ปอดอักเสบ คืออะไร ประกันปอดอักเสบทำยากหรือไม่ มีเงื่อนไขอะไรที่ควรทราบ ?

ปอดอักเสบเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในปอด ทำให้เกิดการอักเสบ หรือที่บางคนเรียกว่าปอดบวม และอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ดังนั้นเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่าย การทำประกันปอดอักเสบ หรือประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมโรคปอดอักเสบจึงถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

ดังนั้นในวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบ และการทำประกันภัยปอดอักเสบมาฝากทุกคนกัน

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ให้ข้อมูลโรคปอดอักเสบว่า โรคปอดอักเสบเป็นภาวะที่เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น สารเคมี และภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ผิดปกติ ทั้งนี้การติดเชื้อในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำนั้นบางครั้งการติดเชื้ออาจรุนแรง และทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเจ้าโรคปอดอักเสบ หรือปวดบวมนี้มีสาเหตุมาจากอะไร คำตอบคือปอดอักเสบสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

• การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Streptococcus pneumoniae ซึ่งถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
• การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสโควิด-19
• การติดเชื้อรา ซึ่งมักเกิดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
• การสูดดมสารเคมี เช่น ควันพิษ หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เข้าสู่ปอด
• โรคประจำตัว เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น

ทั้งนี้โรคดังกล่าวสามารถเกิดได้จากสาเหตุที่หลากหลาย ดังนั้นจึงควรทำประกันภัยปอดอักเสบ หรือประกันที่ครอบคลุมโรคปอดอักเสบไว้ จะเป็นการดีที่สุดนั่นเอง

ในส่วนของผู้ที่ต้องการว่าเมื่อป่วยเป็นโรคดังกล่าว จะมีลักษณะอาการเป็นอย่างไรบ้าง โดยทั่วไปแล้วอาการของปอดอักเสบจะสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะอาการตามระดับความรุนแรงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• อาการเบื้องต้น เช่น ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ , มีไข้ , หนาวสั่น
• อาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก , เจ็บหน้าอก , เหนื่อยง่าย
• อาการในผู้สูงอายุหรือเด็ก อาจไม่มีไข้แต่มีภาวะสับสน หรืออ่อนแรงมากกว่าปกติ

ปอดอักเสบนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โดยแนวทางในการการรักษาโรคดังกล่าวจะมีวิธีการรักษาดังต่อไปนี้

• การใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
• การใช้ยาต้านไวรัสหากเกิดจากเชื้อไวรัส
• การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ หรือให้ออกซิเจนในกรณีที่หายใจลำบาก

ไม่ว่าจะใช้แนวทางใดในการรักษา แต่แน่นอนว่าก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลจำนวนไม่น้อยเลยท่ีเดียว ดังนั้นจึงควรทำประกันภัยปอดอักเสบอย่างประกันสุขภาพเอาไว้ เพื่อความสบายใจจะป่วยเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องเสียเงินก้อนโต

การทำประกันภัยปอดอักเสบ หรือประกันสุขภาพหลังจากเคยเป็นปอดอักเสบนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันแต่ละแห่ง โดยปกติแล้วผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคนี้อาจต้องผ่านการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม และอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเช่น

• ต้องไม่มีอาการ หรือภาวะแทรกซ้อนต่อเนื่อง
• มีประวัติการรักษาที่ชัดเจน และไม่มีอาการซ้ำซ้อน
• บางกรมธรรม์อาจมีข้อยกเว้น ไม่ครอบคลุมโรคปอดอักเสบหากเป็นโรคเดิมที่เคยมีมาก่อน

ดังนั้นเพื่อความแน่นอนอย่ารอให้เป็นก่อนแล้วค่อยทำประกันภัยปอดอักเสบ แต่ควรทำไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะโรคดังกล่าวเป็นโรคที่มีโอกาสเป็นได้สูงไม่ว่าจะกับใครก็ตาม

สำหรับผู้ที่ต้องการหาประกันเพื่อจัดการความเสี่ยงในอนาคตนั้น หากต้องการความคุ้มครองเกี่ยวกับปอดอักเสบ ควรเลือกซื้อประกันดังต่อไปนี้

• ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย กับ แรบบิท แคร์ ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั่วไป
• ประกันโรคร้ายแรง ที่ครอบคลุมโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
• ประกันอื่น ๆ ที่มีความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคปอดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ในเบื้องต้นนั้นสำหรับผู้ที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงอยู่ในระดับปกติ ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับปอดในระดับร้ายแรง การเลือกซื้อประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ซึ่งครอบคลุมการดูแลโรคเกี่ยวกับปอดก็เพียงพอ

ในส่วนของผู้ที่สงสัยว่าประกันภัยปอดอักเสบ หรือประกันสุขภาพที่ครอบคลุมนั้นแพงหรือไม่ โดยปกติแล้วค่าเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สุขภาพ และรูปแบบความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยต้องการ โดยทั่วไปแล้วค่าเบี้ยประกันภัยปอดอักเสบจะอยู่ในช่วงหลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อปี

การซื้อประกันปอดอักเสบนั้นไม่ได้ยาก หรือไม่ได้มีขั้นตอนมากมายอะไรในกรณีที่ไม่มีประวัติโรคปอดเรื้อรัง แต่หากเคยเป็นโรคปอดอักเสบมาก่อน อาจต้องผ่านการพิจารณาสุขภาพอย่างละเอียดจากบริษัทประกันตามขั้นตอนที่แต่ละบริษัทได้กำหนดเงื่อนไขเอาไว้นั่นเอง

อาจมีผู้ที่ตั้งคำถามว่าการซื้อประกันปอดอักเสบ หรือประกันสุขภาพที่ครอบคลุมดูแลโรคปอดนั้นมีความสำคัญอย่างไร โดยความสำคัญของการซื้อประกันปอดอักเสบจะมีดังต่อไปนี้

• ประกันปอดอักเสบช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่สูง
• ประกันปอดอักเสบเพิ่มความอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาระทางการเงินของครอบครัว
• ประกันปอดอักเสบครอบคลุมค่ารักษาในโรงพยาบาล หากต้องนอนโรงพยาบาล ประกันสามารถช่วยจ่ายค่ารักษาได้
• ประกันปอดอักเสบถือเป็นหนึ่งในส่วนช่วยจัดการความเสี่ยงในอนาคต
• ประกันปอดอักเสบทำให้มั่นใจได้ว่าหากป่วยเป็นโรคปอดบวม จะได้รรับการรักษาที่ดีที่สุดอย่างไร้กังวล

• ผู้สูงอายุควรทำประกันปอดอักเสบ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อน และอาการรุนแรง
• เด็กเล็ก และทารกควรทำประกันปอดอักเสบ เนื่องจากปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ติดเชื้อได้ง่าย และอาจรุนแรงกว่าผู้ใหญ่
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอดควรทำประกันปอดอักเสบ เช่น โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
• ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังอื่น ๆ ควรทำประกันปอดอักเสบ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโอกาสติดเชื้อและฟื้นตัวช้ากว่าปกติ
• ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหรี่ควรทำประกันปอดอักเสบ : มีโอกาสเกิดโรคปอดอักเสบ และภาวะแทรกซ้อนมากกว่าคนทั่วไป
• ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยงควรทำประกันปอดอักเสบ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ทำงานในโรงงาน หรือผู้ที่อยู่ในเมืองที่มีมลพิษสูง
• ผู้ที่เคยมีประวัติปอดอักเสบมาก่อนควรทำประกันปอดอักเสบ มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ และอาจรุนแรงขึ้น
• ผู้ที่เดินทางบ่อยหรือต้องเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงควรทำประกันปอดอักเสบ เช่น ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ หรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ

การเลือกซื้อประกันปอดอักเสบควรพิจารณาตามความเสี่ยงของตัวเอง เช่น หากเป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด ควรเลือกแผนที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงการดูแลต่อเนื่อง เช่น ค่ากายภาพบำบัด หรือค่าตรวจติดตามผล สำหรับผู้ที่ทำงานหรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อมลพิษ อาจเลือกแผนที่ครอบคลุมการรักษาจากสาเหตุที่เกิดจากมลภาวะ

นอกจากนี้ควรพิจารณาวงเงินคุ้มครองให้เหมาะสมกับค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่ต้องการใช้บริการ พร้อมทั้งเลือกแผนที่มีเบี้ยประกันคุ้มค่า และสามารถต่ออายุได้ระยะยาว

ก่อนซื้อประกันปอดอักเสบควรตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ระยะเวลารอคอย ซึ่งมักอยู่ที่ 30-90 วันหลังจากทำประกัน โดยโรคที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จะไม่สามารถเคลมได้ อีกทั้งไม่คุ้มครองโรคปอดอักเสบที่เป็นมาก่อนซื้อ (Pre-existing Condition) ดังนั้น หากมีประวัติเป็นโรคปอดอักเสบมาก่อน อาจต้องตรวจสอบว่าแผนประกันที่เลือกสามารถใช้ในกรณีนี้หรือไม่ รวมถึงข้อยกเว้นอื่น ๆ เช่น โรคที่เกิดจากสารเสพติด หรือพฤติกรรมเสี่ยง ควรเลือกแผนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามที่ต้องการ และตรวจสอบว่าใช้สิทธิ์รักษาได้ในโรงพยาบาลเครือข่ายใดได้บ้างเพื่อป้องกันปัญหาในการเคลมภายหลัง

ปอดอักเสบเป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ การทำประกันปอดอักเสบเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคตได้ ดังนั้นควรเลือกกรมธรรม์ที่ครอบคลุมโรคปอด และพิจารณาเงื่อนไขของแต่ละบริษัทก่อนตัดสินใจซื้อประกัน