“Work from Home” New Normal ที่จะไม่จบหลังหมด COVID-19
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะผ่อนคลายลงมากแล้ว กิจการต่าง ๆ ก็กลับมาเปิดกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้คืนสู่สภาพปกติ 100% ยังต้องมีการป้องกันอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอก 2 ได้ การปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับการป้องกันตัวเองจาก COVID-19 นี้ทำให้องค์กรบางแห่งอย่างเช่นที่ JobThai ยังคงยืดระยะการทำงานที่บ้านออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากการทำงานในช่วงที่ผ่านมาพบว่าไม่ต้องไปเจอกันที่ออฟฟิศพนักงานก็ยังสามารถสร้างงานที่มีคุณภาพออกมาได้ แถมยังจัดการตารางชีวิตของตัวเองได้ดี ไม่ต้องเผชิญสภาวะรถติด คนแออัดกันบนขนส่งสาธารณะ
New Normal ที่จะไม่จบหลังหมด COVID-19
ความเครียดจากการทำงานที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนในช่วงก่อนก็ลดน้อยลงไปพอสมควร ทั้งจากการที่เริ่มปรับตัวได้แล้ว และจากกิจกรรมต่าง ๆ ก็เริ่มกลับมาทำได้ตามการผ่อนคลายของรัฐบาล แต่ถ้าองค์กรไหนจะพิจารณาให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศก็ต้องมีมาตรการป้องกัน ลดโอกาสหากมีใครสักคนติดเชื้อ COVID-19 มา ก็ต้องสามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
การเว้นระยะห่างระหว่างกัน
โต๊ะทำงานที่เคยอยู่กันใกล้ชิดเปิดโล่ง ก็ต้องจัดให้ห่างออกจากกันคนนั่งโต๊ะต้องอยู่ห่างกันในระยะ 1-2 เมตร ถ้าอยู่ติดกันก็ต้องทำการติดตั้งแผ่นอะคริลิคใสกั้นฉากระหว่างโต๊ะทำงาน บริเวณที่ต้องใช้งานร่วมกันก็ต้องเพิ่มการติดสติ๊กเกอร์เตือน เช่น จุดที่ควรยืนในลิฟต์ จุดเข้าแถวรอในห้องน้ำ
อุปกรณ์การใช้งานต้องเป็นของใครของมัน
เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ของคนอื่น ลดการสัมผัสซึ่งกันและกัน แต่หากมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันจริง ๆ ก็ต้องมีการทำความสะอาดอยู่เสมอทั้งก่อนและหลังการใช้งาน
เตรียมอุปกรณ์ป้องกันในที่ทำงาน
ต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด โดยพนักงานสามารถใช้ได้ทั้งหน้ากากอนามัยปกติ หรือแบบผ้า องค์กรก็ต้องมีเตรียมไว้ให้แก่พนักงานด้วยบางส่วน และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยคือเครื่องมือวัดอุณหภูมิหน้าผากในจุดทางเข้าออฟฟิศ
ด้วยการที่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานขนาดนี้บางองค์กรจึงยังไม่รีบให้คนทำงานกลับมาที่ออฟฟิศ บางที่ก็ดูจะตกหลุมรักการทำงานแบบ Work form Home เลยด้วยซ้ำ ถ้าในอนาคตหากการแพร่ระบาด COVID-19 สามารถควบคุมได้เต็มที่แล้ว การทำงานที่บ้านก็อาจจะกลายเป็นการทำงานจากที่ไหนก็ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลาย ๆ องค์กรเริ่มพิจารณาให้กลายเป็นการทำงานแบบถาวรแทนการเข้าออฟฟิศ
ทำไมการทำงานที่บ้าน (Work from Home) จึงเป็นวิธีที่น่าใจ
ก่อนเกิดการแพร่ระบาดการทำงานแบบ ทำงานที่บ้าน (Work from Home) ได้รับความนิยมในหมู่ Tech Startup และองค์กรใหญ่ ๆ ในบาง Unit ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมาพวกเราเองที่ได้ทดลองทำงานแบบ Work from Home กันมาก็คงทราบดีว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะโปรแกรมแชต และระบบอินเทอร์เน็ตต้องมีความเสถียรระดับหนึ่ง ซึ่งการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นเหมือนการบังคับกลาย ๆ ให้คนทำงานต้องปรับตัวทันที และก็ทำให้พบว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เรามีในตอนนี้ มีความสามารถมากพอที่จะรองรับการทำงานโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ
ข้อดีของการทำงานที่บ้าน (Work from Home)
ถ้าในอนาคตที่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง เราก็จะสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ตาม Co-working Space ที่บ้าน หรือกระทั่งบนเตียงนอน และหากเบื่อกับการทำงานบนที่นอนก็สามารถย้ายไปมุมห้องนั่งเล่นหรือตามสถานที่ต่าง ๆ เบื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้ และถ้าคุณสามารถบริหารเวลาได้ดี ไม่มีเหตุให้จำเป็นต้องเข้าประชุมที่ออฟฟิศ หรือไปพบลูกค้าคนสำคัญแบบตัวเป็น ๆ จะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดซัก 1-2 สัปดาห์ก็เป็นไปได้
สายงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ก็อาจจะได้ไอเดียจากสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ หรือขณะที่บางคนชอบทำงานตอนกลางคืนก็สามารถกำหนดช่วงเวลาทำงานได้ด้วยตัวเอง และไม่เพียงแต่ช่วยลดเวลาการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน และความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้นอีกด้วย
จัดการเวลาให้กับตนเองได้มากขึ้น
การได้พบเจอเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศบ้างบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราเองก็ต้องการสังคมไม่แพ้กับต้องการสมาธิในการทำงาน แต่ด้วยการที่เราต้องรีบออฟฟิศให้ทันเวลาเข้างานในทุกวัน ต้องเบียดเสียดผู้คนบนขนส่งสาธารณะในช่วงเวลา Rush Hours หรือแม้แต่คนที่ใช้รถส่วนตัวก็ต้องเอาเวลามาทิ้งกับการเดินทางด้วย ถ้าทำงานที่บ้านเวลาที่ต้องเสียไปนี้ เราเอามาทำอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นได้นอนนานขึ้นอีกนิด หรือได้ตื่นมาทำงานอดิเรกที่ชอบ เช่น ดูแลต้นไม้ อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือจะออกกำลังกายให้ร่างกาย Active ก่อนจะเริ่มงานก็ได้
แถมการที่เราไม่ต้องเดินทางไปออฟฟิศอย่างรีบเร่งในทุก ๆ เช้าก็ยังลดค้าใช้จ่ายในการเดิน ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ลดความเครียดที่เกิดจากปัญหาจราจร รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพจากโรคระบาดต่าง ๆ ด้วย ไม่ใช่แค่ COVID-19 เท่านั้น แต่ก็ยังมีโรคไข้หวัด และโรคติดต่อชนิดอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราได้ผ่านการสัมผัสเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นในสภาพแวดล้อมนั้น ๆ
หลายองค์กรออกนโยบาย Work from Home แล้วเรียบร้อย
หลังจากที่ COVID-19 บังคับให้ทุกองค์กรถ้าไม่หยุดกิจการก็ต้องทำงานแบบ Work from Home ซึ่งจะด้วยยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์การแพร่ระบาด หรือจะพอใจในการทำงานแบบ Work from Home องค์กรใหญ่ ๆ ก็ออกมาให้พนักงานได้ Work from Home กันเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น Twitter และ Square ที่ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้อย่างถาวร Google ที่สนับสนุนให้พนักงานทำงานที่บ้าน แถมยังช่วยออกเงินค่าเฟอร์นิเจอร์โต๊ะทำงานให้อีก หรือ Facebook เองที่มองว่าในอนาคตพนักงานที่จะทำงานจากที่บ้านน่าจะมีสัดส่วนพอ ๆ กับพนักงานที่ยังมาทำงาน ก็เรียกได้ว่าให้อิสระในการทำงานกันไป
แน่นอนว่าการจะเลือกทำงานที่บ้านต่อ หรือจะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศก็มีหลายปัจจัยที่จะต้องพิจารณา คนทำงานเองก็มีหลายคนที่ชอบที่จะออกมาพบปะผู้คน เดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศมากกว่าอยู่บ้าน บางคนคำนวณแล้วค่าใช้จ่ายตอนอยู่บ้านสูงกว่าค่าเดินทางมาทำงานเสียอีกก็เป็นไปได้ แต่สำหรับใครที่พอใจ อยากจะทำงานแบบ Work from Home และมองหาโอกาสเริ่มต้นงานใหม่อยู่ ตอนนี้ JobThai เพิ่ม Feature “ทำงานที่บ้าน (Work from Home)” ในช่องค้นหางาน ค้นหางานตามที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นจากสายอาชีพ จังหวัด หรือประเภทธุรกิจ แล้วติ๊กเครื่องหมายถูกตรง “ทำงานที่บ้าน (Work from Home)” ในผลการค้นหาก็จะมีงานที่องค์กรให้ข้อมูลว่าทำงานที่บ้านได้มาให้คุณเลือกสมัครเลย
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี