Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

ปะเก็นฝาสูบ (Gasket) คืออะไร มีหน้าที่ทำอะไร?

ทุกชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ล้วนมีความสำคัญกับรถยนต์ทั้งสิ้น เพราะมันสัมพันธ์กับกระบวนการทำงานของเครื่องยนต์ หากมีชิ้นส่วนใดเสีย สึกหรอ หรือทำงานผิดปกติ รถยนต์ก็จะมีอาการที่ผิดแปลกออกไป บางครั้งทำให้รถสั่น รถดับกลางอากาศก็มี วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ปะเก็นฝาสูบ ว่ามันคืออะไร มีกี่ประเภท มีหน้าที่ทำอะไร แล้วหากมันมีการรั่วซึม จะแสดงอาการผิดปกติอย่างไร ไปดูกันเลย!!

ปะเก็นฝาสูบ คืออะไร?

ปะเก็นฝาสูบ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษอย่าง Gasket มันคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบชิ้นส่วนเพื่อกั้นหน้าสัมผัสของชิ้นส่วนที่นำมาประกบชิดติดกัน จุดประสงค์คือเพื่ออุดรอยรั่ว ปิดผนึกและกันกระแทก เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญของรถยนต์แม้จะมีขนาดเล็กก็ตาม เพราะปะเก็นฝาสูบ สามารถช่วยให้น้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อเย็นด้านในไม่รั่วและไหลออกมา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันการรั่วซึมในเครื่องยนต์อีกด้วย และยังป้องกันการสูญเสียกำลังอัด คุณสามารถพบเห็นปะเก็นฝาสูบได้ทุกที่ เช่น ในเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวต่าง ๆ หรือแม้แต่กระทั่งโซ่ของรถมอเตอร์ไซค์ เพราะห่วงโซ่ที่เป็นปะเก็นทำให้โซ่มีการเคลื่อนไหวได้ แถมยังช่วยรักษาข้อต่อไว้อย่างแน่นหนา

ปะเก็นฝาสูบ มีกี่ชนิด?

ปะเก็นก้านสูบ หรือ Gasket สามารถถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่มีความหลากหลาย เช่น โลหะ ยาง เทปล่อน เชือก หรืออื่น ๆ บางครั้งก็มีคุณสมบัติที่ทนไฟหรือมีฉนวนกันความร้อนอยู่ ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และถูกนำไปใช้งานในพื้นที่หรือสถานการณ์ที่แตกต่างกัน มีดังต่อไปนี้

1. ปะเก็นฝาสูบแบบโลหะ (Metallic Gasket)

ปะเก็นฝาสูบชนิดแบบโลหะ ข้อดีคือจะมีความอ่อนตัว สามารถใช้งานอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิหรือความดันที่สูงได้เป็นอย่างดี มีความแข็งแรง หนา ทนความร้อน แต่จะไม่ทนต่อการกัดกร่อน วัสดุที่นำมาใช้ เช่น Low carbon steel, Inconel, Monel, หรือ Soft iron

2. ปะเก็นฝาสูบแบบอโลหะ (Non-metallic Gasket)

ปะเก็นฝาสูบชนิดอโลหะ คือทำมาจากวัสดุที่ไม่ใช่เหล็กหรือโลหะ มักจะทำมาจากยาง หรือไฟเบอร์ต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นสูง แต่ไม่แข็งแรง และไม่สามารถทนกับอุณหภูมิหรือความดันที่สูงได้ แต่แบบอโลหะจะทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี และข้อดีคือมีราคาที่ไม่แพง

3. ปะเก็นฝาสูบแบบผสม (Composite Gasket)

จะเป็นการผสมระหว่า‍งแบบโลหะและแบบอโลหะ โดยถูกออกแบบมาตามการใช้งาน เช่น บริเวณหน้าแปลนของเครื่องยนต์ บริเวณที่ต้องรับแรงดันหรือแรงกระแทก รวมถึงบริเวณที่ต้องเชื่อมกับอุปกรณ์ระบายความร้อนต่าง ๆ

4. ปะเก็นฝาสูบแบบเหลว (Liquid Gasket)

ปะเก็นฝาสูบแบบเหลว จะมีลักษณะเหมือนกับกาวยาง ส่วนมากจะใช้งานโดยการทาบริเวณจุดที่ต้องการจะอุดหรือซีล เพื่อป้องกันรอยรั่วซึม นิยมนำมาใช้เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำ

เหล่านี้คือประเภทของปะเก็นฝาสูบชนิดต่าง ๆ ที่คุณสามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป ซึ่งจะมีขายทั้งแบบชุดใหญ่ ชุดเล็ก หรือเฉพาะจุด แต่ถ้าต้องการนำมาตัดเองก็สามารถซื้อแบบเป็นแผ่นได้

ปะเก็นฝาสูบ ทำหน้าที่อะไร?

ปะเก็นฝาสูบ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถยึดติดกับวัสดุที่นำมาประกบกันได้ ทำให้แนบสนิท ไม่มีช่องโหว่ ทำหน้าที่ป้องกันสิ่งที่อยู่ด้านใน เช่น ของเหลว อากาศ ก๊าซ ไม่สามารถไหลออกมาได้ เนื่องจากการขับรถอาจทำให้เกิดสภาวะร้อนหรือเย็นจนเกินไป ทำให้โลหะที่อยู่ข้างในเครื่องยนต์เกิดการหดตัวหรือมีการขยายตัวที่มากเกินไป ดังนั้นหากไม่มีปะเก็นฝาสูบช่วย ก็จะทำให้ชิ้นส่วนที่ประกบกันเกิดช่องว่าง ไม่เรียบเนียน อาจทำให้มีน้ำมันเครื่องรั่ว รถยนต์ได้

ความเสียหายที่อาจพบได้กับปะเก็นฝาสูบ?

ปะเก็นฝาสูบ ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ของเครื่องยนต์ที่สำคัญ และสามารถเสียหายหรือสึกหรอได้ตามการใช้งาน โดยความเสียหายที่อาจพบได้กับปะเก็นฝาสูบ มีดังต่อไปนี้

1. ปะเก็นฝาสูบระหว่างเสื้อสูบแตกเสียหาย

เกิดจากการที่กำลังอัดของลูกสูบรั่วไหลไปยังอีกสูบ ซึ่งผลที่ตามมาคือทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เดินเครื่องไม่เรียบ ทำให้การทำงานของจุดระเบิดผิดจังหวะ นอกจากนี้ยังทำให้น้ำมันเครื่องเกิดการรั่วซึม เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีท เนื่องจากน้ำมันหล่อเย็นรั่วและไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้

2. ปะเก็นฝาสูบระหว่างเสื้อสูบกับทางเดินน้ำหล่อเย็นขาด

เกิดจากการที่น้ำหล่อเย็นรั่วและไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้ ทำให้น้ำในหม้อน้ำระเหยและหมดไป การที่ปะเก็นฝาสูบรั่วหรือโก่ง ส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด มีการระบายความร้อนที่ไม่ดี อ้างอิงจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นอกจากนี้จุดระเบิดระหว่างการสตาร์ทเครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด ทำให้มีคราบเขม่าดำและรั่วไหลไปในระบบน้ำหล่อเย็น ทำให้ระบบเกิดการกัดกร่อน ระบบระบายความร้อนทำงานผิดปกติ ทำให้เครื่องยนต์พังและเสียหายได้‍ง่าย ๆ เพียงแค่ปะเก็นฝาสูบทำงานผิดปกติ

3. ปะเก็นฝาสูบแตกระหว่างทางเดินน้ำหล่อเย็นและทางเดินน้ำมันหล่อลื่น

‍ในกรณีนี้เครื่องยนต์อาจพังเสียหายได้ หากปะเก็นฝาสูบแตก ทำให้น้ำมันหล่อเย็น ไหลไปผสมกับน้ำมันเครื่อง ทำให้การหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ในรถยนต์ผิดแปลกไป มีการสูญเสียกำลังอัด และเกิดจากการที่ปะเก็นฝาสูบโก่งตัวขึ้น

เหล่านี้คืออาการความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้จากการที่ปะเก็นฝาสูบเกิดความเสียหาย นอกจากนี้มาทำความรู้จักกับอาการปะเก็นฝาสูบรั่วกันดีกว่า ว่ามันเป็นยังไง และเกิดขึ้นได้อย่างไร

ปะเก็นฝาสูบรั่ว เกิดจากอะไร?

ประเก็นฝาสูบรั่ว ถือเป็นเหตุการณ์ที่อันตราย เพราะนำมาสู่ผลลัพธ์อันน่ากลัว บางคนขับขี่อยู่แล้วเกิดอาการเครื่องดับ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ประเก็นฝาสูบรั่ว แตก หรือชำรุดเสียหาย มาจากการที่เสื้อสูบแตกเสียหาย หรือเสื้อสูบกับทางเดินน้ำหล่อเย็นขาด ส่วนหนึ่งมาจากการใช้งานที่ยาวนาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน การมีเขม่าดินเข้าไปติด รวมถึงการใช้ปะเก็นฝาสูบที่ไม่ถูกชนิดหรือประเภท ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปะเก็นฝาสูบรั่ว

ปะเก็นฝาสูบรั่ว อาการเป็นอย่างไร?

ปะเก็นฝาสูบชำรุดหรือรั่ว จะมีทั้งแบบรั่วนอก และรั่วใน ดังนั้นหากฝาครอบวาล์วรั่วภายนอก อาจเห็นน้ำมันเครื่องรั่วหรือไหลเยิ้มออกมาได้ แต่ถ้าหากรั่วจากภายใน ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์มีอาการสะอึก เครื่องสะดุดเมื่อเร่งความเร็ว และมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

  • 1. ระดับน้ำมันหล่อเย็นลดลงรวดเร็ว
    การที่ปะเก็นฝาสูบรั่ว หรือชำรุดทำให้น้ำมันหล่อเย็นไหลเข้าไปในห้องเครื่องได้ ทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนสูง และทำให้เครื่องทำงานผิดพลาดได้
  • 2. เกิดควันรถหนาทึบ
    เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้หากปะเก็นเกิดความชำรุดเสียหาย รถยนต์ของคุณจะมีการพ่นควันขาวที่มีลักษณะหนาทึบหลังจากที่เครื่องยนต์อุ่นแล้ว อาการนี้แปลว่าสารหล่อเย็นกำลังรั่วไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปะเก็นฝาสูบรั่ว
  • 3. เครื่องยนต์ดับ
    เมื่อปะเก็นฝาสูบเกิดการรั่วหรือพัง ทำให้กำลังอัดมีความไม่สมดุล ทำให้เกิดการสะสมของแรงอัดในห้องเผาไหม้ เกิดปัญหาการจุดระเบิดที่ผิดจังหวะไป ผู้ขับขี่อาจได้ยินเสียงกระตุกหรือมีสีที่ผิดปกติออกมาจากห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์กระตุกและดับได้
  • 4. น้ำมันเครื่องเปลี่ยนสี
    การที่น้ำมันเครื่องเกิดการเปลี่ยนสี เช่น เป็นสีน้ำตาล สีเทา หรือมีฟองอากาศลอยอยู่บนผิวของน้ำมันเครื่อง เป็นอีกหนึ่งอาการของปะเก็นรั่ว เนื่องจากมีการปนเปื้อนของสารหล่อเย็น

เหล่านี้คืออาการผิดปกติของปะเก็นฝาสูบ อย่างไรก็ตามหากคุณขับรถแล้วเกิดรถเสียหาย อันเนื่องมาจากการทำงานที่ผิดปกติของปะเก็นฝาสูบ ในกรณีนี้ประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง แต่อย่าลังเลที่จะซื้อประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ เพราะเราจะให้ความคุ้มครองหากรถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้ นอกจากนี้เรายังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลและอยู่เคียงข้างคุณ และมีศูนย์ซ่อมทั่วประเทศ หากสนใจโทรเลย 1438

ถ้าปะเก็นฝาสูบรั่ว ประกันรถยนต์แต่ละชั้นคุ้มครองอย่างไรบ้าง

กรณีปะเก็นฝาสูบรั่วซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์โดยตรง การคุ้มครองจากประกันรถยนต์แต่ละชั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ปะเก็นฝาสูบรั่วและประเภทของประกันที่คุณเลือก โดยรายละเอียดการคุ้มครองมีดังนี้

1. ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1

  • คุ้มครองในบางกรณี: หากปะเก็นฝาสูบรั่วเนื่องจากอุบัติเหตุที่มีการชน เช่น ชนกับรถคันอื่นหรือวัตถุที่ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหาย ประกันชั้น 1 จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม รวมถึงการเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบ
  • ภัยธรรมชาติ: หากปะเก็นฝาสูบรั่วเกิดจากน้ำท่วมที่ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ประกันชั้น 1 จะรับผิดชอบ
  • ไม่คุ้มครอง: กรณีปะเก็นฝาสูบรั่วจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานหรือการละเลยการบำรุงรักษา เช่น การใช้งานรถโดยไม่เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นหรือปล่อยให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป

2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+

  • คุ้มครองบางกรณี: หากปะเก็นฝาสูบรั่วเกิดจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือกรณีรถชนรถและส่งผลต่อเครื่องยนต์ ประกันชั้น 2+ จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
  • ภัยธรรมชาติ: หากเกิดความเสียหายจากน้ำท่วมหรือไฟไหม้ ประกันจะคุ้มครอง
  • ไม่คุ้มครอง: ความเสียหายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของปะเก็นฝาสูบ หรือในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขับชนสิ่งกีดขวาง หรือความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดวิธี

3. ประกันรถยนต์ชั้น 2

  • ไฟไหม้: หากปะเก็นฝาสูบรั่วเกิดจากไฟไหม้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ระบุในกรมธรรม์ ประกันชั้น 2 จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม รวมถึงความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์
  • ไม่คุ้มครอง: ความเสียหายจากการเสื่อมสภาพหรือการละเลยการบำรุงรักษาหรือดัดแปลงเครื่องยนต์ การใช้งานผิดวิธี รวมทั้ง ความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถของคุณเอง รวมถึงปะเก็นฝาสูบรั่ว ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือสาเหตุอื่น เพราะประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินและตัวบุคคลของคู่กรณีในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด

4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+

  • คุ้มครองเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณี: หากปะเก็นฝาสูบรั่วเกิดจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี (รถชนรถ) และส่งผลต่อเครื่องยนต์ ประกันชั้น 3+ จะครอบคลุม
  • ไม่คุ้มครอง: ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานปกติหรือการเสื่อมสภาพ ความเสียหายกรณีไม่มีคู่กรณี เช่น ชนสิ่งของ หรือการบำรุงรักษาที่ผิดพลาด และภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมหรือไฟไหม้

5. ประกันรถยนต์ชั้น 3

  • ประกันชั้น 3 ธรรมดาไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณเอง รวมถึงปะเก็นฝาสูบรั่ว ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือสาเหตุอื่น
  • คุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินและตัวบุคคลของคู่กรณีในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา