เบาหวาน คืออะไร อันตรายหรือไม่ ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายของเราบ้าง ?
เบาหวานเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โรคนี้จะส่งผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ รวมถึงอาการ สาเหตุ และแนวทางป้องกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ
เบาหวาน คืออะไร ?
เบาหวาน คือ โรคที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ หรือใช้อินซูลินได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้เซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้มีน้ำตาลสะสมในกระแสเลือดมากเกินไป
เบาหวาน อันตรายหรือไม่ ?
ในระยะแรกเริ่มนั้นโรคนี้อาจไม่ส่งผลอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายในทันที แต่หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น หัวใจวาย โรคไตวาย และเส้นเลือดในสมองตีบได้นั่นเอง
อาการ เบาหวาน
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบว่าหากเป็นโรคนี้จะมีอาการอย่างไร ทั้งนี้อาการของโรคจะสามารถแบ่งออกเป็นอาการต่าง ๆ ได้ โดยแบ่งเป็นอาการที่เกิดในระยะเริ่มต้น และอาการที่เกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งมักพบอาการดังนี้
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- กระหายน้ำ และดื่มน้ำบ่อย เนื่องจากร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้จะรับประทานอาหารตามปกติ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เนื่องจากเซลล์ร่างกายไม่ได้รับพลังงานเพียงพอ
- แผลหายช้า และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
- ตาพร่ามัว เพราะระดับน้ำตาลสูงส่งผลต่อเลนส์ตา
สาเหตุของการเป็นเบาหวาน
โรคดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการส่งต่อทางพันธุกรรม โดยสาเหตุของการเกิดที่พบบ่อยจะมีดังต่อไปนี้
- กรรมพันธุ์ หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคนี้ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
- พฤติกรรมการบริโภค การกินอาหารที่มีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตสูงเป็นประจำเพิ่มความเสี่ยงเป็นอย่างมาก
- การขาดการออกกำลังกาย จะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาลได้ดีพอ
- ภาวะอ้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เนื่องจากไขมันส่วนเกินส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน
- ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ มีผลต่อระบบเผาผลาญ และระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างมาก
เบาหวานส่งผลต่อร่างกายอย่างไร ?
บางคนอาจสงสัยว่าเมื่อเป็นเบาหวานแล้วจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร ทั้งนี้โรคนี้ที่ไม่ได้รับการควบคุม และรักษาอย่างเหมาะสมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังต่อไปนี้
- ส่งผลต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง
- อาจทำให้ไตเสื่อม ทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง
- มีปัญหาทางสายตา เช่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา และอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้
- ระบบประสาทเสื่อม ทำให้เกิดอาการชา หรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า
- เกิดแผลเรื้อรัง โดยเฉพาะที่เท้า และอาจรุนแรงถึงขั้นต้องตัดอวัยวะ
เบาหวาน มีกี่ชนิด ?
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลโรคนี้ว่า เบาหวานสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกัน โดยจะมีการแบ่งชนิดของโรคดังกล่าว ดังต่อไปนี้
- เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน
- เบาหวานชนิดที่ 2 พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- เบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นชั่วคราวในช่วงตั้งครรภ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเบาหวานชนิดที่ 2
- เบาหวานจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น โรคทางพันธุกรรม หรือเกิดจากยาบางชนิด
เบาหวาน Type 1 และ 2 ต่างกันอย่างไร ?
เบาหวานชนิดที่ 1
- เกิดจากการทำลายเซลล์ตับอ่อนที่ผลิตอินซูลิน
- ต้องใช้อินซูลินในการรักษาตลอดชีวิต
- มักเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น
เบาหวานชนิดที่ 2
- เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรม และยา
- มักพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
เบาหวานแห้ง คืออะไร ?
เบาหวานแห้ง คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ยังไม่มีแผลติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรง สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการใช้ยารักษา
เบาหวานเปียก คืออะไร ?
เบาหวานเปียก คือ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุม เช่น มีแผลติดเชื้อที่รักษายาก และมีความเสี่ยงต่อการถูกตัดอวัยวะ
จะตรวจสอบค่าเบาหวานได้ด้วยวิธีไหน ?
สำหรับผู้ที่มีความกังวลใจว่าตนเองอาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่ และอยากทราบว่าจะสามารถตรวจค่าเบาหวานได้ด้วยวิธีไหน ก็สามารถเข้าไปขอรับการตรวจ หรือขอรับคำแนะนำจากแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ โดยการตรวจค่าเบาหวานสามารถทำได้ผ่านวิธีดังนี้
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) วัดระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง
- ตรวจระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) แสดงค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือดย้อนหลัง 2-3 เดือน
- ตรวจน้ำตาลหลังรับประทานอาหาร (PPG) ใช้ประเมินการควบคุมน้ำตาลหลังมื้ออาหาร
เป็นเบาหวาน ทำประกันสุขภาพได้ไหม ?
สามารถทำประกันสุขภาพได้ แต่เงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ดังนั้นจึงควรทำการศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้สำหรับใครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ และอยากทำประกันสุขภาพเอาไว้ ก็สามารถเลือกแผนประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ได้ เรามีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำเพื่อให้ทุกคนได้แผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด และคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง
ประกัน เบาหวาน มีอะไรบ้าง ?
ความจริงแล้วมีประกันสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการความเสี่ยงในอนาคตให้เลือกอยู่มากมาย อีกทั้งปัจจุบันยังมีประกันสุขภาพที่มีการดูแลครอบคลุมผู้ป่วยโรคนี้โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ประกัน สุขภาพเบาหวาน ประกันสุขภาพ เบาหวาน ความดัน แพงไหม ?
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับคนเป็นโรคนี้ และความดันโลหิตสูงจะสูงกว่าประกันสุขภาพทั่วไป เนื่องจากบริษัทประกันมองว่ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนที่อาจทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น อย่างไรก็ตามราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ระดับความรุนแรงของโรค และแผนความคุ้มครองที่เลือกซื้อ
ประกัน เบาหวาน เจอ จ่าย จบ มีหรือไม่ ?
แน่นอนว่ามี ปัจจุบันนี้บางบริษัทประกันมีแผนความคุ้มครองแบบ "เจอ จ่าย จบ" สำหรับโรคเบาหวาน ซึ่งจะจ่ายเงินก้อนให้เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ?
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เพิ่มโอกาสให้เกิดโรคนี้มากกว่าปกติได้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวัง และดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูง คือ
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน : หากพ่อแม่หรือพี่น้องสายตรงเป็นเบาหวาน โอกาสที่จะเป็นโรคนี้ก็จะสูงขึ้น เพราะมีปัจจัยทางพันธุกรรมเกี่ยวข้อง
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน : ความอ้วนโดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย : การใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้น้อยลง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเบาหวาน
- ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง : ความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดผิดปกติร่วมด้วย
- ผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน : คนที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีโอกาสพัฒนาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้สูงขึ้น
- หญิงตั้งครรภ์ที่เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ : ผู้หญิงที่เคยมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสสูงที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
- ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป : ความสามารถของร่างกายในการควบคุมระดับน้ำตาลจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น
หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ ควรหมั่นตรวจสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และปรับพฤติกรรมการกินเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน
เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถป้องกัน และควบคุมได้หากดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น นอกจากนี้การทำ ประกันสุขภาพเบาหวาน หรือ ประกันสุขภาพสำหรับคนเป็นเบาหวาน ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาในอนาคตได้
ทั้งนี้หากใครกำลังมองหาประกันที่คุ้มครองโรคเบาหวานได้อย่างครอบคลุมเพราะเกรงว่าจะมีความเสี่ยงในอนาคต ก็สามารถทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ได้ มีแผนประกันให้เลือกมากมาย เช่น ประกันเบาหวาน เจอ จ่าย จบ และแผนประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองอื่น ๆ อีกมากมายเลยนั่นเอง
เลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณ