การฟอกเงิน คืออะไร ? มีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่นักลงทุนต้องรู้ก่อน ?
กลโกงทางการเงิน นับวันยิ่งซับซ้อน แยบยล นับวันยิ่งเนียน หลอกตาได้จนต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมาอุดรูโหว่สำหรับเหล่าพวกมิจฉาชีพหัวใส แม้แต่ธุรกิจที่ดูดี น่าเชื่อถือ ก็อาจเป็นการฟอกเงิน ที่หากนำตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องก็อาจทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งความน่าเชื่อถือ ฉะนั้น นักลงทุนทุกท่านนอกจากความรู้ด้านธุรกิจ ยังจะต้องมีความเป็นนักสืบ รู้ทันสัญญาณเตือนของการฟอกเงินทั้งหลาย
ฟอกเงิน คืออะไร ?
การฟอกเงิน (Money Laundry) คือการนำเงินที่ได้มาจากความผิดทางกฎหมาย เช่น เงินพนัน ธุรกิจการโกงกิน หรือค้าขายของผิดกฎหมาย มาบิดเบือน เปลี่ยนแปลงต้นทางว่ามาจากการทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือนำเงินมาลงทุนต่อในกิจการที่แลดูขาวสะอาด อธิบายตามความหมายของคำเลยก็คือการนำเงินสกปรก มาซักฟอกให้ขาวสะอาด
วิธีการฟอกเงิน
จะเข้าใจ และรู้เท่าทันสัญญาณของการฟอกเงินก็จะต้องเข้าใจวิธีการทั้งหลายให้ได้ระดับหนึ่ง โดยแน่นอนว่า money laundry มีความซับซ้อนอยู่ค่อนข้างสูง แต่เราสามารถแบ่งกระบวนการได้ออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ
ขั้นตอนที่ 1 : Placement
หลังจากที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายแล้วเราจะต้องพยายามหาที่ลง ให้เงินก้อนนั้นกลายเป็นเงินที่มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่นหากได้เป็นเงินสีเทา หรือเป็นทองผิดกฎหมาย การ Placement คือการนำเงินไปฝากในธนาคารที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 2 : Layering
ใช้การโอนเงินหลาย ๆ รอบ หรือการตบแต่งบัญชี เพื่อเพิ่มความซับซ้อนในการตรวจสอบที่ไปที่มาของเงินนั้น ๆ ทำให้ดูเหมือนกับว่าเงินได้เข้าสู่กระบวนการโอนเข้าออกจากบัญชีทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเงินจะวนกลับมาให้ตนเอง
ขั้นตอนที่ 3 : Integration
เงินที่ถูกฟอกเรียบร้อยถูกนำมาใช้ หรือต่อยอดเป็นธุรกิจ ที่อาจใช้เป็นฉากกั้น บังหน้า เปลี่ยนเงินให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมาย ยากที่จะตรวจสอบ
โดยการฟอกเงิน บางครั้งอาจจะทำหลากหลายช่องทางผสมผสานกัน หรืออาจเลือกเพียงช่องทางเดียวก็เป็นได้ จึงทำให้ยากที่จะตรวจสอบมาก ๆ
รูปแบบกลโกงฟอกเงิน
แน่นอนว่ามีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจ และช่องทางต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพตัดสินใจใช้ แต่รูปแบบใหญ่ ๆ ที่มักนิยมใช้ มีด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้
แบบสเมิร์ฟ (Smurfs)
คำว่า Smurf ใช้เป็นสแลงภาษาอังกฤษในหมู่คนเล่นเกมออนไลน์ ได้แก่การสร้างบัญชีปลอม เช่น คนที่เล่นเกมเก่งอยู่แล้วแต่สร้างบัญชีม้าขึ้นมาเพื่อเล่นเกมกับคนที่อ่อนกว่า การฟอกเงินก็เช่นเดียวกัน เป็นการยกย้ายเงินจากบัญชีหนึ่งไปไว้ในอีกบัญชี โดยจะต้องทำให้ไม่เป็นที่จับตามาของทางการ หรือถูกธนาคารตรวจสอบ การโอนเงินจึงมักทำขึ้นทีละน้อย ๆ เพราะหากโอนทีเดียวเยอะ ๆ อาจถูกตรวจสอบได้ จึงนิยมโอนเงินน้อย ๆ ไปสู่หลาย ๆ บัญชี
แบบใช้นกต่อ (Mule)
ภาษาไทยจะใช้คำว่านกต่อ ส่วนตะวันตกจะใช้คำว่าลา หรือ Mule ซึ่งเป็นการจ้างบุคคลเพื่อให้ขนย้ายเงินสีเทา หรือเงินผิดกฎหมาย เพื่อย้ายสถานะ ทำให้เงินดูเหมือนกับว่าจะกลายเป็นเงินจากธุรกิจทั่วไป โดยนกต่อนี้อาจมีส่วนรู้เห็นในคดี หรือเป็นเพียงผู้ถูกว่าจ้างเท่านั้น เช่นถูกจ้างงานมาด้วยเงินจำนวนที่เยอะมากผิดปกติ ซึ่งผู้ที่เป็นนกต่อก็มีหน้าที่นำเงินเข้าไปอยู่ในบัญชีภายในชื่อตนเอง ทำให้ดูเหมือนกับว่าเงินนั้นมีที่มาที่ไปที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แบบมีฉากหน้า (Shell)
การที่ตั้งบริษัทเปล่า ๆ ขึ้นมา โดยบริษัทนั้นอาจไม่ได้มีสินค้า บริการ ทรัพย์สิน หรือพนักงานเลยก็เป็นได้ หรืออาจมีจริง แต่เป็นเพียงฉากหน้าหลอกสรรพากรต่าง ๆ แต่เบื้องหลังเงินที่เข้าบริษัทมากมายจะได้จากธุรกิจสีเทา จะเห็นได้บ่อยในรูปแบบของบริษัท Holding Company หรือบริษัท Acquisition ต่าง ๆ ที่ตัวบริษัทเองไม่ได้มีสินค้า หรือบริการที่ตายตัว ซึ่งบริษัทที่ใช้เป็นฉากหน้าจะต้องมีการปลอมแปลงบัญชี ให้ดูเหมือนการเงินที่เข้ามาในบริษัทมีที่มาที่ไป ฉะนั้นจึงมักจะต้องมีคู่ค้า หรือผู้ร่วมฟอกเงินเป็นเครือข่าย
ความผิดของการฟอกเงิน คืออะไร ?
ความผิดฐานฟอกเงินตาม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ 2542 เป็นได้ทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง ที่โจทก์มีหน้าที่นำเรียกร้องกับศาล
- มาตรา 6 : ผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงิน แม้จะกระทำนอกราชอาณาจักรผู้นั้นจะต้องรับโทษในราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
- มาตรา 7 : ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ถ้าได้มีการกระทำความผิด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันตามวรรคหนึ่ง ผู้สมคบกันนั้นต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
- มาตรา 8 : ผู้ใดพยายามกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดสำเร็จ
- มาตรา 60 : ผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี – 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท
- มาตรา 61[105] : นิติบุคคลใดกระทำความผิด ฟอกเงิน สมคบ หรือพยายาม ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,000,000 ล้านบาท และต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี
สัญญาณเตือน บุคคล หรือนิติบุคคลที่มีการฟอกเงิน
- ทรัพย์สินไม่สอดคล้องกับรายได้ : บุคคล หรือบริษัทนั้น ๆ อาจดูไม่ได้มีรายได้เยอะ หรือรายได้ไม่สม่ำเสมอ แต่สามารถซื้อ หรือมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่สอดคล้องกับรายได้ที่สมควรจะได้รับ
- พฤติกรรมโอนเงินมีความผิดปกติ : มีการทำธุรกรรมที่เยอะ และเป็นแบบแผน ย้ายเงินไปมาจากบัญชีหนึ่งไปสู่อีกบัญชีหนึ่ง โดยที่อาจเป็นบัญชีที่ไม่ได้จับจ่ายใช้สอยเยอะ ใช้เพียงโยกย้ายเงินไปมา
- บริษัทมีโครงสร้างที่ซับซ้อนผิดปกติ : บริษัทที่ใช้เป็นฉากหน้า อาจมีขนาดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่มีชื่อผู้บริหาร หรือชื่อตัวแทนผู้บริหารเยอะเพื่อปกปิดเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งเป็นโครงสร้างที่อาจไม่สอดคล้องกับขนาดของบริษัท
- รู้จักกับผู้มีอิทธิพลเยอะ ๆ : มีคอนเน็กชันกับผู้มีอิทธิพลเยอะ ๆ โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลในระดับท้องถิ่น หากเป็นบริษัทอาจมีรายชื่อบุคคลนั้น ๆ อยู่ในรายชื่อผู้บริหาร หรือ Board of Investment
มาตรการป้องกันการฟอกเงิน
หน่วยงานที่ป้องกันการฟอกเงินมีอยู่ในทุกประเทศ สำหรับประเทศไทยคือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ Anti-Money Laundering Office (AMLO) ซึ่งสามารถตรวจสอบปัญหาเรื่องของการ Money Laundry ติดต่อดำเนินคดี รวมไปถึงให้คำปรึกษาทางกฎหมายกับโจทก์ได้อีกด้วย
โดยหน้าที่หลัก ๆ ของหน่วยงานคือป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยการเสนอแนะนโยบายและมาตรการ วิเคราะห์ ตรวจสอบรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน ทางธุรกิจ และทรัพย์สิน สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ยึด อายัด และบริหารจัดการทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
หวังว่าอ่านมาถึงจุดนี้นักลงทุนทั้งหน้าใหม่ และมือเก๋า จะไม่ตกหลุมพรางด้านการลงทุน และไปลงทุนกับกลุ่มคน หรือบริษัท ที่เบื้องหลังทำธุรกิจสีเทา ธุรกิจฟอกเงิน ซึ่งหากใครอยากจะเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้นในทุกการลงทุน แรบบิท แคร์ อยากแนะนำ ประกันภัยไซเบอร์ หรือประกันภัยธุรกรรมออนไลน์ ใครสนใจคลิกเลย
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct