อยากทำประกันโรคตับแข็งต้องซื้อประกันประเภทไหน มีความคุ้มครองอะไรบ้าง ?
โรคตับแข็งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับอย่างรุนแรง และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต การรักษาโรคตับแข็งต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องปลูกถ่ายตับ ดังนั้นการมีประกันโรคตับแข็งจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และประกันโรคตับแข็งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้น แต่ประกันแบบไหนที่คุ้มครองโรคตับแข็งบ้าง มีเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างไร วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบให้ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจทั้งเรื่องราวที่ควรทราบกันไว้เกี่ยวกับโรคตับแข็ง และการทำประกันโรคตับแข็งอย่างครบครัน
ประกันโรคตับแข็ง โรคตับ ประกันคุ้มครองหรือไม่ ?
โดยทั่วไปประกันสุขภาพทั่วไปจะไม่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมโรคตับแข็ง อย่างไรก็ตาม มีประกันบางประเภทที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคตับ เช่น ประกันโรคร้ายแรง ประกันภัยโรคตับแข็ง หรือประกันสุขภาพที่มีแผนเฉพาะสำหรับโรคเกี่ยวกับตับนั่นเอง
ประกันโรคตับแข็ง สำคัญอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าการทำประกันโรคตับแข็ง หรือแผนประกันที่มีการดูแลครอบคลุมโรคตับนั้นสำคัญอย่างไร คำตอบคือการทำประกันภัยโรคตับแข็งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และประกันโรคตับแข็งเพิ่มโอกาสในการได้รับการรักษาที่ดีมากกว่า โดยจะมีข้อดีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ประกันภัยโรคตับแข็งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา เช่น ค่ายา ค่าหมอ ค่าผ่าตัด หรือค่าปลูกถ่ายตับ
- ประกันโรคตับแข็งเพิ่มโอกาสในการรักษาที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง
- ประกันโรคตับแข็งลดความเสี่ยงทางการเงินของครอบครัว ป้องกันไม่ให้ภาระค่าใช้จ่ายตกอยู่กับครอบครัว
อยากทำประกันโรคตับ ประกันโรคตับแข็ง ต้องซื้อประกันประเภทไหน ?
หากต้องการทำประกันโรคตับแข็งซึ่งมีความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคตับ ควรเลือกทำประกันประเภทประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ซึ่งจะคุ้มครองโรคที่เป็นอันตรายร้ายแรง ต้องการการรักษาแบบพิเศษ และต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลสูง เช่น ประกันโรคตับแข็ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ประกันโรคร้ายแรงนั้นจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยในกรณีที่ตรวจพบโรค ดังนั้นรูปแบบของการชดเชยประกันประกันภัยโรคร้ายแรง มักจะมาในรูปแบบเจอ/จ่าย/จบ ซึ่งก็คือหากตรวจพบเจอโรคร้ายก็รับเงินก้อนชดเชยตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หรือประกันบางแผนก็อาจจะชดเชยในรูปแบบของค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่กำหนดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ประกันสุขภาพโรคร้ายแรงบางแผนยังมีการให้เงินชดเชยรายวันอีกด้วย
ทั้งนี้รายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละแผนประกันก็จะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เราได้เลือกซื้อเอาไว้ ดังนั้นจะต้องศึกษารายละเอียดให้แน่นอนก่อนตัดสินใจ เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของเราให้มากที่สุดนั่นเอง
โรคตับแข็ง คืออะไร ?
โรคตับแข็ง (Cirrhosis) คือ ภาวะที่ตับถูกทำลายอย่างถาวร ซึ่งทำให้เนื้อตับแข็ง และมีแผลเกิดขึ้นในตับ การทำงานของตับจึงเสื่อมลง เนื่องจากเนื้อตับถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อแผลที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ โรคนี้สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือซี การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือการมีภาวะไขมันสะสมในตับ (ไขมันพอกตับ)
โรคตับแข็งในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการชัดเจน แต่มักจะเริ่มมีอาการเมื่อโรคดำเนินไปในระยะที่ตับได้รับความเสียหายมากขึ้น เช่น มีอาการเหนื่อยง่าย ตัวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม หรือท้องบวม
การรักษาโรคตับแข็งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ และระยะของโรค ซึ่งอาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การใช้ยาลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และในบางกรณีอาจต้องมีการผ่าตัดหรือการปลูกถ่ายตับร่วมด้วยซึ่งค่ารักษาสูงมากจึงควรมีประกันโรคตับแข็ง หรือทำประกันโรคตับแข็งไว้ด้วยนั่นเอง
ตับแข็ง อาการเป็นอย่างไร ?
เมื่อพูดถึงลักษณะอาการของผู้ที่เป็นโรคตับแข็ง อาการของโรคตับนั้นจะมีตั้งแต่ระยะแรก ไปจนถึงระยะรุนแรง ได้แก่
- มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เนื่องจากตับไม่สามารถกำจัดสารพิษได้เต็มที่
- มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง เนื่องจากระดับบิลิรูบินในเลือดสูงขึ้น
- มีอาการท้องบวม ขาบวม เกิดจากการคั่งของน้ำในร่างกาย
- มีอาการเลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาไหล หรือฟกช้ำง่ายกว่าปกติ
ตับแข็ง เกิดจากอะไร ?
โรคตับแข็งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยสาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้จะมีดังต่อไปนี้
- ดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไป : เนื่องจากแอลกอฮอล์นั้นทำลายเซลล์ตับ
- ไวรัสตับอักเสบบี และซี : ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในตับ
- ไขมันพอกตับ : ซึ่งมักพบบ่อยในผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือเบาหวาน
- พันธุกรรม : บางคนมีพันธุกรรมที่มีภาวะที่ทำให้ตับเกิดพังผืดได้ง่ายกว่าปกติ
ดังนั้นใครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงหรือมีปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโรคตับขึ้นกับตัวเองได้ ก็ควรทำประกันโรคตับแข็ง มีประกันโรคตับแข็ง หรือก็คือประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ไว้นั่นเอง
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคตับแข็ง ?
ทราบเกี่ยวกับสาเหตุของการเป็นโรคดังกล่าวไปแล้ว ลองมาดูกันต่อว่าใครบ้างที่เสี่ยงในการเป็นโรคตับ เพราะหากเรามีความเสี่ยงจะได้ทำประกันโรคตับแข็งไว้อย่างทันท่วงที โดยผู้ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับ และควรทำประกันโรคตับแข็งจะมีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปควรทำประกันโรคตับแข็ง การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก และต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคตับ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ตับเกิดการอักเสบ และค่อย ๆ สร้างแผลในตับจนกลายเป็นตับแข็ง
- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบควรทำประกันโรคตับแข็ง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด B หรือ C สามารถทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในตับ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคตับได้
- ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ (NAFLD) ควรทำประกันโรคตับแข็ง การสะสมของไขมันในตับ (ไขมันพอกตับ) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ มักเกิดในผู้ที่มีโรคอ้วน เบาหวาน หรือภาวะเมตาบอลิก
- ผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรมควรทำประกันโรคตับแข็ง เช่น โรคฮีโมโครมาโตซิส (Hemochromatosis) ซึ่งเป็นโรคที่มีการสะสมเหล็กในตับ หรือ โรค Wilson's disease ที่ทำให้มีการสะสมทองแดงในร่างกาย ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคตับได้
- ผู้ที่มีโรคตับจากการใช้ยาควรทำประกันโรคตับแข็ง ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยาที่ใช้รักษาโรคบางชนิด อาจทำให้เกิดการทำลายตับได้
- ผู้ที่มีภาวะตับอักเสบจากสารพิษ หรือสารเคมีควรทำประกันโรคตับแข็ง การสัมผัสกับสารเคมี หรือสารพิษบางชนิดอาจทำให้ตับเกิดการอักเสบ และนำไปสู่โรคตับแข็ง
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคตับแข็งควรทำประกันโรคตับแข็ง ถ้าครอบครัวมีคนที่เป็นโรคตับแข็ง หรือโรคตับเรื้อรังบางประเภท ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรังอื่น ๆ ควรทำประกันโรคตับแข็ง เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, หรือภาวะโรคทางหลอดเลือดที่ทำให้ตับเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหาย
โรคตับแข็ง รักษาหายไหม ?
สำหรับผู้ที่อยากทราบว่าโรคตับแข็งนั้นจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม คำตอบคือโรคดังกล่าวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมไม่ให้อาการแย่ลง หรือทรุดหนักลงได้หากได้รับการดูแล และรักษาอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ในบางกรณีที่ตับเสียหายมาก อาจต้องปลูกถ่ายตับเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้นั่นเอง
โรคตับแข็ง มีกี่ระยะ ?
ในส่วนของผู้ที่ต้องการทราบว่าโรคตับแข็งนั้นมีกี่ระยะ โรงพยาบาลนครธนได้ให้ข้อมูลระยะของโรคตับแข็งไว้ว่าจะสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะด้วยกัน ดังนี้
- ระยะที่ 1 ตับเริ่มมีพังผืดแต่ยังทำงานได้ปกติ
- ระยะที่ 2 พังผืดเพิ่มขึ้น ตับเริ่มมีประสิทธิภาพลดลง
- ระยะที่ 3 ตับสูญเสียการทำงานบางส่วน เกิดภาวะตับวายเรื้อรัง
- ระยะที่ 4 ตับวายขั้นรุนแรง ต้องได้รับการปลูกถ่ายตับ
ควรทำประกันโรคตับแข็ง ประกันโรคร้ายแรง คุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประกันโรคร้ายแรงแต่ละแผนนั้นจะมีรายละเอียดความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ผู้ทำประกันภัยจึงควรศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อที่จะได้ทราบว่าแผนประกันที่สนใจนั้นคุ้มครองโรคใดบ้าง เช่น หากต้องการควรทำประกันโรคตับแข็งก็ต้องดูว่าแผนดังกล่าวครอบคลุมโรคที่ต้องการหรือไม่
ทั้งนี้โดยทั่วไปประกันโรคร้ายแรงจะครอบคลุมโรคร้ายแรงที่ต้องการการรักษาพิเศษ หรือโรคที่มีค่ารักษาสูง ดังนั้นรูปแบบการชดเชยจากประกันโรคร้ายแรงมักจะเป็นแบบ เจอ จ่าย จบ ซึ่งหมายความว่าเมื่อพบโรคร้ายจะได้รับเงินชดเชยตามจำนวนที่ระบุในกรมธรรม์ หรือบางแผนประกันอาจจะชดเชยเป็นค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีบางแผนที่ให้เงินชดเชยรายวันเพิ่มเติมอีกด้วยนั่นเอง
กรณีไหนบ้างที่ประกันโรคร้ายแรงไม่คุ้มครอง ?
- มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพถูกบอกยกเลิกสัญญา
- เป็นโรคร้ายแรงที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์
โรคตับแข็งเป็นภาวะที่อันตราย และต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา การทำประกันโรคตับแข็ง สามารถช่วยลดภาระทางการเงิน และควรทำประกันโรคตับแข็งเพิ่มโอกาสในการได้รับการรักษาที่เหมาะสม ดังนั้นหากต้องการเลือกซื้อประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมโรคดังกล่าว ควรเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง กับ แรบบิท แคร์ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคตับ เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดโรคขึ้นจะได้รับการรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนั่นเอง
เลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณ