น้ำมัน E85 คืออะไร? ข้อดี ข้อเสีย และทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับเชื้อเพลิงทางเลือก





ในยุคที่พลังงานทางเลือกกลายเป็นหัวข้อสำคัญ ทั้งจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผันผวน “น้ำมัน E85” ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและราคาที่มักจะย่อมเยากว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป ทำให้ผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาพิจารณาเชื้อเพลิงชนิดนี้
อย่างไรก็ตาม การจะเปลี่ยนมาใช้ น้ำมัน E85 นั้นจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย และความเข้ากันได้กับรถยนต์ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับ น้ำมัน E85 ตั้งแต่ส่วนผสมพื้นฐาน ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น และตอบคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า น้ำมัน E85 เหมาะสมกับรถยนต์และการใช้งานของคุณหรือไม่
E85 คือ อะไร
คำถามนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจเชื้อเพลิงชนิดนี้ E85 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเอทานอล และน้ำมันเบนซิน โดยคำว่า “E” ย่อมาจาก เอทานอล และ “85” หมายถึง สัดส่วนของเอทานอลที่ผสมอยู่ประมาณ 85% โดยปริมาตร ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 15% คือน้ำมันเบนซินพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพอื่น ๆ
เอทานอลที่ใช้ใน น้ำมัน E85 ส่วนใหญ่ผลิตมาจากพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย, มันสำปะหลัง หรือข้าวโพด ทำให้ถือเป็นพลังงานหมุนเวียน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าน้ำมันเบนซินล้วน ๆ เนื่องจากช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บางส่วนได้ การนำ น้ำมัน E85 มาใช้จึงเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนของภาครัฐในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย
การทำความเข้าใจเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของส่วนผสม แต่ยังรวมถึงที่มาและวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเชื้อเพลิงชนิดนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ลดการพึ่งพาน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และสนับสนุนภาคเกษตรกรรมภายในประเทศ
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 มีส่วนผสมอะไร / ส่วนผสม E85
ตามที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนผสมหลัก ๆ ประกอบด้วย
- เอทานอล (Ethanol) ประมาณ 79% – 85% โดยปริมาตร
เอทานอลเป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง (เอทิลแอลกอฮอล์) ที่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ มีค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดการน็อกของเครื่องยนต์ เอทานอลที่ใช้ในไทยส่วนใหญ่ผลิตจากอ้อยและมันสำปะหลัง
- น้ำมันเบนซินพื้นฐาน (Base Gasoline) ประมาณ 15% – 21% โดยปริมาตร
น้ำมันเบนซินทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในสภาพอากาศเย็น เนื่องจากเอทานอลบริสุทธิ์มีคุณสมบัติการระเหยที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ยังช่วยในการหล่อลื่นชิ้นส่วนบางอย่างในระบบเชื้อเพลิง และเป็นตัวทำละลายสำหรับสารเพิ่มคุณภาพต่าง ๆ
- สารเพิ่มคุณภาพ (Additives) ปริมาณเล็กน้อย
มีการเติมสารเคมีต่าง ๆ ลงไปเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของ น้ำมัน E85 เช่น สารป้องกันการกัดกร่อน สารเพิ่มความเสถียร สารช่วยทำความสะอาดหัวฉีดและห้องเผาไหม้ เพื่อให้เชื้อเพลิงมีคุณภาพตามมาตรฐานและปกป้องเครื่องยนต์
สัดส่วนที่แน่นอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามฤดูกาลหรือตามข้อกำหนดของผู้ผลิตแต่ละราย แต่โดยทั่วไปจะยึดเกณฑ์ที่มีเอทานอลเป็นส่วนประกอบหลักที่ประมาณ 85% ตามชื่อ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 นั่นเอง การเข้าใจ ส่วนผสมอย่างละเอียดช่วยให้ทราบถึงคุณสมบัติและผลกระทบต่อเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น
น้ำมันเบนซิน E85 หมายความว่า
วลี “น้ำมันเบนซิน E85” อาจทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันเบนซิน E85 หมายความว่า เป็นเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมหลักคือเอทานอล 85% และน้ำมันเบนซินพื้นฐาน 15% ใช้สำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่ถูกออกแบบหรือปรับแต่งให้รองรับเชื้อเพลิงชนิดนี้ได้
คำว่า “เบนซิน” ในบริบทนี้ มักจะหมายถึงประเภทของเครื่องยนต์ที่เชื้อเพลิงนี้ใช้ได้ (เครื่องยนต์จุดระเบิดด้วยหัวเทียน หรือ Spark Ignition Engine) ไม่ได้หมายความว่า E85 เป็นน้ำมันเบนซินธรรมดา แต่เป็นการระบุประเภทการใช้งานให้ชัดเจนว่าเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ไม่ใช่เครื่องยนต์ดีเซล ดังนั้น เมื่อได้ยินคำว่า น้ำมันเบนซิน E85 ก็ให้เข้าใจว่าเป็น น้ำมัน E85 หรือแก๊สโซฮอล์ E85 ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
น้ํามัน E85 สีอะไร
โดยปกติแล้ว น้ํามัน E85 สีอะไร นั้นมักจะมีลักษณะใส ไม่มีสี หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ คล้ายกับน้ำมันเบนซินทั่วไป อย่างไรก็ตาม สีของน้ำมันเชื้อเพลิงอาจแตกต่างกันไปได้ ขึ้นอยู่กับ
- สารปรุงแต่งหรือสีย้อม : ผู้ผลิตบางรายอาจเติมสีย้อมลงไปในน้ำมันเพื่อวัตถุประสงค์ในการจำแนกประเภท หรือตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลในบางประเทศ (แม้ในไทยจะไม่ได้บังคับเรื่องสีสำหรับ E85 อย่างชัดเจนเหมือนน้ำมันชนิดอื่น)
- กระบวนการผลิต : ความแตกต่างเล็กน้อยในกระบวนการผลิตเอทานอลหรือน้ำมันเบนซินพื้นฐาน อาจส่งผลต่อสีสุดท้ายของผลิตภัณฑ์ได้บ้าง
- การปนเปื้อน : หากมีการปนเปื้อนในถังเก็บหรือระหว่างการขนส่ง สีของน้ำมันอาจเปลี่ยนไปได้
ดังนั้น การใช้สีเพียงอย่างเดียวเพื่อระบุว่าเป็น น้ำมัน E85 จึงไม่ใช่วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุด ควรตรวจสอบจากป้ายหรือสัญลักษณ์ที่หัวจ่ายน้ำมัน ณ สถานีบริการเป็นหลักจะแม่นยำกว่า
น้ำมัน E85 ดีไหม ? ข้อดีของ น้ำมัน E85 มีอะไรบ้าง?
การตัดสินว่า น้ำมัน E85 ดีไหม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างและมุมมองของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม น้ำมัน E85 ก็มีข้อดีที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้
- ค่าออกเทนสูง
น้ำมัน E85 มีค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป (ประมาณ 100-105 RON) ซึ่งสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 (ที่มีค่าออกเทน 95 RON) หรือ E20 (ประมาณ 98 RON) ค่าออกเทนที่สูงขึ้นช่วยต้านทานการน็อก หรือการชิงจุดระเบิดก่อนเวลาได้ดีกว่า ทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง หรือมีการปรับจูนเพื่อเพิ่มสมรรถนะ
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า
เนื่องจากมีเอทานอลเป็นส่วนประกอบหลักถึง 85% ซึ่งผลิตจากพืช การเผาไหม้ของ น้ำมัน E85 จึงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สุทธิออกมาน้อยกว่าน้ำมันเบนซิน แม้การเผาไหม้จะยังคงปล่อย CO2 แต่พืชที่ใช้ผลิตเอทานอลได้ดูดซับ CO2 จากบรรยากาศไปก่อนแล้วในระหว่างการเจริญเติบโต ทำให้เกิดความสมดุลที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซพิษอื่น ๆ บางชนิดได้อีกด้วย
- ราคาถูกกว่า
โดยทั่วไป ราคาต่อลิตรของ น้ำมัน E85 มักจะถูกกว่าน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากนโยบายการส่งเสริมพลังงานทดแทนของภาครัฐและการสนับสนุนราคา ทำให้ผู้ใช้รถสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันแต่ละครั้งได้
- เพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์
ด้วยค่าออกเทนที่สูง และคุณสมบัติการระเหยที่ช่วยลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ทำให้ น้ำมัน E85 เหมาะสำหรับการปรับจูนเครื่องยนต์เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุด รถที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างเหมาะสมสามารถให้กำลังและแรงบิดที่สูงขึ้นเมื่อใช้ น้ำมัน E85
- สนับสนุนภาคเกษตรกรรม
การใช้ น้ำมัน E85 ที่ผลิตจากเอทานอลซึ่งมาจากพืชผลทางการเกษตรในประเทศ เช่น อ้อยและมันสำปะหลัง ถือเป็นการสนับสนุนเกษตรกรและเศรษฐกิจภายในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ
E85 ข้อเสีย
แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ น้ำมัน E85 ก็มีข้อเสียหรือข้อจำกัดที่ผู้ใช้ควรทราบเช่นกัน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาว่า ข้อเสียเหล่านี้ยอมรับได้หรือไม่
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้น
นี่คือข้อเสียหลักของ น้ำมัน E85 เนื่องจากเอทานอลมีค่าพลังงานต่ำกว่าน้ำมันเบนซินประมาณ 25-30% ทำให้รถยนต์ต้องใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อให้ได้ระยะทางเท่าเดิมเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ที่มีสัดส่วนเอทานอลน้อยกว่า เช่น E10 หรือ E20 อัตราสิ้นเปลืองอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 15-30% ทำให้แม้ราคาต่อลิตรจะถูกกว่า แต่ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรอาจไม่แตกต่างกันมากนัก หรืออาจสูงกว่าในบางกรณี
- อาจกัดกร่อนชิ้นส่วนที่ไม่รองรับ
เอทานอลมีคุณสมบัติในการดูดความชื้น และมีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุบางชนิด เช่น ยาง พลาสติก หรือโลหะบางประเภท ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อเอทานอลในระดับความเข้มข้นสูง การนำ น้ำมัน E85 ไปใช้กับรถยนต์ที่ไม่ใช่ Flex Fuel Vehicle (FFV) อาจทำให้ชิ้นส่วนในระบบเชื้อเพลิง เช่น ท่อยาง ปั๊มติ๊ก หัวฉีด หรือซีลต่าง ๆ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติและเกิดความเสียหายได้ นี่คือ ข้อเสียที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่ง
- ปัญหาการสตาร์ทในสภาพอากาศเย็น
เอทานอลระเหยได้ยากกว่าน้ำมันเบนซินในอุณหภูมิต่ำ ทำให้ในบางครั้ง รถที่ใช้ น้ำมัน E85 อาจสตาร์ทติดยากกว่าปกติเล็กน้อยในตอนเช้าที่มีอากาศเย็นจัด อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้มักไม่พบบ่อยในสภาพอากาศของประเทศไทย และรถยนต์ FFV สมัยใหม่ก็มีระบบที่ช่วยจัดการปัญหานี้ได้ดีขึ้น
- จำนวนสถานีบริการจำกัด
แม้จะมีการส่งเสริมมาระยะหนึ่งแล้ว แต่จำนวนสถานีบริการน้ำมันที่มีหัวจ่าย น้ำมัน E85 ยังคงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 95, 91 หรือ E20 ทำให้การหาเติม น้ำมัน E85 อาจไม่สะดวกเท่า โดยเฉพาะเมื่อเดินทางออกนอกพื้นที่ตัวเมืองหรือในบางจังหวัด
- ต้องใช้กับรถยนต์ที่รองรับเท่านั้น
ย้ำอีกครั้งว่า น้ำมัน E85 ไม่สามารถใช้กับรถยนต์เบนซินทั่วไปได้ ต้องเป็นรถยนต์ประเภท FFV ที่ออกแบบระบบเชื้อเพลิงมาโดยเฉพาะ หรือรถยนต์ที่ผ่านการดัดแปลงชุดคิท E85 อย่างถูกต้องและได้มาตรฐานเท่านั้น การฝืนเติมอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิง
น้ำมันE85 มีปั้มไหนบ้าง
สำหรับคำถามที่ว่า น้ำมันE85 มีปั้มไหนบ้าง ในประเทศไทย สถานีบริการน้ำมันที่มี น้ำมัน E85 จำหน่ายหลักๆ ได้แก่:
- ปตท. เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีจำนวนสถานีจำหน่าย น้ำมัน E85 ค่อนข้างมาก กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่
- บางจาก เป็นอีกเครือข่ายสถานีบริการที่ให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทนและมี น้ำมัน E85 ให้บริการในหลายสาขา
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกสาขาของ ปตท. หรือ บางจาก จะมี น้ำมัน E85 จำหน่ายเสมอไป ความพร้อมให้บริการขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและความต้องการในพื้นที่นั้น ๆ
วิธีตรวจสอบสถานีบริการที่มี น้ำมัน E85
- ใช้แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ แอปฯ ของ PTT Station หรือ Bangchak มักจะมีฟังก์ชันค้นหาสถานีบริการและสามารถกรองตามประเภทน้ำมันที่จำหน่ายได้
- เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ เว็บไซต์ทางการของ ปตท. และ บางจาก ก็มีข้อมูลตำแหน่งสถานีบริการเช่นกัน
- แอปพลิเคชันค้นหาปั๊มน้ำมันอื่น ๆ มีแอปฯ Third-party ที่รวบรวมข้อมูลปั๊มน้ำมันและประเภทเชื้อเพลิงที่จำหน่าย
แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทางเสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกลไปยังเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถหาเติม น้ำมัน E85 ได้
E85 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 อันไหนดีกว่ากัน
การเปรียบเทียบว่า E85 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 อันไหนดีกว่ากัน นั้นไม่มีคำตอบตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งประเภทของรถยนต์ พฤติกรรมการขับขี่ และความต้องการของผู้ใช้ ลองพิจารณาเปรียบเทียบในแง่มุมต่าง ๆ ดังตารางนี้
ตารางเปรียบเทียบน้ำมัน E85 vs แก๊สโซฮอล์ 95
คุณสมบัติ | น้ำมัน E85 | แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) |
ส่วนผสมหลัก | เอทานอล ~85%, เบนซิน ~15% | เอทานอล ~10%, เบนซิน ~90% |
ค่าออกเทน (RON) | สูง (ประมาณ 100-105) | มาตรฐาน (95) |
ราคาต่อลิตร | ถูกกว่า | แพงกว่า |
อัตราสิ้นเปลือง | สูงกว่า (กินน้ำมันกว่า ~15-30%) | ต่ำกว่า (ประหยัดกว่า) |
สมรรถนะ | เหมาะกับการจูนเพิ่มกำลัง | เหมาะกับรถยนต์มาตรฐานทั่วไป |
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม | ดีกว่า (ลด CO2 สุทธิ) | สูงกว่า E85 |
ความเข้ากันได้กับรถ | เฉพาะรถ FFV หรือรถดัดแปลง | รถยนต์เบนซินส่วนใหญ่ที่ผลิตหลังปี 2551 |
ความสะดวกในการหาเติม | น้อยกว่า | มากกว่า (มีเกือบทุกปั๊ม) |
สรุปการเปรียบเทียบ
- แนะนำให้เลือก น้ำมัน E85 ถ้า
- รถของคุณเป็น FFV หรือดัดแปลงมาอย่างถูกต้อง
- ต้องการสมรรถนะสูงสุด (และอาจมีการปรับจูนเครื่องยนต์)
- ให้ความสำคัญกับราคาต่อลิตรที่ถูกกว่า และยอมรับอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้นได้
- คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสะดวกในการหาปั๊มเติม
- แนะนำให้เลือก แก๊สโซฮอล์ 95 ถ้า
- รถของคุณเป็นรถยนต์เบนซินทั่วไป (ที่ไม่ใช่ FFV)
- ต้องการความประหยัดน้ำมัน (ระยะทางต่อลิตร)
- ต้องการความสะดวกในการหาเติมน้ำมันได้ง่ายทุกที่
- ไม่ได้เน้นการปรับจูนเครื่องยนต์เพื่อสมรรถนะสูงสุด
ดังนั้น การตัดสินใจระหว่าง E85 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 จึงขึ้นอยู่กับการประเมินความคุ้มค่าและความเหมาะสมกับการใช้งานส่วนบุคคล
E20 กับ E85
การเปรียบเทียบระหว่าง E20 กับ E85 ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากทั้งคู่เป็นแก๊สโซฮอล์ที่มีสัดส่วนเอทานอลสูงกว่า E10 (แก๊สโซฮอล์ 91/95)
- E20 มีเอทานอลผสมอยู่ประมาณ 20% เบนซิน 80% มีค่าออกเทนประมาณ 98 RON สูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เล็กน้อย อัตราสิ้นเปลืองสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 95/91 แต่ต่ำกว่า น้ำมัน E85 รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นรองรับ E20 (ควรตรวจสอบคู่มือรถ) และมีจำหน่ายในปั๊มทั่วไปมากกว่า น้ำมัน E85
- E85 มีเอทานอลผสมอยู่ประมาณ 85% เบนซิน 15% มีค่าออกเทนสูงสุด (100-105 RON) แต่อัตราสิ้นเปลืองก็สูงสุดเช่นกัน ต้องใช้กับรถ FFV หรือรถดัดแปลงเท่านั้น และหาเติมได้ยากกว่า E20
E20 เป็นเหมือนตัวเลือกกลาง ๆ ที่ให้ค่าออกเทนสูงกว่า 95 เล็กน้อย ราคาถูกกว่า 95 แต่แพงกว่า น้ำมัน E85 และมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ระหว่างกลาง รองรับกับรถยนต์ได้หลากหลายรุ่นกว่า น้ำมัน E85
ส่วน น้ำมัน E85 เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการค่าออกเทนสูงสุดเพื่อสมรรถนะ หรือต้องการราคาต่อลิตรที่ถูกที่สุด โดยต้องใช้รถที่รองรับและยอมรับอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้นได้
รถจูน E85 เติม E20 ได้ไหม
คำถามนี้พบบ่อยในกลุ่มผู้ที่ปรับแต่งรถยนต์: รถจูน E85 เติม E20 ได้ไหม? คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้ว “ได้” แต่ “ไม่แนะนำ” สำหรับการใช้งานต่อเนื่องหรือการขับขี่เต็มสมรรถนะ
ทำไมถึงเติมได้?
- รถยนต์ที่จูนสำหรับ น้ำมัน E85 มักมีการปรับแต่งระบบจ่ายน้ำมัน (หัวฉีดใหญ่ขึ้น, ปรับแรงดันปั๊มติ๊ก) และปรับค่าในกล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ให้ฉีดน้ำมันหนาขึ้นและปรับองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมกับค่าออกเทนสูงของ น้ำมัน E85 เมื่อเติม E20 ซึ่งมีเอทานอลน้อยกว่าและค่าออกเทนต่ำกว่า ระบบ ECU (โดยเฉพาะกล่องเดิมติดรถหรือกล่องแต่งที่มีความสามารถในการปรับตัวเอง – Self-learning/Adaptive) อาจสามารถปรับลดการจ่ายน้ำมันและองศาการจุดระเบิดลงได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้ ไม่ดับ หรือเสียหายทันที
ทำไมถึงไม่แนะนำ?
- สมรรถนะลดลง : การจูน E85 ถูกออกแบบมาเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดจากคุณสมบัติของ น้ำมัน E85 เมื่อเปลี่ยนไปใช้ E20 ส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิง (Air-Fuel Ratio) และการจุดระเบิดจะไม่เหมาะสมเท่าเดิม ทำให้กำลังเครื่องยนต์ตก แรงม้า แรงบิด ลดลง
- ส่วนผสมอาจบางเกินไป : หากกล่อง ECU ไม่สามารถปรับค่าได้ทันท่วงที หรือปรับได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้ส่วนผสมบางเกินไป (Lean Condition) ซึ่งเพิ่มความร้อนในห้องเผาไหม้และเสี่ยงต่อความเสียหายของเครื่องยนต์ในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือใช้รอบเครื่องสูง
- อาจเกิดอาการผิดปกติ : อาจมีอาการเครื่องสะดุด เดินไม่เรียบ หรือตอบสนองคันเร่งได้ไม่ดีเท่าเดิม
ข้อควรปฏิบัติ
- ปรึกษาช่างหรือจูนเนอร์ : สอบถามผู้ที่ทำการจูนรถของคุณว่าได้ตั้งค่าเผื่อสำหรับการใช้เชื้อเพลิงอื่นไว้หรือไม่ หรือสามารถปรับจูนให้รองรับหลายชนิดน้ำมัน (Flex Fuel Tune) ได้หรือไม่
- ใช้งานชั่วคราว : หากจำเป็นต้องเติม E20 ชั่วคราว (เช่น หาปั๊ม น้ำมัน E85 ไม่ได้) ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้รอบสูงหรือใช้กำลังเครื่องยนต์เต็มที่
- เติม E85 กลับเมื่อมีโอกาส : พยายามกลับไปเติม น้ำมัน E85 ให้เร็วที่สุด
- ปรับจูนใหม่ : หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ E20 เป็นหลัก ควรนำรถไปปรับจูนใหม่ให้เหมาะสมกับ E20 เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ดังนั้น แม้ทางเทคนิคจะเติมได้ แต่เพื่อรักษาสมรรถนะและสุขภาพของเครื่องยนต์ที่จูนสำหรับ น้ำมัน E85 ควรหลีกเลี่ยงการเติม E20 หรือเชื้อเพลิงอื่น หากไม่จำเป็น หรือควรปรับจูนใหม่ให้เหมาะสม
E85 ใช้แทนเชื้อเพลิงใด
โดยหลักแล้ว E85 ใช้แทนเชื้อเพลิง ประเภทเบนซินและแก๊สโซฮอล์อื่นๆ ในเครื่องยนต์เบนซินที่ออกแบบมาให้รองรับ (FFV) หรือผ่านการดัดแปลงแล้ว ได้แก่
- น้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 (ปัจจุบันยกเลิกจำหน่ายแล้ว)
- น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95
- แก๊สโซฮอล์ 91 (E10)
- แก๊สโซฮอล์ 95 (E10)
- แก๊สโซฮอล์ E20
อย่าลืมว่า น้ำมัน E85 ไม่สามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลในเครื่องยนต์ดีเซลได้โดยเด็ดขาด การเติมผิดประเภทจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายร้ายแรง
น้ำมันE85ใช้กับรถอะไรได้บ้าง
คำถามสำคัญคือ น้ำมันE85ใช้กับรถอะไรได้บ้าง? คำตอบคือต้องเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- รถยนต์ Flex Fuel Vehicle (FFV)
นี่คือรถยนต์ที่ผู้ผลิตออกแบบและผลิตระบบเชื้อเพลิง (ท่อน้ำมัน, ปั๊มติ๊ก, หัวฉีด, ซีลยางต่าง ๆ ) และระบบควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) มาจากโรงงานให้สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนเอทานอลผสมอยู่ได้หลากหลาย ตั้งแต่น้ำมันเบนซินปกติไปจนถึง น้ำมัน E85 โดย ECU จะมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดสัดส่วนเอทานอลและปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
วิธีตรวจสอบ
- ดูสัญลักษณ์ FFV ที่ติดอยู่บนตัวถังรถ (มักอยู่ด้านท้าย)
- ตรวจสอบที่ฝาถังน้ำมัน อาจมีข้อความระบุว่า “E85 Compatible” หรือ “Gasoline or E85”
- อ่านคู่มือประจำรถยนต์ (Owner’s Manual) ซึ่งจะระบุประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงที่แนะนำและรองรับไว้อย่างชัดเจน
ตัวอย่าง รถยนต์ FFV ที่เคยมีจำหน่ายในไทย (ควรตรวจสอบรุ่นปีที่แน่นอนอีกครั้ง) Volvo บางรุ่น, Ford Focus บางรุ่น, Chevrolet Captiva/Cruze บางรุ่นปี, Honda Civic/Accord/CR-V บางรุ่นปี, Mitsubishi Lancer EX บางรุ่น, Toyota Altis/Vios/Camry บางรุ่นปี (ในช่วงที่มีการส่งเสริม E85)
- รถยนต์ที่ติดตั้งชุดคิท E85 (E85 Conversion Kit)
เป็นการนำรถยนต์เบนซินทั่วไปมาติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถใช้ น้ำมัน E85 ได้ ชุดคิทเหล่านี้มักจะทำงานโดยการปรับสัญญาณที่ส่งไปยังหัวฉีดให้ฉีดน้ำมันนานขึ้น เพื่อชดเชยค่าพลังงานที่ต่ำกว่าของเอทานอล
ข้อควรระวัง การติดตั้งชุดคิท E85 ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ และควรเลือกชุดคิทที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจส่งผลต่อการรับประกันของรถยนต์ และอาจไม่ได้ปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนในระบบเชื้อเพลิงให้ทนทานต่อ น้ำมัน E85 ได้ทั้งหมด ทำให้ยังคงมีความเสี่ยงต่อการสึกหรอในระยะยาวมากกว่ารถ FFV แท้ ๆ
- รถยนต์ที่ผ่านการปรับจูน ECU (ECU Remapping/Tuning)
เป็นการปรับแก้ไขซอฟต์แวร์ในกล่องควบคุมเครื่องยนต์เดิม หรือใช้กล่องควบคุมแต่ง (Standalone ECU) เพื่อปรับเปลี่ยนค่าการจ่ายน้ำมันและองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมกับการใช้ น้ำมัน E85 วิธีนี้มักทำในกลุ่มผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะรถยนต์อย่างจริงจัง และมักจะควบคู่ไปกับการเปลี่ยนชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิง (หัวฉีด, ปั๊มติ๊ก) ให้รองรับการจ่ายน้ำมันที่มากขึ้นและทนทานต่อ น้ำมัน E85 ได้
คำเตือน ห้ามเติม น้ำมัน E85 ในรถยนต์เบนซินทั่วไปที่ไม่ได้ระบุว่าเป็น FFV หรือไม่ผ่านการดัดแปลงอย่างถูกต้องเด็ดขาด เพราะจะทำให้ระบบเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์เสียหายได้
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นไหนเติม E85 ได้บ้าง
สำหรับชาวสองล้อ อาจมีคำถามว่า รถมอเตอร์ไซค์รุ่นไหนเติม E85 ได้บ้าง?
คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้ว รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในประเทศไทย “ไม่รองรับ” การใช้ น้ำมัน E85
เหตุผล
- วัสดุระบบเชื้อเพลิง : ชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น ท่อยาง ซีล โอริง ในระบบเชื้อเพลิงของรถจักรยานยนต์ทั่วไป ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อเอทานอลความเข้มข้นสูงใน น้ำมัน E85 อาจเกิดการบวม เปื่อย หรือแข็งตัว ทำให้รั่วซึมหรืออุดตันได้
- การจ่ายเชื้อเพลิง : ระบบจ่ายน้ำมัน (คาร์บูเรเตอร์ หรือ หัวฉีด) ของมอเตอร์ไซค์มาตรฐาน ไม่ได้ถูกตั้งค่าให้จ่ายน้ำมันได้หนาพอสำหรับ น้ำมัน E85 ทำให้ส่วนผสมบางเกินไป เครื่องยนต์ร้อนจัดและเสียหายได้
- ไม่มีการระบุจากผู้ผลิต : ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ส่วนมาก แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ E10 หรือสูงสุดแค่ E20 ในบางรุ่นเท่านั้น (ต้องตรวจสอบคู่มือ) และไม่มีการระบุว่ารองรับ น้ำมัน E85
ข้อยกเว้น
- รถแข่งหรือรถดัดแปลงพิเศษ : อาจมีรถจักรยานยนต์ที่ถูกดัดแปลงระบบเชื้อเพลิงและปรับจูนเครื่องยนต์โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ น้ำมัน E85 ในการแข่งขัน เนื่องจากต้องการค่าออกเทนสูงและผลในการลดอุณหภูมิห้องเผาไหม้ แต่นี่ไม่ใช่กรณีทั่วไปสำหรับรถใช้งานบนท้องถนน
- อาจมีรุ่นพิเศษในบางตลาด (แต่ไม่ใช่ไทย) : ในบางประเทศ อาจมีรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเป็น FFV แต่ยังไม่แพร่หลายและไม่ใช่รุ่นที่จำหน่ายทั่วไปในไทย
คำแนะนำ เจ้าของรถจักรยานยนต์ ควรตรวจสอบคู่มือประจำรถอย่างละเอียด และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด ห้ามลองเติม น้ำมัน E85 หากไม่มั่นใจหรือไม่ระบุว่ารองรับเด็ดขาด เพราะอาจทำให้รถเสียหายและสิ้นเปลืองค่าซ่อมบำรุงจำนวนมาก
น้ำมัน E85 เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่มีเอทานอลเป็นส่วนประกอบหลักถึง 85% มีข้อดีในด้านค่าออกเทนที่สูง ช่วยเพิ่มสมรรถนะเมื่อปรับจูนอย่างเหมาะสม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และมักมีราคาต่อลิตรที่ถูกกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้น อาจกัดกร่อนชิ้นส่วนหากรถไม่รองรับ และมีจำนวนสถานีบริการจำกัด

การตัดสินใจเลือกใช้ น้ำมัน E85 จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยปัจจัยสำคัญที่สุดคือ รถยนต์ของคุณต้องเป็นประเภท FFV ที่ออกแบบมารองรับโดยตรง หรือผ่านการดัดแปลงอย่างถูกต้องและได้มาตรฐานเท่านั้น การเปรียบเทียบกับแก๊สโซฮอล์ 95 หรือ E20 แสดงให้เห็นว่าแต่ละชนิดมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ขับขี่ สำหรับรถจักรยานยนต์ทั่วไป ยังไม่แนะนำให้ใช้ น้ำมัน E85
การทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ น้ำมัน E85 ทั้งส่วนผสม ข้อดี ข้อเสีย ความเข้ากันได้กับรถยนต์ และการเปรียบเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น จะช่วยให้คุณเลือกใช้เชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทใด การดูแลรักษารถยนต์และการมีประกันภัยที่ครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญ แรบบิท แคร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์ พร้อมช่วยคุณเลือกแผนที่ตรงใจได้สะดวก คุ้มครองครอบคลุมทุกความต้องการ มาพร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง จากทีมงานมืออาชีพ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ให้คุณอุ่นใจทุกการเดินทาง
แรบบิท แคร์ คือผู้ช่วยค้นหาประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างลงตัว เราเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมและเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ ช่วยให้คุณสามารถเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณได้อย่างสะดวกและมั่นใจ
เรานำเสนอความคุ้มครองที่ครอบคลุมหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การซ่อมแซม ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือกรณีรถสูญหาย พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และข้อเสนอพิเศษ ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน
ประเภทแผนประกันภัยรถยนต์
- ประกันภัยชั้น 1 : คุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทุกกรณี รวมถึงกรณีไม่มีคู่กรณี
- ประกันภัยชั้น 2+ : คุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะทางบก, รถหาย, ไฟไหม้, น้ำท่วม และบุคคลภายนอก
- ประกันภัยชั้น 3+ : คุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะทางบก และบุคคลภายนอก
- ประกันภัยชั้น 2 : คุ้มครองกรณีรถหาย, ไฟไหม้ และบุคคลภายนอก
- ประกันภัยชั้น 3 : คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
เลือกแผนประกันที่ตรงใจคุณ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่ แรบบิท แคร์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1438 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 21.00 น.
สรุป
น้ำมัน E85 เป็นเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ประเภทหนึ่งที่ผสมเอทานอล (แอลกอฮอล์บริสุทธิ์) ในสัดส่วนที่สูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ชนิดอื่น ๆ โดยมีส่วนผสมของเอทานอลประมาณ 85% และน้ำมันเบนซินประมาณ 15% เป็นทางเลือกเชื้อเพลิงที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์ที่รองรับ ด้วยข้อดีด้านราคาและสิ่งแวดล้อม แต่ผู้ใช้ควรพิจารณาถึงอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้นและความเหมาะสมของรถยนต์ที่ใช้

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย