ประกันระบุคนขับคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?

“ประกันระบุคนขับ” เป็นการทำประกันภัยรถยนต์ที่จะระบุตัวตนของผู้ขับขี่ลงไปด้วย ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถคนเดียวหรือว่าใช้ภายในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากแล้วทางบริษัทประกันภัยนั้นจะให้ทางผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อได้สูงสุด 2 คน อีกทั้งการทำประกันระบุคนขับจะยังช่วยให้ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันได้อีกด้วย

จากข้อมูลในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ได้กล่าวถึงความของ “ผู้ขับขี่” ไว้ว่า “ผู้ขับขี่เป็นผู้ขับรถ ผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง หรือผู้ลากเข็นยานพาหนะ”

ประกันภัยรถยนต์ประเภทไม่ระบุชื่อคนขับนี้ เป็นประกันภัยที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั้งความรับผิดชอบและความเสียหายต่อรถยนต์ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้หรือว่าการขับขี่ของบุคคลใดก็ตาม โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากทางผู้เอาประกันภัยด้วย และจะต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข รวมไปถึงข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในแผนกรมธรรม์ประกันภัย

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของ Silkspan ได้กล่าวถึงความสำคัญของประกันแบบระบุคนขับไว้ว่า สำหรับการทำประกันระบุคนขับนั้น ถือว่ามีความสำคัญในเรื่องของผลประโยชน์ที่จะได้รับของผู้เอาประกันภัย โดยปกติแล้วจะได้รับเป็นอัตราส่วนลดเบี้ยประกัน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์อายุ ดังต่อไปนี้

• ช่วงอายุ 18-24 ปี ถือเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากว่าอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่มากนัก ดังนั้นจึงจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพียง 5% เท่านั้น
• ช่วงอายุ 25-35 ปี จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 10%
• ช่วงอายุ 36-50 ปี จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 15%
• ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ถือเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เนื่องจากว่ามีประสบการณ์ในการขับขี่พอสมควร ดังนั้นจึงจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงถึง 20% เลยทีเดียว

ส่วนมากแล้วทางบริษัทประกันนั้นจะให้ผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อลงในกรมธรรม์ได้สูงสุด 2 คน ดังนั้นจึงสามารถเลือกได้ว่าจะระบุ 1 คนหรือ 2 คนนั่นเอง

หากเป็นประกันแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ เมื่อเกิดความรับผิดชอบหรือความเสียหายใด ๆ ขึ้นมา และบุคคลที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยนั้นเป็นผู้ขับขี่ ทางผู้เอาประกันภัยก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามาร่วมรับผิดในความเสียหายส่วนแรกแต่อย่างใด แต่สำหรับในประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ ถึงแม้ว่าความรับผิดชอบหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมาจากบุคคลที่ไม่ได้ระบุชื่อในกรมธรรม์ และได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับขี่ก็ตาม ทางผู้เอาประกันภัยก็จะต้องเข้ามารับผิดในความเสียหายส่วนแรกด้วยนั่นเอง

สำหรับการทำประกันระบุคนขับ 2 คน โดยปกติแล้วอัตราส่วนลดที่จะได้รับนั้นจะคิดจากอายุของผู้ขับขี่ที่น้อยที่สุดเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น พ่ออายุ 55 ปี และลูกอายุ 23 ปี จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันเพียง 10% เท่านั้น ไม่ใช่ 20% แต่อย่างใด

ประกันแบบระบุผู้ขับขี่ ดีไหม? คงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย แต่ก็จะแนะนำว่าประกันภัยในแต่ละแบบนั้นก็จะแตกต่างกันไป มีทั้งข้อดีและข้อสังเกตที่ควรศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะทำประกัน ดังนั้นประกันภัยในแต่ละแบบจึงจะตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง

ประกันชั้น 1 คุ้มครองคนขับได้ไหม?

ในกรณีที่ทำประกันภัยชั้น 1 แบบระบุผู้ขับเอาไว้ แต่ในตอนที่เกิดอุบัติเหตุกลับไม่ใช่ตัวผู้ขับที่ระบุเอาไว้ในแผนกรมธรรม์ และยังเป็นฝ่ายที่ผิดตามกฎหมายอีกด้วย สำหรับในกรณีแบบนี้จะถือว่ายังสามารถเคลมประกันภัยชั้น 1 ไว้ได้ตามปกติ เพียงแต่จะต้องเสียค่ารับผิดส่วนแรกสูงสุด 8,000 บาทด้วย กล่าวคือ 2,000 บาทแรก เป็นเงินสำหรับความเสียหายของทรัพย์สินบุคคลภายนอก เช่น ค่าซ่อมรถของคู่กรณี ค่าเสาไฟ หรือค่าต้นไม้ที่ถูกชนหักเสียหาย เป็นต้น ส่วนอีก 6,000 บาท เป็นเงินสำหรับความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกันภัย สำหรับในกรณีที่ต้องเอารถยนต์คันที่เอาประกันภัยเข้าซ่อมนั่นเอง ดังนั้นค่ารับผิดส่วนแรกที่จะต้องเสียไป อาจมากกว่าส่วนลดที่จะได้รับจากการทำประกันระบุคนขับ เพราะฉะนั้นหากรถยนต์มีการใช้งานมากกว่า 1 คน ก็ไม่ควรที่จะเลือกทำประกันแบบระบุคนขับนั่นเอง

ประกันระบุคนขับ รถอะไรทำไม่ได้บ้าง?

หากเป็นรถสาธารณะ รถยนต์เชิงพาณิชย์ หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ประกันแบบระบุคนขับนั้นจะไม่สามารถทำได้

ก่อนซื้อประกันรถยนต์ ต้องเช็กรายละเอียดความคุ้มครองอะไรบ้าง?

• ความคุ้มครองรถของเรา เช่น ทุนประกันที่คุ้มครอง รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม เป็นต้น
• ความคุ้มครองรถของคนอื่น เช่น ทางทรัพย์สิน ทางร่างกาย เป็นต้น
• ความคุ้มครองบุคคลภายในรถเรา เช่น ในกรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือประกันตัวผู้ขับขี่ เป็นต้น
  
  

ไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ สามารถทำประกันรถยนต์แทนได้ไหม?

สามารถทำแทนกันได้ โดยไม่ต้องใช้เอกสารมอบอำนาจแต่อย่างใด เนื่องจากตอนกรอกข้อมูลทำประกันรถยนต์ ชื่อผู้เอาประกันภัยจะถูกระบุอยู่ในเอกสารกรมธรรม์ และจะเป็นคนละชื่อกับเจ้าของรถยนต์เท่านั้นเอง

ควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนดี เพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติม?

การมีประกันภัยรถยนต์ไว้จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่นั้นเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น เพราะเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในอนาคตนั้นจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเราบ้าง แต่อย่างน้อยถ้าหากว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เราก็จะได้รับความคุ้มครองค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นได้จากประกันภัยรถยนต์ที่เราได้ทำเอาไว้ ซึ่งก็จะแนะนำให้เลือกทำเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะไม่เพียงแต่จะได้รับความคุ้มครองอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าเรายังจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย และจะยังได้รับความคุ้มครองสำหรับการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ค่าซ่อมสีรถ ในกรณีที่รถนั้นเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ที่ไม่ได้มาจากการเฉี่ยวชนของคู่กรณีอีกด้วย และถ้าหากว่าเราจะดูเฉพาะแค่เรื่องความคุ้มครองของยางรถยนต์ จะเห็นได้ว่าประกันชั้น 2+ และ 3+ นั้นจะสามารถเคลมได้เฉพาะในกรณีที่เกิดความเสียหายจากรถชนรถเท่านั้น ส่วนประกันภัยชั้น 2 และ 3 จะไม่สามารถเคลมได้นั่นเอง

ซื้อประกันรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

ในกรณีที่รถยนต์ของลูกค้าได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้ไม่มีรถยนต์ที่จะสามารถเอาไว้ใช้งานต่อไปได้ ทางแรบบิท แคร์ จึงมีบริการรถยนต์ทดแทนให้ใช้ฟรีเป็นระยะเวลา 3 วัน โดยจะเป็นรถยนต์คุณภาพดีจากบริษัทให้เช่ารถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี เพราะแรบบิท แคร์ เห็นถึงความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นอันดับต้น ๆ เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าลูกค้าจะได้ใช้งานรถยนต์ที่มีคุณภาพดี สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ แรบบิท แคร์