สามารถรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่?
แม้ว่าเงื่อนไขของการ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดแบบไม่เช็คเครดิตนั้นคือการผ่อนรถมาแล้วครึ่งทางก็ตาม แต่สำหรับที่เพิ่งออกรถไม่ได้นาน แต่อยากจะยื่นรีไฟแนนซ์บ้าง อาทิเช่นผ่อนมาได้ปีเดียวจะรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดได้หรือไม่นั้น คำตอบก็คือ “สามารถทำได้” แต่ทั้งนี้การรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด โดยที่มีระยะเวลาในการผ่อนเพียงแค่ปีเดียว จะต้องดูเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น จำนวนเงินที่ผ่อนมาแล้ว ซึ่งกรณีนี้การดาวน์ด้วยจำนวนเงินที่สูง และผ่อนระยะสั้นก็มีโอกาสที่จะผ่านการพิจารณาได้ง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดจะต้องเป็นรถที่ดาวน์มาในราคาสูงเท่านั้น เพราะรถที่ดาวน์ถูกแต่ผ่อนนานก็มีโอกาสที่จะยื่นรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดกับสถาบันการเงินได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละแห่งด้วย
ข้อควรทราบก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด
แม้ว่าการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดจะเป็นเรื่องที่ช่วยให้มีเงินก้อนมาใช้ในยามจำเป็น รวมทั้งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดกับบางที่จะไม่เช็คเครดิตก็ตาม แต่ทั้งนี้ผู้ที่จะยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด ก็มีเรื่องที่ควรทราบก่อนตัดสินใจอยู่ 7 ข้อด้วยกัน คือ
1. ตรวจสอบข้อมูลก่อนยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดให้ดี
แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดนั้นเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และได้เงินก้อนมาใช้จ่ายแบบทันใจในยามจำเป็นก็ตาม แต่ก่อนที่จะตัดสินใจยื่นเรื่องก็ควรที่จะทำการเช็กข้อมูลต่าง ๆ ของสถาบันการเงินที่จะยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดในเรื่องของเงื่อนไขก่อนรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมทั้งเรื่องของการคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติม สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่จะต้องเผชิญในอนาคตหลังจากทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดแล้ว ฉะนั้นอ่านเงื่อนไขให้ดีก่อนตัดสินใจ
2. ศึกษารายละเอียดของดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด
แน่นอนว่าเงินก้อนย่อมไม่ได้แลกเปลี่ยนมาฟรี ๆ เพราะการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดนั้นย่อมต้องมีการคิดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ซึ่งการพิจารณาเรื่องของจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนั้นจะต้องดูว่ามีจำนวนมากหรือน้อยกว่าที่เคยจ่ายงวดรถในแต่ละเดือนหรือไม่ เพราะหากอยู่ในปริมาณที่ต้องจ่ายเพิ่มก็อาจจะทำให้รายจ่ายในแต่ละเดือนตึงมือมากจนเกินไปได้ ดังนั้นเลือกสถาบันการเงินที่จะทำการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดให้ดี และพิจารณาอัตราดอกเบี้ยให้ละเอียด เพื่อให้ได้ความคุ้มค่า และความสบายใจในการผ่อนจ่ายต่อไป
3. เทียบมูลค่าให้ละเอียดก่อนรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด
การเปรียบเทียบมูลค่าออกมาให้เห็นภาพจะช่วยให้มองเห็นภาพโดยรวมของความเป็นไปได้ในการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดได้ง่ายขึ้น โดยการใช้สูตรคำนวณ “ค่างวดต่อเดือน x จำนวนงวดที่เหลือ = หนี้คงค้าง” จากนั้นให้ลองนำหนี้คงค้างมาเปรียบเทียบกับราคามือสองของรถรุ่นนั้น ๆ ก็จะช่วยให้ทราบว่าโอกาสที่จะผ่านการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดนั้นมีมากหรือน้อย รวมทั้งยังช่วยให้คำนวณโดยประมาณได้ว่าจำนวนเงินก้อนที่จะได้จากการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดน่าจะอยู่ที่ประมาณเท่าไร
4. ต้องมั่นใจว่าเงินจากการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดเพียงพอจริง
เหตุผลหลักของการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดก็เพื่อที่จะนำเงินก้อนมาปิดหนี้สินบางส่วน และบ้างก็จะนำเงินส่วนต่างที่เหลือไปลงทุนในการทำธุรกิจต่อไป ซึ่งแน่นอนว่ารีไฟแนนซ์แล้วก็ย่อมที่จะต้องผ่อนคืนด้วย ดังนั้นต้องพิจารณาว่าเงินที่ได้จากการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดจะแบ่งสัดส่วนในการไปใช้ทำอะไรบ้าง
5. ค่างวดหลังรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดสูงเกินไปหรือไม่
หลังทำการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดแล้ว ค่างวดที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งในส่วนนี้ผู้ที่ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดก็ต้องทำการคำนวณให้ดีด้วย ว่าหากสูงกว่าเดิมจะจ่ายไหวหรือไม่ และระยะเวลาที่จะผ่อนชำระควรจะเลือกระยะเวลาที่นานเพื่อความสบายใจในการผ่อนแต่ละงวดดีกว่า หรือเลือกผ่อนระยะสั้นให้หมดไวแต่แบกรับภาระที่เพิ่มขึ้นดีกว่า
6. เช็คประวัติกันสักนิดว่าติดเครดิตบูโรหรือไม่
แม้ว่าสถาบันการเงินบางแห่งจะมีเงื่อนไขในการ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดแบบไม่เช็คเครดิตก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นหากคุณคือคนที่ติดเครดิตบูโรอยู่แล้ว โอกาสที่จะยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดของคุณก็อาจจะยากขึ้น ทางที่ดีแล้วควรเช็คประวัติของตัวเองกันสักนิดก่อนที่จะทำเรื่องรีไฟแนนซ์ด้วยดีกว่า เพราะถึงจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ได้แบบไม่เช็คเครดิต แต่การไม่ติดเครดิตบูโรเลยก็ย่อมดีต่อประวัติในการกู้เงิน ทำสินเชื่อต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าแน่นอน
7. จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความรวดเร็วในการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดจริง ๆ ก็ให้ตรวจสอบในแต่ละสถาบันการเงินด้วยว่าเอกสารหลักที่จำเป็นต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดมีอะไรบ้าง และควรเตรียมให้ครบ พร้อมสำหรับการรีไฟแนนซ์ เพราะเมื่อคุณต้องรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดย่อมหมายความว่าคุณมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้เงินก้อน ฉะนั้นเอกสารที่ครบถ้วน ย่อมมีโอกาสที่จะยื่นเรื่องผ่านในเวลาอันรวดเร็วได้มากกว่า
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด
มาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะพอตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดดีหรือไม่ ซึ่งทางธนาคารกรุงศรีก็ได้ให้ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่น่าสนใจเอาไว้สามข้อด้วยกันคือ
- ช่วยลดความตึงเครียดในการชำระเงินต่องวด/เดือน ที่ลดลงได้
- การรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดช่วยให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งใหม่ลดลง
- มีโอกาสได้เงินส่วนต่าง สำหรับนำมาใช้จ่ายในเรื่องฉุกเฉินจำเป็นได้
เรียกได้ว่าการรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์เรื่องค่าใช้จ่ายในยามจำเป็นได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมกันให้ดีเสียก่อนถึงความคุ้มค่า และรายจ่ายค่างวดในแต่ละเดือนที่อาจจะต้องเพิ่มระยะเวลานานขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งผู้ที่เคยมีประวัติในการผ่อนจ่ายไม่ตรงงวดก็ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสถาบันการเงินแห่งใดบ้างที่ให้ รีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมดได้โดยไม่เช็คเครดิต เพื่อโอกาสที่จะได้เงินก้อนมาใช้จ่ายในยามจำเป็นต่อไป
เทียบกันชัด ๆ สินเชื่อเจ้าไหน
ผลิตภัณฑ์ | วงเงินอนุมัติสูงสุด | อัตราดอกเบี้ย | ระยะเวลาผ่อนชำระ |
สินเชื่อรถช่วยได้ ลีสซิ่งกสิกรไทย | 100% ของราคาประเมิน | ดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 24% ต่อปี | 72 เดือน |
สินเชื่อรถคือเงิน My Car My Cash ธนาคารไทยพาณิชย์ | 100% ของราคาประเมิน สูงสุด 5 ล้านบาท | ดอกเบี้ยพิเศษ 0.25% ต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี | 84 เดือน |
สินเชื่อรถเรียกเงิน Car Quick Cash ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | 150% ของราคาประเมิน | ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.27% ต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 15 ปี | 84 เดือน |
สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ UOB Car2Cash ธนาคารยูโอบี | 100% ของราคาประเมิน สูงสุด 2 ล้านบาท | ดอกเบี้ยพิเศษ 0.45%/เดือน สูงสุดไม่เกิน 24% ต่อปี | 72 เดือน |
สินเชื่อรถยนต์ที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ