Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

🎵 9.9 Rabbit แจกฟรี!! หูฟัง Apple Airpods Gen 3 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 12,790 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳

คาลิปเปอร์เบรคคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร?

คาลิปเปอร์เบรคในรถยนต์นั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีความสามารถในการระบายความร้อนได้ดี มีน้ำหนักเบา ใช้งานได้ยาวนาน ทนทาน และทนต่ออุณหภูมิสูง ดังนั้นถ้าหากว่าผู้ขับขี่มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควร โดยที่ไม่ต้องซื้อฝาครอบเบรกมาตกแต่ง เพราะในบางครั้งตัวฝาครอบเบรกนั้นมักจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้จากการติดตั้งที่ไม่ดีและจากชิ้นส่วนของรถยนต์ที่เสียหายนั่นเอง

คาลิปเปอร์เบรค คืออะไร?

“คาลิปเปอร์เบรค (Caliper Brake)” หรือก้ามปูเบรก ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของระบบเบรกในรถยนต์และมีความทนทานที่สูงมาก โดยจะเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของระบบดิสก์เบรกซึ่งเป็นที่ตั้งของผ้าเบรกนั่นเอง มักจะทำมาจากเหล็กหล่อ มีรูปร่างคล้ายตัว C ติดตั้งอยู่บริเวณจานเบรก

คาลิปเปอร์เบรค หน้าที่มีอะไรบ้าง?

คาลิปเปอร์เบรคจะทำงานโดยการใช้แรงดันที่มาจากน้ำมันเบรก ส่งผลทำให้เหล็กมีการบีบจานเบรกและ ทำให้รถยนต์หยุดหรือลดความเร็วนั่นเอง ซึ่งจะมีทั้งระบบแบบทั่วไป และระบบแบบ brembo (Brembo Brake Caliper) ที่จะใช้ในยานยนต์ที่ต้องการระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นจึงจะคอยทำหน้าที่เป็นตัวยึดชุดเบรกระหว่างตัวรถกับดิสก์เบรกที่อยู่บริเวณเพลาล้อ และยังช่วยติดตั้งทำให้ผ้าเบรกนั้นอยู่ทรงอีกด้วย เมื่อผู้ขับขี่มีการเหยียบเบรกในขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนตัว ก็จะส่งผลทำให้รถยนต์นั้นเคลื่อนที่ช้าลงนั่นเอง

ประโยชน์ของคาลิปเปอร์เบรค

  1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้
  2. ช่วยดูดละอองฝุ่นที่จานเบรก จึงช่วยให้ระบบเบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  3. มีความทนทานและทนต่อสภาวะอากาศสูง จึงช่วยรองรับการใช้งานได้ในสภาวะการขับขี่ที่หลากหลาย
  4. มีระบบการควบคุมที่แม่นยำ จึงช่วยทำให้คุณขับรถได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แม้จะมีการเปลี่ยนความเร็วแบบกะทันหันก็ตาม

วิธีสังเกตอาการคาลิปเปอร์เบรคที่ผิดปกติ?

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของ cockpit.co.th เรื่องอาการของคาลิปเปอร์เบรคมีปัญหา ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้

  • การเบรกจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง และระยะเบรกจะมีมากขึ้น เนื่องจากอาจจะมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่จำนวนมาก จึงส่งผลทำให้แถบเลื่อนคาลิปเปอร์เบรคนั้นเกิดการทำงานที่ติดขัด
  • จะสังเกตเห็นรอยรั่วเกิดขึ้น เนื่องจากคาลิปเปอร์เบรคมีการโดนความร้อนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจากการเบรกรถยนต์ จึงทำให้ซีลยางของคาลิปเปอร์เบรคเกิดการเสื่อมสภาพที่ไวขึ้น และทำให้น้ำมันเบรกนั้นรั่วลงมาได้บริเวณใต้ท้องรถหรือบริเวณใกล้ล้อรถยนต์นั่นเอง
  • รถยนต์มีอาการดึงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง เนื่องจากคาลิปเปอร์เบรคเริ่มเสื่อมสภาพจากการสัมผัสความร้อนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ลูกสูบของคาลิปเปอร์เบรคเกิดแรงต้านบนล้อรถยนต์และดึงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
  • เบรกรถยนต์เกิดการทำงานขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เหยียบเบรก เนื่องจากคาลิปเปอร์เบรคเกิดการสะสมสิ่งสกปรกอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้ไม่สามารถดึงผ้าเบรกออกจากโรเตอร์ได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ผู้ขับขี่นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าเบรกกำลังมีการทำงานอยู่ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการเหยียบเบรกอยู่ก็ตาม

คาลิปเปอร์เบรคมีกี่ประเภท?

คาลิปเปอร์เบรคสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • คาลิปเปอร์เบรคแบบเคลื่อนที่ (Floating Brake Caliper)
    คาลิปเปอร์เบรคประเภทนี้จะพบได้มากในรถยนต์ทั่วไป โดยจะมีลูกสูบ 1 ตัว 2 ตัว หรือ 3 ตัว และจะคอยทำหน้าที่ในการดันผ้าเบรกแผ่นหนึ่งกับผ้าเบรกอีกแผ่นหนึ่งที่ติดอยู่กับตัวก้ามปูฝั่งตรงข้ามลูกสูบ ซึ่งตัวก้ามปูนี้จะสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ และเมื่อเกิดการเหยียบเบรก น้ำมันเบรกจะดันลูกสูบออกไปจนทำให้ผ้าเบรกที่ติดอยู่กับลูกสูบนั้นประกบเข้ากับจานเบรก และในขณะเดียวกันก็จะทำให้ตัวก้ามปูนั้นเคลื่อนที่สวนทางกับลูกสูบ จึงทำให้ผ้าเบรกที่ติดอยู่กับก้ามปูนั้นประกบเข้ากับจานเบรกอีกด้านพร้อมกับผ้าเบรกแผ่นแรกด้วย
  • คาลิปเปอร์เบรคแบบตายตัว (Fixed Brake Caliper)
    ส่วนคาลิปเปอร์เบรคประเภทนี้จะไม่มีส่วนใดที่สามารถเคลื่อนที่ได้เลย นอกจากตัวผ้าเบรกและลูกสูบ ซึ่งคาลิปเปอร์เบรคประเภทนี้จะมีลูกสูบตั้งแต่ 2ตัว 4 ตัว 6 ตัว หรือ 8 ตัว และจะมีผ้าเบรกอยู่ 2 แผ่นที่ติดกันอยู่ภายในคาลิปเปอร์เบรคที่ประกบติดกับจานเบรก โดยที่การทำงานของคาลิปเปอร์เบรคประเภทนี้จะเป็นการบีบตัวเข้าหากันระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก ซึ่งตัวคาลิปเปอร์เบรคจะทำหน้าที่เป็นตัวยึดลูกสูบเท่านั้น อีกทั้งคาลิปเปอร์เบรคประเภทนี้จะมีท่อน้ำมันเบรกอยู่ภายในตัว หรือว่าอาจจะมีท่อเชื่อมระหว่างลูกสูบ โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดของรถยนต์ด้วยเป็นหลัก

ฝาครอบเบรคคืออะไร และจะเป็นอันตรายไหม?

ฝาครอบเบรกหรือฝาครอบคาลิปเปอร์เบรค เป็นของตกแต่งรถยนต์ชนิดหนึ่งที่นำมาใช้ครอบคาลิปเปอร์เบรคเพื่อความสวยงามเป็นหลัก อาจจะทำมาจากพลาสติก สเตนเลส อะลูมิเนียม หรือเซรามิกก็ได้ ส่วนคุณภาพและราคาของฝาครอบเบรกก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุนั่นเอง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อฝาครอบเบรคก็ควรที่จะมีการพิจารณาก่อนว่าคุ้มค่าไหม เพราะส่วนมากตัวฝาครอบเบรกมักจะถูกนำมาใช้เป็นเพียงแค่ของตกแต่งรถยนต์เท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะมาจากการติดตั้งที่ไม่รอบคอบของช่าง วัสดุของฝาครอบเบรกที่ทำมาจากพลาสติกหรือเหล็กเกรดต่ำ จึงส่งผลทำให้ล้อรถยนต์และระบบเบรกเกิดความเสียหายขึ้นมาได้จากการสึกกร่อนหรือละลายจากความร้อนสะสมนั่นเอง ประกอบกับวัสดุที่ใช้ในการยึดด้วย เช่น นอต กาวซิลิโคน เป็นต้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาของฝาครอบเบรก นั่นก็คือในเรื่องของประสิทธิภาพการระบายความร้อนในระหว่างเบรกที่ลดน้อยลง จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดเบรกเฟด (Brake Fade) หรืออาการเบรกรถไม่อยู่ และก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างที่ขับขี่ขึ้นมาได้ด้วย

ข้อดีและข้อเสียของฝาครอบเบรค?

 

ข้อดี

ข้อเสีย

ติดตั้งง่ายหากติดตั้งไม่ดี อาจเกิดความเสียหายขึ้นมาได้
ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายควรเลือกติดตั้งฝาครอบเบรกที่มีมาตรฐาน
สวยงาม มีหลากหลายรูปแบบระบบเบรกมีการระบายความร้อนที่ลดลง
ช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้ติดล้อด้านในอาจทำให้กาวร้อนที่ติดตั้งมีประสิทธิภาพลดลง

หากคาลิปเปอร์เบรครถยนต์เกิดความเสียหายขึ้นมา ทางบริษัทประกันภัยจะรับเคลมหรือไม่?

บริษัทประกันภัยจะสามารถรับเคลมให้ได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่คาลิปเปอร์เบรคนั้นเกิดความเสียหายขึ้นมาจากภัยธรรมชาติหรือจากอุบัติเหตุ แต่ถ้าหากว่าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นมาจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนที่จะต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว แบบนี้ก็จะไม่สามารถเคลมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าท่านใดที่มีความต้องการจะทำประกันอะไหล่รถยนต์ไว้โดยเฉพาะ ก็สามารถที่จะเลือกทำควบคู่ไปกับการทำประกันภัยรถยนต์แบบนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะรับความคุ้มครองในชิ้นส่วนของอะไหล่รถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเกิดว่ารถยนต์นั้นเกิดความเสียหายอะไรขึ้นมาก็จะได้อุ่นใจและหมดกังวลเพราะในส่วนนี้สามารถที่จะแจ้งเคลมได้เลย

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

ควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนดี เพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติม?

จากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราในอนาคตนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะฉะนั้นการตัดสินใจเลือกทำเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั้นก็จะถือว่าเป็นการซื้อความคุ้มครองที่จะทำให้ผู้ขับขี่สบายใจมากที่สุด เพราะว่านอกจากจะได้รับความคุ้มครองแบบสูงสุดทั้งในแบบที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม รวมไปถึงในกรณีที่รถยนต์สูญหาย รถยนต์ไฟไหม้ รถยนต์น้ำท่วม ก็ล้วนแล้วแต่จะได้รับความคุ้มครองในทุกกรณี ดังนั้นจึงเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสบายใจให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี

ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

นอกจากคุณจะได้รับแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของคุณแล้ว ในเรื่องของราคาก็คุ้มค่ามากเช่นเดียวกัน เพราะแรบบิท แคร์ เรามีข้อเสนอจากบริษัทชั้นนำที่จะให้คุณได้เลือกสรรแบบหลากหลาย อีกทั้งยังมีสิทธิประโยชน์เฉพาะที่แรบบิท แคร์ มาให้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความอุ่นใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมกับรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่เว็บไซต์ แรบบิท แคร์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา