นักลงทุนมือใหม่หลายคนอาจจะสงสัยว่า การลงทุน Lump Sum คืออะไร? แตกต่างจากการลงทุนทั่วไปมากน้อยแค่ไหน? แล้ว Lump sum price เป็นการลงทุนชนิดเดียวกันไหม? มีข้อดีข้อเสียหรือเปล่า? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปรู้จักให้มากขึ้นกับการลงทุนเหล่านี้!
Lump sum คืออะไร?
ก่อนอื่นน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เดิมคำว่า Lump sum เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษ มีความหมายว่า จ่ายด้วยเงินสดครั้งเดียว โดยไม่ต้องแบ่งออกเป็นงวด หรือการชำระหรือการจ่ายเป็นส่วน ๆ ในระยะเวลาหลาย ๆ ครั้ง ส่งผลให้คนรับเงินได้รับจำนวนเงินทั้งหมดในระยะเวลาเดียวเป็นเงินก้อนใหญ่ เช่น
- การเบิกถอนเงินสมทบเงินบำนาญทั้งหมดในครั้งเดียว แทนที่จะรับเงินเป็นเงินเดือนหรือเป็นส่วนเป็นส่วน
- ค่าชดเชย หรือค่าตอบแทน ที่ได้จากบริษัท โดยทางกบริษัทหรือหน่วยงานจะจ่ายเงินดั่งกล่าวให้ทั้งหมดในครั้งเดียว
ซึ่งต่อมา Lump sum ถูกนำมาใช้อีกครั้งในฐานะรูปแบบการลงทุน โดย การลงทุนแบบ Lump sum หรือการลงทุนแบบเงินก้อน เป็นแนวคิดของวิธีการลงทุนแบบครั้งเดียว หรือก็คือ การที่เราใช้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อลงทุนในจังหวะเวลาที่เราประเมินแล้วว่าเหมาะสม (Market Timing) โดยคาดว่า ในอนาคต ราคาสินทรัพย์ที่เราลงทุนจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง โดยเราสามารถยกตัวอย่างการลงทุนแบบ Lump sum ได้ ดังนี้
การซื้อบ้านด้วยเงินก้อนเดียว
เพราะเมื่อคุณซื้อบ้านที่ราคา 1 ล้านบาทโดยการจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดโดยครั้งเดียว ค่าที่คุณจ่ายครั้งเดียวนี้เรียกว่า Lump sum payment โดยการลงทุนในบ้าน อสังหาริมทรัพย์นี้ อาจเพื่อนำไปลงทุนปล่อยเช่า หรือเตรียมขายต่อในอนาคต
การลงทุนในกองทุนรวม หรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
เช่น การซื้อกองทุนรวม, ซื้อหุ้น หรือพันธบัตรหนี้ โดยต้องเป็นใช้เงินก้อนเพื่อลงทุน และรอการได้รับผลกำไรกลับมาในอนาคต
ส่วน "Lump sum price" เป็นศัพท์ทางธุรกิจที่ใช้ในการอธิบายราคาหรือค่าใด ๆ ที่ถูกจ่ายหรือเรียกร้องในรูปแบบการชำระเงินครั้งเดียวในระยะเวลาเดียว โดยไม่ต้องแบ่งเป็นงวดหรือการชำระหลายครั้ง อาจใช้ในบริบทของสัญญาก่อสร้าง ซึ่งมักจะเป็นการชำระเงินครั้งเดียวในสัญญานั่นเอง
สรุปแล้ว กลยุทธ์การลงทุนแบบ Lump Sum คือ การลงทุนในรูปแบบใช้เงินทั้งหมดลงทุนเพียงครั้งเดียว โดยไม่มีการแบ่งเป็นส่วนย่อยหรือผ่อนชำระในช่วงเวลาที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ การลงทุนแบบ Lump Sum ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคุณ แม้จะเป็นการลงทุนด้วยเงินก้อนครั้งเดียว แต่ควรแบ่งแยกเงินออกตามสถานการณ์และวัตถุประสงค์การลงทุน รวมถึงควรพิจารณาความเสี่ยง และข้อกำหนดการลงทุนให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณการลงทุนครั้งนี้จะไม่ทำให้สภาพการเงินเกิดปัญหานั่นเอง
ข้อดีของ Lump Sum
สำหรับ ข้อดีของการลงทุนแบบ Lump Sum นี้ คือ เราสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง หากเรามีความรู้ในการลงทุน สามารถจับจังหวะตลาดได้ถูกเวลา และต้นทุนค่าธรรมเนียมที่น้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีเงินก้อนแยกจากเงินออมโดยเฉพาะ
เช่น ค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการแบ่งชำระหรือผ่อนชำระในระยะเวลานาน เพราะการจ่ายเงินแบบ Lump Sum ทำให้ผู้จ่ายเงินหรือลูกค้าสามารถชำระเงินครั้งเดียวได้ ไม่ต้องแบ่งชำระเงินในภายหลัง ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนและประหยัดเวลาในการดำเนินการทางการเงินได้เป็นอย่างดี
ข้อเสียของ Lump Sum
แม้จะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ข้อเสียของ Lump Sum ก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลา หากลงทุนผิดเวลา หรือผิดทางก็จะทำให้ขาดทุนได้ นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Lump Sum จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินก้อนหรือทรัพย์สินเพียงพอในการชำระเงินครั้งเดียว ซึ่งอาจทำให้เกิดภาระทางการเงินในกรณีที่ไม่สามารถรวมเงินที่จำเป็นได้ในครั้งเดียว
ในกรณีที่เงินหรือทรัพย์สินไม่เพียงพอ อาจสร้างภาระการชำระเงินที่สูงกว่าการแบ่งชำระหรือผ่อนชำระเสียอีก รวมไปถึงความเสี่ยงของการลงทุนค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับมือใหม่ด้านการลงทุน เพราะสภาวะตลาดในอนาคตคาดเดายาก มีความผันผวนสูง
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีการจ่ายเงินแบบ lump sum หรือแบ่งชำระเงินนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละบุคคลหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ผู้ที่สนใจในการลงทุนแบบ Lump Sum ควรพิจารณาและวางแผนการเงินให้ถูกต้องก่อนที่จะตัดสินใจใช้วิธีการชำระเงินใด ๆ
และสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ด้านการลงทุน แต่ยังไม่มีเงินก้อน ไม่อยากเสี่ยง การทำประกันออมทรัพย์ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะความเสี่ยงต่ำแล้ว ผู้ทำประกันยังได้รับความคุ้มครองต่าง ๆ ตามแบบแผนประกันชีวิตอีกด้วย! สมัครเลย ที่ แรบบิท แคร์ ที่นี่ มาพร้อมบริการเปรียบเทียบประกันให้คุณเลือกหลากหลาย เบี้ยประกันจับต้องได้!