ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ พวงมาลัยล็อคเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แล้วมีสาเหตุมาจากอะไร
หนึ่งในข่าวอุบัติเหตุรถยนต์ที่ได้ยินแล้วหลายคนเกิดความกังวลมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องพวงมาลัยล็อคขณะขับขี่ เพราะมันส่งผลให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถบังคับทิศทางรถยนต์ได้ตามปกติ ซึ่งถ้าหากเราไม่สามารถประคับประคองพวงมาลัย หรือตั้งสติไว้ได้ มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงมาก
ดังนั้นเพื่อคลายความกังวลของทุกคนเกี่ยวกับเรื่องพวงมาลัยล็อค แรบบิท แคร์ จะพาไปเจาะลึกเพื่อดูข้อมูลกันตั้งแต่เริ่มต้นว่าอาการพวงมาลัยล็อคคืออะไร, สาเหตุพวงมาลัยล็อคเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง, วิธีรับมือเมื่อพบเจออาการ, วิธีป้องกันขั้นพื้นฐาน และวิธีปลดล็อคพวงมาลัยรถยนต์
พวงมาลัยล็อค คือ อะไร
พวงมาลัยล็อค คือ อาการที่จู่ ๆ พวงมาลัยรถยนต์ของเราก็มีสัมผัสที่หนักขึ้น เหมือนกับถูกล็อคไปในทิศทางใดทางหนึ่ง จนไม่สามารถบังคับได้ตามปกติ ซึ่งในเชิงวิศวกรรมแล้วมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะต่อให้เราดับเครื่องยนต์แล้ว ก็ยังสามารถบังคับพวงมาลัยได้ตามปกติ เพียงแต่อาจมีความรู้สึกที่หนักเล็กน้อย เนื่องจากระบบไฮดรอลิกได้หยุดการทำงานไปนั่นเอง อย่างไรก็ตามแม้โอกาสพวงมาลัยล็อคจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ถ้ามีสาเหตุที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นมาในขณะที่เราไม่รู้ตัว ก็มีความเสี่ยงเกิดอาการนี้ขึ้นได้เช่นกัน
5 สาเหตุพวงมาลัยล็อค
5 สาเหตุพวงมาลัยล็อค คือ กลไกการทำงานเกิดความล้มเหลว, ความผิดพลาดของระบบซอฟต์แวร์, แร็คพวงมาลัยเสื่อม, แร็คพวงมาลัยรั่ว และส่วนประกอบในพวงมาลัยเกิดความเสียหาย ซึ่งถ้าหากมีสาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นมาภายในระบบรถยนต์ของคุณ แต่ยังไม่รู้ตัวมาก่อน จึงมีความเสี่ยงที่ระหว่างขับขี่จะเกิดอาการพวงมาลัยล็อคขึ้นมาได้ ดังนั้นลองมาดูรายละเอียดของแต่ละสาเหตุพวงมาลัยล็อคเพิ่มเติมกัน เผื่อเอาไว้ว่าถ้าเราสัมผัสอาการเล็กน้อยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้นำรถยนต์เข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กทันที
กลไกการทำงานเกิดความล้มเหลว
เนื่องด้วยกลไกการทำงานของรถยนต์ในปัจจุบัน มีระบบที่สัมพันธ์กันค่อนข้างเยอะ ทำให้เราสามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่เมื่อมีระบบเกิดขึ้นมากมาย แปลว่าจุดที่มีโอกาส มีความเสี่ยงในความเสียหายก็เพิ่มขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ผิดพลาด สามารถส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยล็อค หรือสูญเสียการควบคุมกระทันหันได้เช่นเดียวกัน
ความผิดพลาดของระบบซอฟต์แวร์
ความผิดพลาดของระบบซอฟต์แวร์จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย กับรถยนต์ที่ใช้งานพวงมาลัยแบบไฟฟ้า เพราะมีการติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเชื่อมต่อไปยังระบบอื่น ๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในระบบ ทำให้เซ็นเซอร์มีการอ่านข้อมูลที่ผิดพลาดไป อาจกลายเป็นเหตุที่ทำให้พวงมาลัยล็อค และส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย
แร็คพวงมาลัยเสื่อม
แร็คพวงมาลัยเป็นชิ้นส่วนสำคัญอย่างมากในระบบพวงมาลัย เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยในการบังคับเลี้ยวกับระบบกันสะเทือน ซึ่งถ้าแร็คตัวนี้เริ่มมีปัญหา เราอาจพบอาการเล็กน้อยได้ เช่น พวงมาลัยสั่น หรือเลี้ยวแล้วพวงมาลัยไม่คืน กรณีที่พบเจออาการเหล่านี้ ควรนำเข้าศูนย์ หรืออู่ซ่อมรถที่มีความเชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ และแก้ไขโดยด่วน เพราะถ้ามีการฝืนใช้งานต่อไปจนแร็คเสียหาย มีความเสี่ยงเรื่องพวงมาลัยล็อค หรือพวงมาลัยรู้สึกหนักจนควบคุมได้ยากนั่นเอง
แร็คพวงมาลัยรั่ว
แร็คพวงมาลัยรั่ว หรือที่เรียกกันว่าปั๊มไฮดรอลิกเสียหาย เพราะชิ้นส่วนนี้จะช่วยทำหน้าที่ในการผ่อนแรงของพวงมาลัย ทำให้เรารู้สึกควบคุมง่ายขึ้นระหว่างขับขี่ แต่ถ้าหากว่าปั๊มรั่ว แร็ครั่วขึ้นมาในช่วงที่เรากำลังขับขี่ จะส่งผลให้พวงมาลัยควบคุมยากกว่าเดิม มีความรู้สึกที่หนักอึ้ง เป็นเหตุมาจากการที่ไม่มีระบบไฮดรอลิกคอยช่วยผ่อนแรง จนเหมือนกับว่าพวงมาลัยล็อคขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ส่วนประกอบในพวงมาลัยเกิดเสียหาย
สาเหตุพวงมาลัยล็อคสุดท้ายจะเป็นเรื่องส่วนประกอบอื่น ๆ ของพวงมาลัยเกิดความเสียหาย เช่น แกนพวงมาลัย แร็คพวงมาลัย สายพานหย่อน ลูกหมากปลายแร็คเสื่อม ลูกหมากหลวม ลูกปืนล้อหน้าหลวม และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบพวงมาลัย ซึ่งชิ้นส่วนทั้งหมดถ้าเกิดความเสียหาย ล้วนมีผลทำให้พวงมาลัยล็อค หรือรู้สึกหนักจนไม่สามารถควบคุมได้ตามปกติ
หากดูคร่าว ๆ แล้วสาเหตุพวงมาลัยล็อคในแต่ละข้อ มักเกิดจากความผิดปกติของระบบรถยนต์ หรือความเสียหายของชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ถึงจะสามารถเกิดอาการพวงมาลัยล็อคขึ้นมาได้ ฉะนั้นอาจจะลดความกังวลใจกันได้มากทีเดียวว่าต้องมีปัญหาถึงขั้นความเสียหาย ถึงเสี่ยงเจออาการนี้ได้ หากคุณนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กสภาพอย่างต่อเนื่อง มีการบำรุงรักษาเป็นประจำ ก็แทบไม่ต้องกังวลได้เลย
วิธีรับมือเมื่อพบเจออาการพวงมาลัยล็อคกระทันหัน
วิธีรับมือเมื่อพบเจออาการพวงมาลัยล็อคกระทันหัน ไม่ว่าจะในช่วงขับขี่ หรือตอนไหนก็ตาม ก่อนอื่นเราต้องตั้งสติให้ได้ อย่าเพิ่งรีบตกใจ เพราะในความเป็นจริงแล้วอาการพวงมาลัยล็อค ที่ถึงแม้จะมีคำว่าล็อค แต่มันจะไม่ได้ล็อคจนแข็งทื่อขยับไปไหนไม่ได้เลยเสียทีเดียว มันแค่จะทำให้คุณรู้สึกหนัก ควบคุมทิศทางได้ยากก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำหลังจากตั้งสติให้ได้ คือ การชะลอความเร็วรถยนต์ให้น้อยลงจากเดิม อย่าเบรกกระทันหัน พยายามประคองรถเข้าริมทางและจอดให้ปลอดภัย พร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉินให้รถคันรับรู้ สุดท้ายทำการโทรแจ้งประกันรถยนต์ หรือศูนย์บริการที่พร้อมดูแลคุณ ณ เวลานั้น เพื่อหาทางออกอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งช่างมาดูอาการ หรือส่งรถลาก รถยกมานำรถไปยังศูนย์แล้วตรวจสอบซ่อมแซมภายหลัง
วิธีป้องกันพวงมาลัยล็อคในเบื้องต้น
วิธีป้องกันพวงมาลัยล็อคในเบื้องต้น ต้องเริ่มต้นจากตัวผู้ขับขี่ก่อนเป็นอันดับแรก ผ่านการสังเกตความผิดปกติจากการใช้งานรถยนต์ เช่น หากรู้สึกว่าบังคับทิศทางยากเล็กน้อย ให้ลองตรวจเช็กลมยางก่อนว่าอยู่ในระดับความดันปกติหรือไม่ ถ้าเติมลมยางแล้วสามารถบังคับทิศทางได้ตามปกติ แปลว่ายังไม่มีปัญหากับชิ้นส่วนหรือระบบใด เว้นแต่ว่าช่วงที่หมุนพวงมาลัยเกิดอาการสั่น มีเสียงดังขึ้นมา ควรนำรถยนต์ของเราเข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการตรวจสอบเบื้องต้น และไล่ดูระบบพวงมาลัยทั้งหมดโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ หากมีปัญหาความเสียหายในส่วนใด จะได้รีบทำการแก้ไข ซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ก่อนเกิดอาการพวงมาลัยล็อคบนท้องถนน จนมีความเสี่ยงอุบัติเหตุตามมา
วิธีปลดล็อคพวงมาลัยรถยนต์
วิธีปลดล็อคพวงมาลัยรถยนต์ จะใช้งานได้กับเฉพาะรถยนต์แบบที่ยังใช้กุญแจบิดสตาร์ตอยู่ เนื่องจากตรงช่องเสียบกุญแจในรถยนต์บางรุ่น จะมีการบิดมาที่โซน Lock ซึ่งเป็นระบบการป้องกันของรถยนต์นั่นเอง แต่ในกรณีที่พวงมาลัยล็อค และไม่สามารถปลดล็อคได้ตามปกติ อาจลองดูลำดับวิธีดังต่อไปนี้ได้
- เหยียบเบรก เข้าเกียร์ N หรือ P
- ลองเสียบกุญแจใหม่อีกครั้ง
- ลองขยับพวงมาลัยซ้ายขวา ก่อนบิดสตาร์ตกุญแจช้า ๆ
- พอปล็ดล็อคได้แล้วพวงมาลุยกลับมาหมุนปกติ
- ให้เราสตาร์ตรถยนต์ตามปกติได้เลย
แต่ถ้าหากลองทำตามแล้วกลายเป็นว่ารถยนต์สตาร์ตไม่ติด พวงมาลัยล็อคอยู่ อาจต้องลองขยับเกียร์เป็นเกียร์ P เพียงอย่างเดียว แล้วลองทำตามขั้นตอนอีกครั้ง หากไม่ได้จริง ๆ ต้องลองติดต่อศูนย์บริการเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนรถยนต์ที่เป็นระบบ Push Start แค่เหยียบเบรก กดปุ่มสตาร์ตรถ เพียงเท่านี้ก็สามารถขยับพวงมาลัยได้ตามปกติแล้ว
การป้องกันเหตุพวงมาลัยล็อคนั้นขอเพียงแค่ เราส่งรถยนต์เข้าเช็กระยะอย่างต่อเนื่อง รับการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถลดความเสี่ยงการเกิดเหตุการณ์นี้ได้เกือบเป็นศูนย์แล้ว แต่ถ้าใครยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อย อยากรับความคุ้มครองเพิ่มเติมเผื่อไว้ในยามที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ประกันรถยนต์จะพร้อมช่วยดูแลคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าซ่อมแซมรถยนต์, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าทรัพย์สิน และอื่น ๆ ตามความคุ้มครองของประกันที่คุณเลือก ซึ่งหากยังเลือกไม่ได้ หรือขาดข้อมูลที่ต้องการ เพียงแค่ติดต่อหา แรบบิท แคร์ ผ่านเบอร์ 1438 เรายินดีตอบทุกรายละเอียด และเมื่อคุณตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์กับเรา เตรียมรับความพิเศษด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 70% และยังมีผ่อน 0% ให้นานสุด 10 เดือนอีกด้วย
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology
