เคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี ทำได้ไหม เสียค่า Excess หรือเปล่า

เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนทำให้กระจกรถยนต์เสียหายทั้งที่ไม่มีคู่กรณี หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า สามารถทำเรื่องเคลมได้หรือไม่ วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพามาดูกันว่า เคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี นั้น ทำได้หรือไม่ มีเงื่อนไข หรือขั้นตอนอย่างไรบ้าง

การจะเคลมได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในประกันรถยนต์ที่ได้ทำไว้ ซึ่งหากเป็นกรณีกระจกแตกโดยไม่มีคู่กรณี จะสามารถเคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้น โดยจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีคู่กรณี แต่จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเสียหายส่วนแรก (ค่า Excess) หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เอาประกันจะสามารถเล่ารายละเอียดของอุบัติเหตุได้ชัดเจนหรือไม่ หากสามารถแจ้งวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุได้ มีหลักฐานเป็นรูปถ่ายหรือคลิปจากกล้องหน้ารถ ก็จะไม่ต้องจ่ายค่า Excess แต่หากไม่สามารถให้รายละเอียดเหล่านี้ได้ ก็จะต้องเสียค่า Excess เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

ซึ่งการเคลมประกันชั้น 1 ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ ก็สามารถทำได้แบบไม่จำกัดครั้งจนกว่าประกันจะหมดอายุ ทั้งยังสามารถแจ้งเคลมทีเดียว หรือแจ้งเคลมทีละจุดเมื่อเกิดเหตุก็ได้เช่นกัน เว้นแต่จะเป็นการแจ้งเคลมประกันแบบคืนทุนความเสียหายของตัวรถทั้งหมด จึงจะสามารถเคลมได้ครั้งเดียว ซึ่งนี่ก็นับเป็นข้อดีของการทำประกันชั้น 1 ที่มีเงื่อนไขครอบคลุมการเคลมมากกว่าประกันชั้นอื่น ๆ

หากต้องการเคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี นั้น ผู้เอาประกันสามารถแจ้งเคลมได้ทันทีหลังเกิดเหตุ โดยจะต้องเตรียมเอกสารการเคลมให้ครบ โทรนัดหมายกับอู่ในเครือก่อนนำรถเข้าซ่อม ตามด้วยการแจ้งซ่อมที่อู่ในเครือโดยกรอกใบเรียกร้องค่าสินไหม หรือที่เรียกกันว่า Claim Form จากนั้นทางอู่จะบันทึกเข้าระบบเคลมออนไลน์ และจะได้เลขเคลมออกมาโดยอัตโนมัติ แต่ขั้นตอนก็อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท

ซึ่งขั้นตอนคร่าว ๆ ในการเคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี ประกอบไปด้วยขั้นตอนดังนี้

• ให้เจ้าหน้าที่ประกันประเมินว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเข้าเงื่อนไขในการเคลมหรือไม่
• เมื่ออนุมัติเคลมแล้ว สามารถดำเนินการกับศูนย์ให้บริการ หรืออู่ในเครือบริษัทประกันได้เลย
• อู่หรือศูนย์บริการจะคัดเลือกกระจกสำหรับเปลี่ยนให้ ซึ่งหากเป็นการเคลมกับศูนย์บริการก็จะได้กระจกเกรดคุณภาพจากแบรนด์โดยตรง
• ก่อนนำรถเข้าซ่อม ควรเก็บทรัพย์สินและของมีค่าในรถออกให้เรียบร้อย
• เมื่อดำเนินการซ่อมเรียบร้อย ควรตรวจสอบงานซ่อมว่าดำเนินการเรียบร้อยตามที่ตกลงหรือไม่
• ส่วนใหญ่แล้วทางอู่หรือศูนย์บริการจะเป็นผู้ส่งใบเสร็จเบิกค่าบริการให้กับบริษัทประกันเอง หลังงานเสร็จเรียบร้อย

เมื่อต้องการเคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี ผู้เอาประกันจะต้องติดต่อบริษัทประกัน และอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ทั้งวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ โดยจะต้องทำเรื่องเคลมทันทีหลังเกิดเหตุ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ แล้วค่อยทำเรื่องเคลม อาจจะเสียค่า Excess ได้ สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาใบขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ และสำเนากรมธรรม์ ซึ่งเมื่อแจ้งเคลมแล้ว บริษัทประกันอาจจะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ หรือให้เรานำรถไปตรวจเช็คที่อู่

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณี นั้น สามารถเคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้น หากเป็นประกันชั้น 2+ หรือ 3+ จะไม่ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี แต่หากเกิดเหตุชนแล้วหนี และมีหลักฐานจากกล้องหน้ารถหรือกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุที่เห็นป้ายทะเบียน หรือรถยนต์ของคู่กรณี ก็สามารถนำหลักฐานเหล่านี้ไปแจ้งเคลมได้

เงื่อนไขในการเคลมเมื่อไม่มีคู่กรณีนั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่ก็ยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ อีกที่สามารถเคลมได้นั่นก็คือ อุบัติเหตุที่เราขับรถไปชนสิ่งกีดขวางเองโดยไม่มีคู่กรณี หรืออุบัติเหตุจากภัยพิบัติต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย โดยแบ่งเป็นกรณีต่าง ๆ ดังนี้

ขับรถชนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ

โดยเกิดจากความประมาทของเราเอง เช่น ขับรถชนกำแพง ประตูรั้ว ฯลฯ จนทำให้กระจกเป็นรอย หรือทำให้ส่วนอื่น ๆ เสียหาย ในกรณีนี้สามารถแจ้งเคลมได้หากมีประกันชั้น 1

ชนแล้วหนี ไม่มีคู่กรณี

ในกรณีนี้เป็นอุบัติเหตุแบบชนแล้วหนี ซึ่งหากเป็นรถที่จอดไว้เฉย ๆ แล้วมีคู่กรณีมาขับชน เช่น ถูกถอยชน หรือครูดกระจกข้าง หากมีประกันชั้น 1 ก็สามารถเคลมได้ แต่จะต้องเสียค่า Excess แต่หากมีหลักฐานจากกล้องหน้ารถที่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ จะนับเป็นการเคลมแบบมีคู่กรณี และเมื่อมีประกันชั้น 1 ก็จะไม่ต้องเสียค่า Excess

รถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์ภายนอก

หากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ลูกเห็บตก น้ำท่วม ฯลฯ หากมีประกันชั้น 1 จะสามารถเคลมได้ แต่หากเป็นประกันชั้น 2+ ในบางแผน ก็สามารถซื้อความคุ้มครองในส่วนนี้เพิ่มเติมได้

สำหรับการเคลมกระจกรถยนต์ ไม่มี คู่กรณีนั้น หากต้องการเคลมอู่นอกประกัน สามารถทำได้ แต่จะมีขั้นตอนและเงื่อนไขที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าการส่งซ่อมอู่ในเครือ หากต้องการนำรถยนต์ไปซ่อมที่อู่ซึ่งไม่ใช่ศูนย์บริการในเครือ หรือไม่ได้เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันที่ทำอยู่ สามารถทำได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วค่าซ่อมอาจมีราคาแพง เหตุผลก็เพราะบริษัทประกันไม่ได้ทำข้อตกลงกับอู่นอกประกันไว้ จึงทำให้ราคาประเมินอาจจะต่ำกว่าค่าซ่อมจริง ซึ่งบริษัทประกันจะอนุมัติราคาค่าซ่อมในจำนวนเงินที่เท่ากับที่อู่ในเครือตีราคามา หากนำไปซ่อมเองและมีส่วนต่าง ผู้เอาประกันก็จะต้องออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง หรือหากมีการเปลี่ยนอะไหล่ อู่ที่ผู้เอาประกันนำรถเข้าซ่อมจะต้องเป็นผู้จัดหาอะไหล่ตามที่บริษัทประกันได้อนุมัติไป และจะต้องคิดส่วนลดราคาอะไหล่ให้เท่ากับร้านอะไหล่ในเครือของบริษัทประกัน

นอกจากนี้ การนำรถเข้าซ่อมที่อู่นอกประกัน ยังไม่สามารถทำได้ทันที เพราะจะต้องรอระยะเวลาดำเนินงานของบริษัทประกัน และรอให้อู่ตรวจสอบรถที่เสียหายว่ามีส่วนที่ต้องซ่อมเพิ่มเติมจากใบเคลมที่บริษัทประกันให้มาหรือไม่ เมื่อขั้นตอนนี้เรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันก็จะต้องตรวจสอบเอกสารประเมินความเสียหายที่อู่ออกให้ และทำการอนุมัติค่าซ่อม จากนั้น ผู้เอาประกันก็จะต้องนำใบคุมราคาส่งให้กับอู่ซ่อม จึงจะดำเนินการซ่อมได้

ยิ่งไปกว่านั้น การนำรถส่งซ่อมในอู่ที่ไม่ได้อยู่ในประกัน ผู้เอาประกันจะต้องดำเนินการด้านเอกสารด้วยตนเอง หากเป็นการนำรถส่งซ่อมกับอู่ในเครือบริษัทประกัน บริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มจองคิวไปจนถึงขั้นตอนตรวจสอบงานซ่อมหลังซ่อมเสร็จ แต่หากนำรถส่งซ่อมที่อู่นอกเครือ ผู้เอาประกันจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด เว้นแต่ว่าอู่ที่เลือกนำรถไปซ่อมจะมีการประสานงานกับบริษัทให้โดยตรง ก็จะสามารถมอบอำนาจให้อู่ทำแทนได้ ซึ่งเมื่อขั้นตอนการซ่อมเสร็จสิ้น ผู้เอาประกันจะต้องดำเนินการในส่วนของเอกสารเบิกเงินเคลมด้วยตนเอง

กรณีกระจกรถยนต์ร้าวเพราะหินดีดใส่ นับเป็นการเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งเคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1 และหากสามารถเล่าเหตุการณ์ สถานที่ วัน และเวลาเกิดเหตุได้ชัดเจน หรือมีหลักฐานเป็นกล้องหน้ารถก็จะไม่ต้องเสียค่า Excess แต่หากไม่สามารถระบุเหตุการณ์ได้ รวมทั้งไม่มีหลักฐานมายืนยันก็จะต้องเสียค่า Excess 1,000 บาท ต่างจากการเคลมกระจกแบบรถชนรถในเหตุที่มีคู่กรณี ซึ่งสามารถเคลมได้กับประกันทุกชั้น แต่จะเป็นการเคลมรวมกับความเสียหายของอะไหล่ส่วนอื่น

สำหรับการเคลมประกัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลมกระจก หรือความเสียหายในส่วนใดก็ตาม ผู้เอาประกันจะต้องศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ชัดเจน รวมทั้งพูดคุยรายละเอียดการเคลมให้ชัดเจน เพื่อรักษาสิทธิของตนในฐานะผู้เอาประกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากซื้อประกันรถยนต์กับบริษัทประกันที่ไว้ใจได้ ก็จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มค่าทั้งในแง่ของการบริการและคุณภาพของอะไหล่จากศูนย์บริการในเครือ ซึ่งหากเป็น ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ นอกจากจะมีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วไทยแล้ว ยังมีมาตรฐานบริการในระดับสากล คุ้มค่าทุกแผนประกันอย่างแน่นอน