มารู้จักโมเดลธุรกิจสุดปังที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันอย่าง BNPL หรือ Buy Now, Pay Later
ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลส่วนลดอย่าง 1.1 หรือ 2.2 ไปจนถึงโปรโมชันส่วนลดกลางเดือน กลางปี Midnight Sale รวมถึงส่วนลดตามเทศกาลต่าง ๆ ต่างก็เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อล่อตาล่อใจให้ผู้ซื้อจับจ่ายใช้สอยกันอยู่เรื่อย ๆ ตลอดปี แต่ถ้าคุณช็อปจนเงินหมดบัญชีแล้ว แต่ยังอยากได้เสื้อคอลเลคชันใหม่ที่กำลังจะลดราคาในอีก 3 วัน จะต้องทำอย่างไร ซื้อมาก่อนแล้วจ่ายทีหลังจะทำได้ไหม จึงเป็นที่มาของโมเดลธุรกิจอย่าง BNPL หรือ Buy Now, Pay Later แปลเป็นไทยได้ว่า “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” นั่นเอง
BNPL (Buy Now, Pay Later) คืออะไร?
BNPL (Buy Now, Pay Later) คือการที่เราดำเนินการทางธุรกรรมเพื่อให้ได้ครอบครองสินค้าที่เราต้องการโดยที่เรายังไม่ได้ทำการชำระเงินในขณะนั้น แต่ไปดำเนินการชำระเงินภายหลังเมื่อเงินเดือนออกหรือเมื่อพร้อมชำระเงินแล้ว หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง BNPL (Buy Now, Pay Later)” โดยมีลักษณะเป็นบริการที่จุดขายเพื่ออนุญาตให้ผู้ซื้อสามารถรับสินค้าและบริการได้ก่อนการชำระเงิน โดยทางลูกค้าจะต้องชำระสินค้าในภายหลัง ไม่ว่าจะด้วยการชำระเต็มจำนวนหรือผ่อนชำระก็ตาม
หลักการทำงานของ BNPL คืออะไร
ปัจจุบันในประเทศไทยก็มีผู้ให้บริการประเภทนี้อยู่บ้าง เช่น Shopee SPayLater และ LazPayLater เป็นต้น โดยเงื่อนไขของแต่ละผู้ให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของบริษัท แต่หลักการของ BNPL (Buy Now, Pay Later) คือตัวลูกค้าเองจะสามารถทำการกดสั่งซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้ แล้วจึงเลือกชำระเงินด้วยบริการ BNPL เมื่อถึงขั้นตอนการชำระเงิน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะชำระเงินเต็มจำนวนหรือจะชำระเงินคืนเป็นงวด ๆ หลังจากนั้นผู้ซื้อก็จะได้รับสินค้าและบริการจากทางผู้ให้บริการ แล้วค่อยชำระเงินกับทางผู้ให้บริการในภายหลังตามที่ตกลง โดยช่องทางการชำระเงินคืนก็จะมีให้เลือกหลากหลายทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต โมบายแบงค์กิ้ง ตู้เอทีเอ็ม ทรูมันนี่ วอลเล็ท และอื่น ๆ อีกมากมาย
ข้อดีและข้อเสียของ BNPL (Buy Now, Pay Later)
เนื่องจากโมเดลธุรกิจชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อเอาใจขาช็อปโดยแท้ โดยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิตให้สามารถชำระค่าสินค้าและบริการในภายหลังหรือแบ่งชำระค่าสินค้าและบริการได้ อย่างไรก็ตาม บริการ BNPL (Buy Now, Pay Later) ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ โดยเราจะมาแจกแจงข้อดีข้อเสียของบริการ ดังนี้
ข้อดีของ BNPL (Buy Now, Pay Later)
- ใช้งานสะดวก สามารถทำเรื่องขอสินเชื่อผ่านแอปได้ทันที
- ไม่มีขั้นต่ำ ไม่ว่าสินค้าจะมีราคาเท่าไหร่ก็ผ่อนได้
- เหมาะกับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต แต่ต้องการผ่อนชำระค่าสินค้าเป็นงวด
- ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ข้อเสียของ BNPL (Buy Now, Pay Later)
- วงเงินที่ได้ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ
- มีดอกเบี้ยที่อาจทำให้เป็นหนี้ก้อนโตได้หากไม่ระวัดระวัง
- มีค่าอากรณ์แสตมป์ 0.05% ของวงเงิน
ในขณะนี้บริการ BNPL หลายที่ยังจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง BNPL (Buy Now, Pay Later) และบัตรเครดิต
ถ้าเรามองไว ๆ การซื้อก่อน จ่ายทีหลัง หรือ BNPL (Buy Now, Pay Later) ก็เหมือนกับบัตรเครดิตนั่นเอง โดยเราสามารถใช้ทั้ง BNPL และบัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการก่อนได้ แล้วจึงค่อยชำระเงินคืนในภายหลัง โดยสำหรับบัตรเครดิตจะสามารถเลือกจ่ายขั้นต่ำได้ ส่วนบริการ BNPL จะให้เลือกชำระเงินคืนเป็นงวดแทน ซึ่งทั้งสองบริการจะมาพร้อมกับดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ในกรณีที่ชำระเงินไม่ตรงตามกำหนดเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม บริการ BNPL และบัตรเครดิตก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของค่าธรรมเนียมรายปีและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยบริการ BNPL จะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมแรกเข้า ส่วนบัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีเป็นส่วนใหญ่ (แต่ก็มีบัตรเครดิตบางใบที่ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีเช่นกัน)
นอกจากนี้ บัตรเครดิตยังมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่บริการ BNPL ไม่มี เช่น การสะสมแต้ม การแลกไมล์ และเครดิตเงินคืน ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้การใช้จ่ายคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น แรบบิท แคร์ขอแนะนำบัตรเครดิตสิทธิประโยชน์สุดคุ้มสำหรับทุกไลฟสไตล์ ดังนี้
บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ