โรคหลอดเลือดสมองประกันสุขภาพครอบคลุมไหม การเลือกซื้อประกันโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วย และอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ถึงแม้ว่าจะสามารถป้องกัน และรักษาได้ แต่การรักษาโรคนี้มักมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการเลือกซื้อประกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือประกันที่คุ้มครองครอบคลุมโรคหลอดเลือดสมองจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญในการลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากเกินไป วันนี้ แรบบิท แคร์ ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าว และประกันโรคหลอดเลือดในสมองมารวบรวมไว้ให้ เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจการเลือกซื้อประกันโรคหลอดเลือดในสมอง วางแผนความเสี่ยงในอนาคตนั่นเอง

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะที่เกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองถูกขัดขวาง ทำให้สมองขาดออกซิเจน และขาดสารอาหาร ส่งผลให้เซลล์สมองเสียหาย หรือทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ โดยจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ก็คือ

• โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน (Ischemic Stroke) ซึ่งเกิดจากลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมอง
• โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากหลอดเลือดสมองแตก ส่งผลให้มีเลือดออกในสมอง

เนื่องจากเป็นโรคที่ร้ายแรง และมีความเกี่ยวพันถึงชีวิตของผู้ป่วย ดังนั้นจึงควรทำประกันโรคหลอดเลือดสมองเอาไว้ เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจนเป็นโรคดังกล่าวเมื่อไหร่ จะได้ใช้ประกันโรคหลอดเลือดในสมองได้ เข้ารับการรักษาได้อย่างมั่นใจ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างแน่นอน

โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อันตราย และต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ความพิการถาวร หรือเสียชีวิตได้ จึงควรทำประกันโรคหลอดเลือดสมองไว้ ทั้งนี้โดยส่วนมากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนั้น ได้แก่

• อัมพฤกษ์ หรืออัมพาตครึ่งซีก
• ความบกพร่องทางการพูด และการรับรู้
• การสูญเสียความสามารถในการเดิน หรือควบคุมร่างกาย

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าหากเป็นโรคดังกล่าวแล้วจะมีลักษณะอาการอย่างไร จะสังเกตได้จากอะไร ทั้งนี้อาการของโรคหลอดเลือดสมองสามารถสังเกตได้จากหลัก FAST คือ

• F (Face) ใบหน้า : ใบหน้าบิดเบี้ยว มุมปากตกข้างใดข้างหนึ่ง
• A (Arm) แขน : แขนอ่อนแรง ยกแขนสองข้างขึ้นไม่ได้
• S (Speech) การพูด : พูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือไม่สามารถพูดได้
• T (Time) เวลา : หากพบอาการดังกล่าว ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

เพียงแค่อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้เองก็ถือว่าเป็นอาการที่รุนแรง และน่ากลัวในระดับหนึ่งแล้ว การทำประกันโรคหลอดเลือดในสมอง หรือประกันที่ครอบคลุมดูแลโรคหลอดเลือดสมองอย่างประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ไว้จึงถือว่าสำคัญมาก เพราะเมื่อไหร่ที่พบว่าตนเองมีอาการ และมีประกันโรคหลอดเลือดสมองก็จะสามารถรีบเข้ารับการตรวจรักษาได้อย่างทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใด ๆ

โรงพยาบาลพญาไทให้ข้อมูลสาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดสมองว่า สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ 2 กลุ่มด้วยกันคือ ปัจจัยที่ควบคุมได้ และปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• ปัจจัยที่ควบคุมได้ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตัวเอง

• เป็นความดันโลหิตสูง
• เป็นโรคเบาหวาน
• มีไขมันในเลือดสูง
• เป็นโรคหัวใจ
• การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
• เป็นผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
• เป็นผู้ใช้สารเสพติด ยาหรือสารกระตุ้น

• ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

• อายุที่มากขึ้น
• พันธุกรรม
• เพศ (พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง)

สำหรับใครที่คิดว่าตนเองมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ และไม่สามารถลดความเสี่ยงจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตัวเองต่าง ๆ ได้ ก็ควรทำประกันโรคหลอดเลือดในสมองไว้ เพราะประกันโรคหลอดเลือดสมองจะช่วยดูแลค่าใจจ่ายในอนาคตได้เป็นอย่างดี

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองขึ้นอยู่กับประเภทของโรคที่เกิดขึ้น โดยแนวทางการรักษาโรคดังกล่าว จะมีดังต่อไปนี้

• การใช้ยา เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดความดันโลหิต
• การทำหัตถการ เช่น การใส่ขดลวดขยายหลอดเลือด การผ่าตัดสมอง
• การทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย และการพูด

แนวทางการรักษาโรคดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษาแบบใดล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้นจึงควรทำประกันโรคหลอดเลือดในสมอง หรือประกันที่ครอบคลุมการรักษาโรคดังกล่าวไว้นั่นเอง

ในส่วนของผู้ที่ต้องการทราบว่าโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการนำไปตัดสินใจว่าจะทำประกันโรคหลอดเลือดสมองดีหรือไม่ กล่าวคือโรคหลอดเลือดสมองสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ แต่โอกาสฟื้นตัวขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และการรักษาที่ได้รับ หากมีได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว โอกาสฟื้นตัวจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางรายอาจต้องเผชิญกับภาวะพิการถาวรได้เช่นกัน

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ช่วยตัดสินใจว่าจะทำประกันโรคหลอดเลือดสมองดีหรือไม่ ก็คือใครบ้างที่เสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าว โดยบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่

• ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรทำประกันโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
• ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรทำประกันโรคหลอดเลือดสมอง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกาย
• ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
• ผู้ที่มีกรรมพันธุ์ควรทำประกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

หากพบว่าตนเอง หรือคนใกล้ตัวเป็นผู้มีความเสี่ยงเหล่านี้ก็ไม่ควรนิ่งนอนใน ทำประกันโรคหลอดเลือดสมองกันไว้ เพราะประกันโรคหลอดเลือดสมองจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างมากเลยทีเดียว

โดยทั่วไปประกันสุขภาพแบบพื้นฐานอาจไม่ครอบคลุมโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองควรเลือก ประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness Insurance) ประกันโรคหลอดเลือดสมองซึ่งให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงค่ารักษาพยาบาล การฟื้นฟู และค่าชดเชยกรณีทุพพลภาพ *ทั้งนี้เงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ จะแตกต่างกันไปตามรายละเอียดของกรมธรรม์ที่เลือกซื้อ ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดก่อนซื้อประกันโรคหลอดเลือดในสมองให้แน่ใจ ว่าจะได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการหรือไม่นั่นเอง

ประกันโรคหลอดเลือดสมองเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคดังกล่าว เช่น ประกันโรคร้ายแรง โดยอาจมีความคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ และค่าชดเชยการสูญเสียรายได้ ทั้งนี้โดยส่วนมากประกันโรคร้ายแรงมักให้ความคุ้มครองกรณีเจอโรคร้ายแบบ เจอ จ่าย จบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้มีเงินก้อนใหญ่ไปรักษาดูแลตัวเองได้อย่างไร้กังวล ดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ควรพิจารณาทำประกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือประกันโรคร้ายแรงเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ตนเองได้รับการรักษาที่ดีอย่างทันท่วงที

ผู้ที่มองหาประกันโรคหลอดเลือดสมอง ต้องการความคุ้มครองโรคหลอดเลือดสมองควรเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง ซึ่งให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคร้ายแรงทุกประเภท รวมถึงโรคหลอดเลือดสมองด้วย โดยแผนประกันนี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา และมอบเงินชดเชยในกรณีที่เกิดภาวะทุพพลภาพถาวรตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เราได้เลือกซื้อนั่นเอง

เบี้ยประกันโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ สภาพร่างกาย (สุขภาพ) และประวัติการเจ็บป่วย โดยทั่วไปแล้วประกันโรคหลอดเลือดสมองอาจจะมีราคาแพงกว่าประกันทั่วไป เนื่องจากเป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูง และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงเช่นกัน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันโรคหลอดเลือดสมองคือ

1. อายุ : ผู้ที่มีอายุมากกว่าอาจจะมีค่าเบี้ยประกันโรคหลอดเลือดสมองที่สูงกว่า เนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น
2. ประวัติสุขภาพ : หากมีประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ค่าเบี้ยประกันโรคหลอดเลือดสมองอาจจะสูงขึ้น
3. ประเภทของประกัน : บางบริษัทอาจมีแผนประกันที่มีความคุ้มครองสูง หรือให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น

เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุดเปรียบเทียบแผนประกันโรคหลอดเลือดสมอง กับ แรบบิท แคร์ เพื่อดูว่าแบบไหนเหมาะสมกับความต้องการของเรามากที่สุดนั่นเอง

สำหรับผู้ที่ต้องการทราบว่าการเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง หรือประกันโรคหลอดเลือดสมองนั้นจะทำให้เราได้รับความคุ้มครองด้านใดบ้าง ทั้งนี้ความคุ้มครองที่เราจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ได้เลือกซื้อเอาไว้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะมีลักษณะความคุ้มครองให้เลือกดังต่อไปนี้

• เจอ จ่าย จบ จ่ายเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคตามเงื่อนไขกรมธรรม์
• ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าห้อง ICU ค่ากายภาพบำบัด ค่ารักษาต่อเนื่อง
• เงินชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัว
• บางกรมธรรม์ครอบคลุมภาวะทุพพลภาพจากโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การป้องกันโดยการดูแลสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมาก และต้องไม่ลืมซื้อประกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ไว้ เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด และมีโอกาสฟื้นตัวได้มากขึ้นนั่นเอง