แคร์รถยนต์

Hydroplane คือ อะไร ทำไมเวลาขับรถช่วงหน้าฝนเหตุการณ์นี้ถึงน่ากลัวเป็นพิเศษ

ผู้เขียน : Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
 
Published: July 1,2024
  
Last edited: May 25, 2024
Hydroplane

พอเห็นคำว่า Hydroplane ตรงนี้หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออก ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ถ้านี่หมายถึงอาการรถเหินน้ำ อาจพอที่จะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่สำหรับคนที่เพิ่งเป็นมือใหม่หัดขับ มีโอกาสสูงมากที่จะไม่รู้จักอาการ Hydroplane รวมถึงยังไม่รู้ถึงความอันตรายของมันเวลาที่เกิดปัญหานี้ขึ้นระหว่างขับขี่

ฉะนั้นใครที่กังวลเกี่ยวกับ Hydroplane หรืออาการรถเหินน้ำ ควรมาทำความเข้าใจพร้อมกันอย่างละเอียดว่า Hydroplane คือ อะไร สาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรได้บ้าง วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น และสุดท้ายกับการแก้ไขปัญหากรณีที่พบเจอเหตุการณ์นี้ตอนขับขี่ หากเรามีข้อมูลทั้งหมดที่ครบถ้วน พร้อมความเข้าใจอย่างแท้จริง จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายจากการขับขี่ได้มากทีเดียว

ประกันรถยนต์
ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน
icon angle up or down

    เลือกยี่ห้อรถของคุณ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    Hydroplane คือ อะไร

    Hydroplane คือ อาการรถเหินน้ำเมื่อมีน้ำขังอยู่บนผิวถนน พอวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูงเกินความเหมาะสม จะทำให้น้ำเข้ามาแทรกระหว่างล้อรถกับผิวถนน จนเราไม่สามารถควบคุมล้อได้เลยระหว่างที่เกิด Hydroplane ขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุสูงตามมาด้วยนั่นเอง

    สาเหตุที่ทำให้เกิด รถเหินน้ำ (Hydroplane)

    สาเหตุที่ทำให้เกิด รถเหินน้ำ หรือ Hydroplane มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน คือ ความเร็วของรถยนต์, น้ำหนักตัวรถ, ดอกยางที่ยังเหลืออยู่, ขนาดของล้อ และลักษณะพื้นผิวถนนที่เราวิ่งผ่านช่วงน้ำขัง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดของปัจจัยที่เรากำลังจะพูดถึงต่อจากนี้ ผู้ขับขี่ทุกคนอาจต้องทำความเข้าใจให้ดี เพื่อที่จะสามารถป้องกันการเกิด Hydroplane ได้ดีที่สุด โดยข้อมูลเพิ่มเติมจะมีดังนี้

    • ความเร็วของรถยนต์ โดยเฉพาะความเร็วช่วง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป บางครั้งชั้นน้ำที่หนาเกินไป มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดการรีดน้ำออกไม่ทันในช่วงความเร็วดังกล่าว จนทำให้เกิดความห่างระหว่างยางกับผิวถนน จนควบคุมไม่ได้
    • น้ำหนักตัวรถ เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่หากน้ำหนักตัวรถสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย เนื่องจากแรงขับที่ออกจากใต้ยางมีมากกว่า
    • ดอกยางที่ยังเหลืออยู่ หากยางที่เสื่อมประสิทธิภาพ หรือใช้งานมานานจนดอกยางเริ่มสึก ทำให้ไม่สามารถรีดน้ำออกได้อย่างเหมาะสม ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดอาการ Hydroplane ดังนั้นก่อนเลือกยาง แนะนำว่าควรเลือกแบบที่มีส่วนช่วยในการรีดน้ำออกให้ได้มาก ๆ ด้วย
    • ขนาดของล้อ ในส่วนของล้อรถยนต์ที่มีหน้ากว้างกว่าปกติ และยาวมากกว่า ก็จะมีโอกาสในการเกิด Hydroplane น้อยลงด้วย
    • ลักษณะพื้นผิวถนนที่เราวิ่งผ่านช่วงน้ำขัง ในกรณีที่เป็นถนนคอนกรีตมีโอกาสเกิด Hydroplane สูงกว่าถนนยางมะตอย เนื่องจากยังมีช่องว่างบนผิวถนนที่มีความขรุขระ รวมถึงเรื่องความชันและความเอียงเป็นปัจจัยเพิ่มเติมอีกต่างหาก 

    ดังนั้นการขับขี่แล้วเจอสถานการณ์ตามสาเหตุที่กล่าวมา แปลว่าเรามีโอกาสสูงมากที่ต้องเผชิญหน้ากับ Hydroplane หรือ รถเหินน้ำได้มาก เราจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และดูแลประสิทธิภาพของยางให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิอยู่ตลอดเวลา

    ความอันตรายของ Hydroplane

    ความอันตรายของ Hydroplane ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยเฉพาะกับมือใหม่หัดขับที่ยังไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นคง พอเกิดอาการ Hydroplane ขึ้นมา หากจับพวงมาลัยไม่มั่นคง แล้วเบรกรถยนต์อย่างรุนแรง จะทำให้ตัวรถหมุนฟรีในแบบที่เราไม่สามารถควบคุมได้จนกว่าจะหยุดเอง กลายเป็นความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงมากบนท้องถนน ฉะนั้นถ้าขับผ่านแอ่งน้ำขังเมื่อไหร่ เราต้องจับพวงมาลัยให้แน่น ประคองเอาไว้ให้มั่น เพื่อควบคุมทิศทางการขับขี่ให้มีเสถียรภาพดีที่สุด

    รถเหินน้ำ

    วิธีป้องกันการเกิด Hydroplane

    วิธีป้องกันการเกิด Hydroplane ได้แก่ ควบคุมความเร็วให้ดีระหว่างขับขี่, ดูแลสภาพยางสม่ำเสมอ และสังเกตพื้นถนนตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่ฝนตกจนเกิดน้ำขังบนถนน ให้เราทำตามคำแนะนำทั้ง 3 ข้ออย่างระมัดระวังมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุ Hydroplane ให้ได้มากที่สุด โดยคำแนะนำเพิ่มเติมจะมีดังนี้

    ควบคุมความเร็วให้ดีระหว่างขับขี่

    ควบคุมความเร็วให้ดีระหว่างขับขี่ หากต้องวิ่งผ่านถนนที่มีน้ำขัง อาจลดความเร็วให้ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงการย้ายเลนขับขี่ให้ไปอยู่ในเลนที่ขับช้า เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงเมื่อมีรถยนต์ที่ขับขี่เร็วกว่าแซงไปก่อน แถมการที่เราขับช้าลง จะช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง เพียงเท่านี้ก็ลดโอกาสการเกิด Hydroplane ได้ในระดับหนึ่งแล้ว

    ดูแลสภาพยางสม่ำเสมอ

    ดูแลสภาพยางสม่ำเสมอ ว่าพร้อมใช้งานในการเดินทางมากน้อยเพียงไหน โดยเฉพาะยางที่มีดอกยางหรือร่องยางบางลง ไม่ควรนำไปใช้งานขับขี่ระหว่างฝนตกหนัก หากจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ควรขับขี่ให้ช้าที่สุด ไม่ก็จอดรถบริเวณที่พักริมทาง จนกว่าฝนจะหยุดตกหนัก ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่อสถานการณ์ Hydroplane ได้ง่ายถ้าประสิทธิภาพยางรถไม่พร้อม

    สังเกตพื้นถนนตลอดเวลา

    สังเกตพื้นถนนตลอดเวลา เนื่องจากบางจุดอาจมีน้ำขังจากสภาพผิวถนนที่ไม่ดี เกิดความขรุขระ เป็นแอ่ง ทำให้น้ำขังได้มาก พอวิ่งผ่านในความเร็วที่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิด Hydroplane ได้ทันที ดังนั้นเวลาที่วิ่งผ่านสภาพพื้นผิวดังกล่าว ต้องขับผ่านช้า ๆ ประคองพวงมาลัยให้มั่น หากเป็นไปได้อาจขับขี่บริเวณกลางถนน เพื่อเลี่ยงการวิ่งในส่วนถนนที่ลาดเอียง จะได้ไม่เจอน้ำขังมาก

    ทันทีที่เราได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิธีป้องกัน Hydroplane หรือ รถเหินน้ำ เพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว ขอให้ต่อจากนี้ผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคน สามารถขับขี่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย พึงระวังสิ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นมาตลอดเวลาที่ขับรถในช่วงฝนตก จะได้ห่างไกลอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เว้นแต่ว่าจะเลี่ยงไม่ได้ในช่วงขับขี่ฝนตก ต้องเจอเหตุการณ์ Hydroplane ทาง แรบบิท แคร์ ก็มีการแก้ไขฉุกเฉินให้ได้อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป

    hydroplane คือ

    การแก้ไขหากพบเจอเหตุการณ์ Hydroplane

    การแก้ไขหากพบเจอเหตุการณ์ Hydroplane ต้องห้ามเบรกอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งเป็นการเพิ่มความรุนแรงเมื่อเกิดการไถล จากนั้นเริ่มถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงมากที่สุด จนกว่าจะผ่านช่วง Hydroplane ได้ แต่ทั้งนี้การแก้ไขเป็นเพียงการลดความรุนแรงให้เบาลงเท่านั้น การไม่พบเจอสถานการณ์ Hydroplane หรือ รถเหินน้ำ จากวิธีการป้องกันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด 

    คำแนะนำเพิ่มเติม กรณีที่ล้อหน้าเหินน้ำ สิ่งที่เราควรทำ คือ ต้องปล่อยคันเร่ง แตะเบรกเบา ๆ เพื่อช่วยลดความเร็ว ไม่ใช่การเหยียบเบรกเพื่อให้ลดหยุด เพราะหากรถเหินน้ำในล้อหน้าขึ้นมาแล้ว จะหยุดได้ยากที่สุด ถ้าหากเกิดขึ้นในส่วนของล้อหลังจะควบคุมได้ง่าย มีความอันตรายน้อยกว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับทั้ง 4 ล้อตัวรถจะพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่สามารถหักเลี้ยวได้ สิ่งที่ทำมีแค่ต้องปล่อยคันเร่ง และประคองไปจนกว่าจะกลับมาควบคุมรถได้

    พอรับรู้เหตุที่ทำให้เกิด Hydroplane เรียบร้อยแล้ว รวมถึงวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้น ต่อจากนี้ทุกการขับขี่เราจึงต้องทำตามอย่างระมัดระวัง ลดความอันตรายจากสิ่งที่เกิด และอย่าลืมพิจารณาการซื้อประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อช่วยดูแลคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ให้เราได้รับการช่วยเหลือในค่าซ่อมแซม ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาลได้ด้วย หากใครกำลังตัดสินใจเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานรถของตัวเอง เพียงติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 เจ้าหน้าที่ของเราจะช่วยให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% และสามารถเลือกผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน


    สรุป

    สรุปบทความ

    Hydroplane คือ อาการรถเหินน้ำเมื่อมีน้ำขังอยู่บนผิวถนน พอวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูงเกินความเหมาะสม จะทำให้น้ำเข้ามาแทรกระหว่างล้อรถกับผิวถนน จนเราไม่สามารถควบคุมล้อได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ฉะนั้นถ้าขับผ่านแอ่งน้ำขังเมื่อไหร่ เราต้องจับพวงมาลัยให้แน่น ประคองเอาไว้ให้มั่น เพื่อควบคุมทิศทางการขับขี่ให้มีเสถียรภาพดีที่สุด หรือพยายามลดความเร็วเมื่อต้องขับรถผ่านแอ่งน้ำจะดีที่สุด

    จบสรุปบทความ

    ที่มา


     

    บทความแคร์รถยนต์

    Rabbit Care Blog Image 91005

    แคร์รถยนต์

    แข่งรถผิดกฎหมายหรือไม่!? กฎหมายเกี่ยวกับการแข่งรถที่ควรรู้ไว้ มีบทลงโทษอย่างไร ?

    เมื่อพูดถึงการแข่งรถในประเทศไทยแน่นอนว่าภาพที่นึกถึงของแทบจะทุกคนก็คงจะเป็นการแข่งรถที่ผิดกฎหมาย เด็กแว๊นแต่งท่อดังซิ่งกันในตอนกลางคืน
    Natthamon
    15/08/2024
    Rabbit Care Blog Image 90990

    แคร์รถยนต์

    รถนำเข้ามีกี่ประเภท? ปัจจุบันภาษีรถนำเข้าต้องเสียเท่าไหร่

    เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถนำเข้า มีราคาแพงกว่ารถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ หรือจากศูนย์บริการทั่วไปหลายเท่าตัว แรบบิท แคร์
    Thirakan T
    08/08/2024