วัณโรค คืออะไร มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตหรือไม่ ?
วัณโรค เป็นโรคที่หลายคนอาจมองข้ามเพราะคิดว่าอยู่ไกลตัว และไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่ความจริงแล้วถือเป็นโรคร้ายที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ปัจจุบันแม้ว่าจะมีวัคซีน และยาปฏิชีวนะที่ช่วยรักษาโรคนี้ได้ แต่จำนวนผู้ป่วยก็ยังคงมีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัณโรค สาเหตุ อาการ ข้อห้ามผู้ป่วยวัณโรค รวมถึงแนวทางป้องกันวัณโรค เพื่อให้เราสามารถดูแลสุขภาพของตนเอง ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้นั่นเอง
วัณโรค คืออะไร ?
วัณโรค (Tuberculosis : TB) เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศเมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด มีการส่งผลกระทบต่อปอดเป็นหลัก และสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น สมอง กระดูก และไตได้ นับเป็นอีกหนึ่งโรคอันตรายที่ควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
วันโรค อันตรายหรือไม่ ?
วัณโรคถือเป็นโรคที่อันตรายมากหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วย HIV หรือผู้สูงอายุ เพราะแม้ว่าจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่กระบวนการรักษาต้องใช้เวลานาน และต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หากหยุดยาเอง หรือได้รับยาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เชื้อดื้อยา และส่งผลให้การรักษาดำเนินไปได้ยากยิ่งขึ้น
วัณโรคเป็นแล้วหายได้ไหม ?
วัณโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และต่อเนื่องด้วยยาปฏิชีวนะสำหรับวัณโรค ทั้งนี้ต้องรับประทานอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน และในบางกรณีอาจต้องรับประทานยาติดต่อกันนานกว่านั้น หากทานยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โอกาสในการหายขาดจากวัณโรคก็จะสูงมากเลยทีเดียว
วัณโรคติดต่อกันอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าการติดเชื้อวัณโรคเกิดขึ้นได้อย่างไร วัณโรคนั้นติดต่อผ่านละอองฝอยจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย โดยวิธีการติดต่อหลัก ๆ ของวัณโรค ได้แก่
- การไอ หรือจาม เชื้อโรคจะแพร่กระจายในอากาศ และสามารถเข้าสู่ร่างกายของผู้อื่นได้
- การพูด หรือหายใจใกล้ชิดกับผู้ป่วย ในพื้นที่อับอากาศที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี
- การใช้สิ่งของร่วมกัน แม้จะมีโอกาสในการติดต่อน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ แต่การใช้แก้วน้ำ ช้อนส้อม หรือผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้ป่วยก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
เป็นวัณโรคกี่วันหาย ?
ระยะเวลาการรักษาวัณโรคขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยา โดยทั่วไปแล้วการรักษาจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หากเป็นวัณโรคดื้อยาอาจต้องใช้เวลานานถึง 9-24 เดือน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ หลังจากเริ่มใช้ยา แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องกินยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนดเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
เด็กเป็นวัณโรคได้หรือไม่ ?
เด็กสามารถเป็นวัณโรคได้ โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรืออาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีผู้ป่วยวัณโรค อาการวัณโรคในเด็กอาจไม่รุนแรงเหมือนในผู้ใหญ่ แต่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง
อาการ วัณโรคเป็นอย่างไร ?
อาการของวัณโรคสามารถแบ่งออกเป็นหลายลักษณะด้วยกันขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยโรงพยาบาลพญาไทให้ข้อมูลอาการวัณโรค ว่าโดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยจะมีอาการดังต่อไปนี้
- ไอเรื้อรังติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์ และอาจมีเสมหะปนเลือด
- มีไข้ต่ำตอนเย็น หรือมีไข้ตลอดเวลา
- เหงื่อออกมากตอนกลางคืน แม้ว่าอากาศจะไม่ร้อน
- เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดอย่างไม่มีสาเหตุ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกไม่มีแรงแม้จะไม่ได้ทำงานหนัก
- เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก โดยเฉพาะเวลาหายใจเข้า-ออก
หากมีอาการเหล่านี้ก็อาจมีความเสี่ยงในการเป็นวัณโรคได้ ควรเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้มั่นใจ หากติดเชื้อจริงอาการจะได้ไม่บานปลาย และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
วัณโรค สาเหตุมาจากอะไร ?
สาเหตุหลักของโรคนี้เกิดจากเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ซึ่งแพร่กระจายทางอากาศ โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการติดเชื้อ ได้แก่
- การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีเชื้อโรคนี้
- อยู่ในสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
- มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วย HIV หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิ
- มีภาวะขาดสารอาหาร หรือภาวะโภชนาการที่ไม่ดี
- มีการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งนี้หากเรารู้จักดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ให้ความสำคัญในการดูแลโภชนาการอย่างครบถ้วน ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้นั่นเอง
วิธีการป้องกันวัณโรค
ทราบถึงความร้ายแรง และสาเหตุหลัก ๆ ในการติดเชื้อกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็คงต้องการที่จะทราบว่าจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างไร โดยวิธีการดูแลป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรค จะมีดังต่อไปนี้
- ฉีดวัคซีน BCG ตั้งแต่แรกเกิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อรุนแรง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคนี้ หรือสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่แออัด
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ระมัดระวังสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น
- หากมีอาการน่าสงสัย หรือพบว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อควรรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ
ข้อห้ามผู้ป่วยวัณโรค
ผู้ป่วยโรคนี้ควรปฏิบัติตามข้อห้ามต่อไปนี้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้หายเร็วขึ้น
- ห้ามหยุดยา หรือปรับขนานยาเอง ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่อาจกระตุ้นการอักเสบ เช่น ของทอด อาหารแปรรูปต่าง ๆ
- ดูแลสุขภาพร่างกาย และจิตใจเป็นอย่างดี พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ปล่อยให้ตนเองมีความเครียด
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ นอกจากจะทำให้ตัวเองสามารถหายจากโรคได้ไว ยังถือเป็นข้อปฏิบัติที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยนั่นเอง
เคยเป็นวัณโรค ทําประกันได้ไหม ?
หลายคนสงสัยว่าหากเคยป่วยโรคนี้แล้วจะสามารถทำประกันสุขภาพได้หรือไม่ คำตอบคือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน โดยซึ่งทั่วไปหากเป็นวัณโรคที่ได้รับการรักษาหายขาดแล้ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และผ่านระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 6 เดือนถึง 2 ปี *ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์) ผู้สมัครอาจสามารถทำประกันสุขภาพได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้กับบริษัทประกันอย่างตรงไปตรงมาเพื่อลดปัญหาที่อาจตามมาในภายหลังได้นั่นเอง
ประกันสุขภาพคุ้มครองโรคอะไรบ้าง ?
ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเลือกทำประกันสุขภาพเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย แต่หลายคนก็ยังมีความสงสัยว่า หากจู่ ๆ เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงขึ้นประกันสุขภาพจะครอบคลุมหรือไม่ คำตอบคือโดยทั่วไปแล้วประกันสุขภาพมักครอบคลุมโรคดังต่อไปนี้
- โรคติดเชื้อทั่วไป เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และโรคปอดอักเสบ
- โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
- โรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง ไตวายเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมอง
ทั้งนี้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมากน้อยแค่ไหน หรือมีวิธีการจ่ายอย่างไรจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ และบริษัทประกันที่เราซื้อเอาไว้ แต่ทั้งนี้ใครที่มีความกังวลว่าในอนาคตหากเราเป็นโรคร้ายแรงแล้วประกันสุขภาพจะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนต้องเสียส่วนเกินเป็นจำนวนมากก็ควรทำประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ไว้ มีแผนประกันมากมายให้เลือกใช้ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตนเองที่สุดนั่นเอง
ได้ทราบเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับวัณโรคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่กังวลว่าตนเอง หรือคนใกล้ตัวจะติดเชื้อดังกล่าวก็อย่านิ่งนอนใจ ควรเข้ารับการตรวจเพื่อความมั่นใจ จากนั้นต้องไม่ลืมที่จะมีวินัยในการดูแลตัวเอง
เลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณ