อยากทำประกันโรคทางเดินหายใจ ต้องเลือกทำประกันชนิดไหน มีความคุ้มครองอะไรบ้าง ?

โรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มโรคที่พบได้บ่อย และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ตั้งแต่โรคที่พบบ่อยอย่างไข้หวัดใหญ่ ไปจนถึงโรคร้ายแรงเช่น วัณโรค และโรคปอดอักเสบ การทำประกันโรคทางเดินหายใจ หรือประกันที่ดูแลคุ้มครองโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจึงถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา และให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมในกรณีเกิดภาวะรุนแรง วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงนำเรื่องที่ควรทราบเกี่ยวกับการทำประกันภัยโรคทางเดินหายใจ และความคุ้มครองในกรณีที่เป็นโรคต่าง ๆ มาให้ เพื่อที่จะได้นำไปประกอบการตัดสินใจการเลือกซื้อแผนประกันต่าง ๆ กัน

โรคทางเดินหายใจนั้นมีตั้งแต่โรคที่มีความร้ายแรงน้อยไปจนถึงโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยระดับความร้ายแรงจะขึ้นอยู่กับโรคที่เป็น คือ

• ไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงโดยเฉพาะในเด็ก และผู้สูงอายุ
• โรคปอดอักเสบ สามารถลุกลามจนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
• โรคหลอดลมอักเสบ มีผลต่อระบบหายใจทำให้หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง
• วัณโรค เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน
• โรคทอลซิลอักเสบ ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ลำคอ หากไม่รักษาอาจส่งผลต่อการกลืนและการหายใจ

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นโรคที่มีความร้ายแรงหรือไม่ แต่ก็ไม่สามารถละเลยการรักษาได้ ดังนั้นเนื่องจากกลุ่มโรคทางเดินหายใจเป็นโรคที่สามารถเป็นกันได้ง่าย จึงควรมีประกันที่ครอบคลุมดูแลค่ารักษาต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อที่จะได้ลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตนั่นเอง

สำหรับผู้ที่ต้องการทำประกันโรคทางเดินหายใจ ความจริงแล้วในเบื้องต้นการทำประกันภัยโรคทางเดินหายใจสามารถเลือกทำประกันสุขภาพตามปกติได้ แต่เพื่อความแน่ใจก็ต้องศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจซื้อว่าดูแลครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสามารถเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ได้ง่าย ๆ เพราะที่ แรบบิท แคร์ เรามีพาร์ทเนอร์เป็นบริษัทประกันรายใหญ่มากมาย ทำให้สามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเองได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

การทำประกันโรคทางเดินหายใจนั้นถือว่ามีความสำคัญมากเพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน โดยการมีประกันโรคทางเดินหายใจ จะช่วยแบ่งเบาภาระของเราได้ดังต่อไปนี้

• ประกันโรคทางเดินหายใจช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล
• ประกันโรคทางเดินหายใจช่วยคุ้มครองค่าห้อง และค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล
• ประกันโรคทางเดินหายใจมีวงเงินคุ้มครองสำหรับการตรวจวินิจฉัย และยา
• ประกันโรคทางเดินหายใจช่วยครอบคลุมการรักษาโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ

*เงื่อนไขความคุ้มครองประกันโรคทางเดินหายใจช่วยขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ

สำหรับผู้ที่กังวลว่าหากต้องการซื้อประกันโรคทางเดินหายใจเบี้ยประกันจะแพงหรือไม่ กล่าวคือเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ ประวัติสุขภาพ และประเภทของประกัน หากเลือกให้ดีเราสามารถเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองตามความต้องการ และอยู่ภายใต้งบประมาณได้ สามารถปรึกษาตัวแทนประกันภัย หรือเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพได้ กับ แรบบิท แคร์

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการซื้อประกันสุขภาพให้กับลูกแต่ยังคงกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยทั่วไปแล้วเบี้ยประกันของเด็กมักถูกกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่า อย่างไรก็ตามควรเลือกประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของเด็กอย่างเหมาะสม ไม่เน้นที่ถูกเกินไป เพราะเด็กเล็กที่ยังร่างกายไม่แข็งแรงนักก็มีโอกาสป่วยได้ง่ายเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจ และประกันไข้หวัดใหญ่สามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ในกรณีที่มีประกันทั้ง 2 ชนิด ส่วนใหญ่แล้วทางโรงพยาบาลจะเลือกเคลมแผนประกันที่ตรงกับโรคที่เป็นมากที่สุด และสามารถครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้ แต่หากกรมธรรม์เล่มเดียวไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย อาจจะใช้ 2 เล่มควบคู่กันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ซื้อเอาไว้ และระบบการจัดการของทางโรงพยาบาล

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจของเด็กนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง แม้ว่าเงื่อนไขความีคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

• ประกันโรคทางเดินหายใจช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีป่วยจากโรคทางเดินหายใจ
• ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล
• ค่าตรวจวินิจฉัย และค่ายา
• ค่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจ

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจ โรคปอดอักเสบนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง แม้ว่าเงื่อนไขความีคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

• ค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบ IPD และ OPD
• ค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจวินิจฉัย เช่น X-ray ปอด
• ค่าห้องพักฟื้นกรณีต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
• ค่ารักษากรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคปอดอักเสบ

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง แม้ว่าเงื่อนไขความีคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

• ค่าตรวจ และวินิจฉัยโรค
• ค่ายา และค่ารักษาพยาบาล
• ค่าห้องพักรักษาตัว
• ค่ากายภาพบำบัดกรณีที่มีผลกระทบต่อระบบหายใจระยะยาว

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจ วัณโรคนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง แม้ว่าเงื่อนไขความีคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

• ค่าตรวจวินิจฉัยวัณโรค
• ค่ายา และค่าติดตามอาการ
• ค่ารักษาในโรงพยาบาลหากอาการรุนแรง
• ค่าบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าโรคทางเดินหายใจ โรคทอลซิลอักเสบนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง แม้ว่าเงื่อนไขความีคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

• ค่าตรวจ และค่ารักษาโรคทอลซิลอักเสบ
• ค่าผ่าตัดกรณีที่จำเป็น
• ค่ายา และค่าติดตามอาการหลังการรักษา

• ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

• ผู้ป่วย โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบเรื้อรัง (COPD)
• คนที่เป็นภูมิแพ้รุนแรง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย ๆ

• ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหรี่ : สูบบุหรี่เป็นเวลานาน เสี่ยงต่อ มะเร็งปอด และถุงลมโป่งพองแม้เลิกบุหรี่แล้วปอดยังอาจมีความเสียหายสะสม

• ผู้ที่ต้องทำงานในที่เสี่ยงต่อมลพิษและฝุ่นละออง

• ผู้ที่ทำงานใน โรงงานอุตสาหกรรม ก่อสร้าง เหมืองแร่
• อาชีพที่ต้องสัมผัส ฝุ่น PM 2.5 ควันพิษ หรือสารเคมี

• ผู้สูงอายุ

• ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ปอดบวม วัณโรค
• มีแนวโน้มเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคทางเดินหายใจมากกว่าวัยหนุ่มสาว

• ผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่ หรือพื้นที่มลภาวะสูง

• เมืองที่มีปัญหาฝุ่นควันสูง เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

• ผู้ที่เคยติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงมาก่อน

• เคยเป็น โควิด-19 ปอดอักเสบขั้นรุนแรง หรือโรคที่ทำให้ปอดเสียหาย
• มีโอกาสเกิดภาวะปอดเสื่อม หรือโรคเรื้อรังในอนาคต

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าประกันโรคทางเดินหายใจ หรือประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคทางเดินหายใจนั้นมีข้อดีอย่างไรถึงควรทำเอาไว้ หลัก ๆ แล้วประกันโรคทางเดินหายใจจะมีข้อดีดังต่อไปนี้

• ค่ารักษาพยาบาลครอบคลุม ลดภาระค่าใช้จ่าย

• ค่าหมอ ค่ายา ค่าห้อง ICU ค่าตรวจวินิจฉัย (X-ray, CT Scan)
• ค่ากายภาพบำบัด และค่ารักษาต่อเนื่อง

• คุ้มครองโรคร้ายแรงเกี่ยวกับปอด และทางเดินหายใจ

• มะเร็งปอด ปอดอักเสบ วัณโรค ถุงลมโป่งพอง หอบหืดเรื้อรัง
• บางกรมธรรม์คุ้มครองผลกระทบจาก ฝุ่น PM 2.5 หรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

• ได้เงินชดเชยกรณีต้องหยุดงาน

• รับเงินชดเชยรายวันเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล
• ลดผลกระทบด้านรายได้หากต้องพักรักษาตัวระยะยาว

• สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพในบางแผน

• บางแผนสมัครง่าย ไม่ต้องมีผลตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองอย่างรวดเร็ว

• เบี้ยประกันคงที่ จ่ายสบาย ได้ความคุ้มครองสูง

• ค่าเบี้ยไม่แพงเมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น
• เลือกแผนตามงบประมาณ และความต้องการได้

• คุ้มครองทั่วโลก รักษาที่ไหนก็ได้ (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)

• บางแผนครอบคลุมการรักษาในต่างประเทศ
• สบายใจแม้เดินทางบ่อย หรือทำงานในพื้นที่เสี่ยง

• ส่วนใหญ่ต้องรอ 30-90 วัน ก่อนเคลมได้
• ไม่คุ้มครองโรคทางเดินหายใจที่เป็นอยู่ก่อนทำประกัน
• มีขีดจำกัดค่ารักษาต่อครั้ง หรือต่อปี ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก
• ไม่ครอบคลุมโรคจากบุหรี่ สารเสพติด หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง
• อาจมีเงื่อนไขในการจำกัดอายุผู้ต่ออายุกรมธรรม์
• บางแผนจำกัดโรงพยาบาลที่สามารถใช้สิทธิ์ได้

โรงพยาบาลกรุงเทพให้ข้อมูลโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มากับหน้าฝน ว่าเมื่อถึงหน้าฝนคนส่วนใหญ่มักเป็นโรคทางเดินหายใจดังต่อไปนี้

• ไข้หวัด (Common Cold)
• ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
• โรคปอดบวม (Pneumonia)
• โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
• ไอกรน (Pertussis)

การทำประกันภัยโรคทางเดินหายใจเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นได้ การเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองช่วยให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม และได้รับความอุ่นใจ ว่าหากวันไหนต้องรักษาตัวก็จะได้รับการรักษาอย่างทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด อย่าลืมทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ เพื่อวางแผนจัดการความเสี่ยงทางการเงินในอนาคตให้กับตนเอง และครอบครัว