สัญลักษณ์จราจร ประเภทเครื่องหมายจราจรที่ผู้ใช้รถ ใช้ถนนควรรู้ก่อนขับขี่
สัญลักษณ์จราจรหมายถึงสัญลักษณ์หรือสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแสดงสื่อสารหรือสัญญาณให้ผู้ใช้ถนนหรือผู้ใช้ระบบขนส่งทางบกทราบถึงข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจราจร สัญลักษณ์จราจรมักถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยในการเตือนผู้ขับขี่หรือคนเดินเท้าให้ระวังและปฏิบัติตามกฎระเบียบการจราจรที่เหมาะสมเมื่อเข้าใช้ถนนหรือถนนสายหลัก นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์จราจรทางเข้าเมือง สัญลักษณ์ลดความเร็ว สัญลักษณ์สัญจร และอื่น ๆ ซึ่งถูกวางไว้ตามทางเข้า-ทางออกและทางแยกต่าง ๆ ในท้องถนน
ซึ่งสัญลักษณ์จราจรต่าง ๆ ที่เราควรทำความรู้จัก แรบบิท แคร์ ได้ลองรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจมานำเสนอกันทั้งหมดจากหัวข้อด้านล่างดังต่อไปนี้
รู้จักป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญ
ป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ ป้ายบังคับ, ป้ายให้ทาง, ป้ายห้าม, สัญลักษณ์ ห้ามจอด และเครื่องหมายห้ามเข้า ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับสัญลักษณ์จราจร หรือเครื่องหมายจราจรที่กล่าวมา สามารถติดตามอ่านได้จากหัวข้อดังต่อไปนี้
สัญลักษณ์จราจร ป้ายบังคับ
ป้ายบังคับเป็นป้ายสัญลักษณ์จราจรที่ใช้ในการบังคับหรือกำหนดให้ผู้ขับขี่หรือผู้ใช้ถนนปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือระเบียบการจราจรที่กำหนดไว้ เพื่อให้การจราจรเป็นระเบียบ ป้ายบังคับสามารถเตือนผู้ขับขี่ให้ปฏิบัติตามกฎหรือข้อบังคับในบริเวณที่สัญลักษณ์จราจรติดตั้งไว้ เมื่อผู้ขับขี่เห็นป้ายบังคับจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่ป้ายกำหนด ป้ายบังคับมักใช้สัญลักษณ์จราจรต่างๆ เช่น รูปสัญลักษณ์วงกลมสีแดงที่มีสัญลักษณ์ด้านในแสดงการบังคับห้ามทำบางสิ่งหรือการดำเนินการ เช่น ป้ายบังคับห้ามเข้า-ออก ป้ายบังคับห้ามจอด ป้ายบังคับห้ามกลับรถ เป็นต้น ป้ายบังคับส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์จราจรภาพและข้อความเพื่อให้เข้าใจง่ายและชัดเจน
สัญลักษณ์จราจร ป้ายให้ทาง
ป้ายให้ทาง เป็นเครื่องหมายจราจรที่บอกว่า รถทุกชนิดต้องทำการระมัดระวัง เพื่อให้ทางแก่รถและคนเดินเท้าบนถนนที่ขวางอยู่ด้านหน้าผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าถนนด้านหน้าโล่ง ปลอดภัย ไม่เป็นการกีดขวางจราจรบริเวณนั้นแล้ว ให้เราสามารถเดินรถต่อไปได้ตามปกติ ดังนั้นเมื่อเห็นสัญลักษณ์จราจรนี้ อย่าลืมระมัดระวังให้มากขึ้นทันที
สัญลักษณ์จราจร ป้ายห้าม
ป้ายห้ามเป็นป้ายสัญลักษณ์จราจรที่ใช้ในการแสดงถึงข้อบังคับหรือข้อกำหนดที่ห้ามให้ทำบางสิ่งหรือการดำเนินการบนถนนหรือในบริเวณที่ป้ายถูกติดตั้ง เป้าหมายของป้ายห้ามคือเพื่อรักษาความปลอดภัยและส่งเสริมการจราจรเป็นระเบียบ ป้ายห้ามมักประกอบด้วยสัญลักษณ์ภาพและข้อความที่บอกถึงการห้ามบางสิ่ง เช่น ป้ายห้ามเข้า-ออก ป้ายห้ามจอด ป้ายห้ามกลับรถ เป็นต้น ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่ป้ายห้ามกำหนด เมื่อเห็นป้ายห้ามควรทำตามคำแนะนำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในสถานการณ์นั้นๆ
สัญลักษณ์ ห้ามจอด
สัญลักษณ์ ห้ามจอดเป็นป้ายสัญลักษณ์จราจรที่แสดงถึงการห้ามจอดรถหรือหยุดรถในสถานที่ที่ป้ายถูกติดตั้ง เป้าหมายของสัญลักษณ์จราจรนี้คือเพื่อรักษาการจราจรเป็นระเบียบ ป้ายสัญลักษณ์ห้ามจอดมักประกอบด้วยสัญลักษณ์ภาพที่แสดงถึงการห้ามจอดรถ โดยมักจะมีรูปร่างรถหรือสัญลักษณ์จราจรที่แสดงถึงการห้ามจอดเพิ่มเติม เช่น ป้ายสัญลักษณ์รูปรถที่มีเส้นทับกันที่ตัวรถ เพื่อแสดงถึงการห้ามจอดรถ ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์ห้ามจอดโดยไม่หยุดหรือจอดรถในสถานที่ที่ถูกห้ามและควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้ใช้ถนนอื่นๆ ในบริเวณนั้น
สัญลักษณ์จราจร เครื่องหมายห้ามเข้า
เครื่องหมายห้ามเข้าเป็นสัญลักษณ์จราจรที่แสดงถึงการห้ามเข้าเขตหรือสถานที่ใดๆ ซึ่งอาจเป็นเขตส่วนบุคคล พื้นที่ที่ระบุว่าไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงหรือเข้าร่วมกิจกรรมในบริเวณนั้น เครื่องหมายห้ามเข้ามักประกอบด้วยสัญลักษณ์จราจรภาพที่แสดงถึงการห้ามเข้า อาจเป็นรูปสัญลักษณ์คนหรือรูปสัญลักษณ์คนที่มีเส้นทับกันหรืออื่นๆ เพื่อแสดงถึงการไม่อนุญาตให้เข้าหรือเข้าร่วมกิจกรรมในบริเวณนั้น ผู้ใช้ถนนจะต้องปฏิบัติตามสัญลักษณ์จราจรห้ามเข้าโดยไม่เข้าเขตหรือบริเวณที่ถูกห้ามและควรคำนึงถึงข้อบังคับหรือกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรนี้อยู่
ทั้ง 5 ประเภทเป็นสัญลักษณ์จราจรที่เราอาจเจอได้บ่อยบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมือง หรือถนนระหว่างการเดินทางก็ตาม แต่เมื่อสังเกตเห็นเครื่องหมายจราจรเหล่านี้ อย่าลืมปฏิบัติตามสัญลักษณ์จราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกคน
ติวเข้มผู้ใช้รถใช้ถนนกับเครื่องหมายจราจร สอบใบขับขี่
เครื่องหมายจราจรและสัญลักษณ์จราจรที่เกี่ยวข้องกับการสอบใบขับขี่ในประเทศไทยที่ควรจดจำเป็นพิเศษ มีสัญลักษณ์จราจรหรือป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ควรจำดังนี้
- ป้ายจำกัดความเร็ว: เครื่องหมายจราจรที่แสดงถึงความเร็วสูงสุดที่ได้รับอนุญาตให้ขับรถในเขตนั้น ป้ายจำกัดความเร็วมักมีสัญลักษณ์ขีดตรงๆ และเลขที่แสดงความเร็วสูงสุดที่อนุญาต
- ป้ายหยุด: เครื่องหมายจราจรที่บอกให้ขับรถหยุดตรงนั้น ป้ายหยุดมักมีสัญลักษณ์ของสี่เหลี่ยมและข้อความ "หยุด"
- ป้ายห้ามกลับรถ: เครื่องหมายจราจรที่บอกให้ขับรถไม่กลับทางเดิมหรือทำการกลับรถในบริเวณนั้น ป้ายห้ามกลับรถมักมีสัญลักษณ์ของสามเหลี่ยมและข้อความ "ห้ามกลับรถ"
- ป้ายห้ามจอด: เครื่องหมายจราจรที่แสดงถึงการห้ามจอดรถในสถานที่ที่ป้ายถูกติดตั้ง ป้ายห้ามจอดมักมีสัญลักษณ์ของรถหยุดและข้อความ "ห้ามจอด"
- ป้ายทางเข้าแยก: สัญลักษณ์จราจรที่บอกให้ทราบถึงทางเข้าแยกทางหรือทางออกจากถนนหลัก ป้ายทางเข้าแยกมักมีสัญลักษณ์ของแถบถนนที่แยกออกและข้อความที่ระบุทิศทางแต่ละเส้นทาง
- ป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ: สัญลักษณ์จราจรที่แสดงถึงข้อความหรือข้อกำหนดเพิ่มเติม เช่น ป้ายเข้าเมือง ป้ายออกเมือง ป้ายสนามบิน ป้ายท่าเรือ เป็นต้น
- ป้ายบอกทิศทาง: ป้ายที่บอกทิศทางหรือเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ป้ายบอกทิศทางไปที่อำเภอหรือตำบลต่าง ๆ
- ป้ายเตือนอันตราย: ป้ายที่เตือนให้ผู้ขับขี่ระวังสภาพอันตรายบนท้องถนน เช่น ป้ายเตือนการโคจรหรือเข้าทางแยกที่อันตราย
- ป้ายเส้นทางสาธารณะ: ป้ายที่บอกเส้นทางสาธารณะหรือเส้นทางรถประจำทาง เช่น ป้ายเส้นทางรถไฟ ป้ายรถประจำทาง
- ป้ายบอกระยะทาง: ป้ายที่บอกระยะทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ป้ายบอกระยะทางไปยังท่าเรือ หรือทางออกของทางพิเศษ
- ป้ายบอกทางเลี้ยว: ป้ายที่บอกให้รู้ถึงทางเลี้ยวหรือทางออกที่จะเข้าไป เช่น ป้ายบอกเลี้ยวขวา หรือบอกเลี้ยวซ้าย
- ป้ายบอกความเร็ว: ป้ายที่บอกความเร็วที่เหมาะสมในสถานที่หรือเขตที่กำหนด เพื่อให้ผู้ขับขี่ปรับความเร็วให้เหมาะสม
- ป้ายบอกสิ่งกีดขวาง: ป้ายที่บอกถึงสิ่งกีดขวางทางหรือสภาพของทางเดินของคนเดินเท้า เช่น ป้ายบอกถึงการมีส่วนของทางเดินของคนเดินเท้าข้างหน้า
- ป้ายบอกสถานที่สำคัญ: ป้ายที่บอกถึงสถานที่สำคัญบนท้องถนน เช่น ป้ายบอกถึงโรงพยาบาล สถานีตำรวจ หรือสถานที่ท่องเที่ยว
- ป้ายบอกหมายเลขทางหลวง: ป้ายที่แสดงหมายเลขทางหลวงและเส้นทางของทางหลวง
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญลักษณ์จราจร เครื่องหมายจราจร และป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงเครื่องหมายจราจร สอบใบขับขี่แบบครบวงจร ก็อย่าลืมจดจำแต่ความหมายของป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้ดี เพื่อที่การขับขี่บนท้องถนนของเราจะได้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
และนอกเหนือจากการท่องจำสัญลักษณ์จราจร และป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนท้องถนนแล้ว การเลือกซื้อประกันรถยนต์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่จะเข้ามาช่วยคุ้มครองดูแลคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ประกันรถยนต์ก็พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ดังนั้น แรบบิท แคร์ จึงอยากแนะนำประกันรถยนต์จากเหล่าบริษัทชั้นนำในไทยอย่างครบถ้วน พร้อมนำเสนอสิทธิพิเศษอย่างส่วนลดสูงสุด 70% และโอกาสผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน หากสนใจเพียงคลิกลิงก์ประกันรถยนต์ หรือโทรติดต่อได้ที่ 1438 (ติดต่อได้ตลอดเวลา)
สัญลักษณ์จราจรมีประโยชน์ในการเคลมประกันรถยนต์อย่างไร
สัญลักษณ์จราจรต่างๆ เช่น ป้ายจราจร เครื่องหมายบนพื้นถนน สัญญาณไฟจราจร และป้ายบอกทิศทาง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและจัดระเบียบการจราจร เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน การปฏิบัติตามหรือการฝ่าฝืนสัญลักษณ์จราจรสามารถมีผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ได้ ดังนี้
ประโยชน์ของสัญลักษณ์จราจรในการเคลมประกันรถยนต์
1. พิสูจน์ความถูกต้องหรือความผิดของผู้ขับขี่
สัญลักษณ์จราจร เช่น ป้ายหยุด (Stop), ป้ายให้ทาง (Yield), ป้ายห้ามแซง หรือป้ายห้ามเลี้ยว สามารถใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์ว่าใครเป็นฝ่ายทำผิดกฎจราจร ตัวอย่างเช่น หากคู่กรณีฝ่าฝืนป้ายหยุดและชนเข้ากับรถของคุณ การใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงป้ายหยุดและตำแหน่งที่เกิดเหตุสามารถช่วยพิสูจน์ได้ว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด และคุณจะได้รับการคุ้มครองจากประกันอย่างครบถ้วน
ตัวอย่าง : หากเกิดอุบัติเหตุที่ทางแยกและมีป้ายหยุด แต่คู่กรณีไม่หยุดตามป้ายแล้วชนเข้ากับรถของคุณ การถ่ายภาพป้ายหยุดและจุดที่เกิดเหตุจะช่วยพิสูจน์ว่าคู่กรณีทำผิดกฎจราจร
2. สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงสภาพการจราจร
ในบางกรณี สัญลักษณ์จราจรบนพื้นถนนหรือป้ายบอกทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การปิดเลนหรือเปลี่ยนเส้นทางชั่วคราว หากเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การมีหลักฐานภาพถ่ายที่แสดงสัญลักษณ์จราจรจะช่วยอธิบายสถานการณ์และสนับสนุนการเคลมประกันของคุณได้
ตัวอย่าง : หากมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางและคุณปฏิบัติตามป้ายแนะนำการเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุเพราะคู่กรณีขับสวนมาในเลนที่ผิด การมีภาพถ่ายป้ายแนะนำและเครื่องหมายบนพื้นถนนจะช่วยยืนยันความถูกต้องของคุณได้
3. สนับสนุนการเจรจาหรือไกล่เกลี่ยกรณีข้อพิพาท
ในกรณีที่มีการโต้แย้งหรือพิพาทเกี่ยวกับการขับขี่ เช่น การแซง การเลี้ยว หรือการหยุดรถ การใช้สัญลักษณ์จราจรในบริเวณนั้นเพื่ออ้างอิงสามารถช่วยในการเจรจาและหาข้อยุติที่เหมาะสมได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการโต้แย้งว่าฝ่ายใดปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างถูกต้อง
ตัวอย่าง : หากเกิดอุบัติเหตุเพราะคู่กรณีเลี้ยวผิดในบริเวณที่มีป้ายห้ามเลี้ยว การแสดงภาพป้ายห้ามเลี้ยวในบริเวณนั้นจะช่วยยืนยันความผิดของคู่กรณีและสนับสนุนการเจรจาหรือการเคลมประกันของคุณได้
4. ช่วยลดความรับผิดชอบในกรณีที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างถูกต้อง
หากเกิดอุบัติเหตุในกรณีที่คุณปฏิบัติตามสัญลักษณ์จราจรอย่างถูกต้อง เช่น การหยุดที่ป้ายหยุด การให้ทางตามป้ายบังคับ หรือการขับขี่ตามความเร็วที่กำหนด การมีหลักฐานจากสัญลักษณ์จราจรจะช่วยยืนยันความถูกต้องของคุณและช่วยลดความรับผิดชอบในการเกิดอุบัติเหตุ
ตัวอย่าง : หากคุณหยุดรถตามป้ายหยุดที่จุดทางแยก แต่เกิดอุบัติเหตุจากการที่รถคันอื่นไม่หยุดตามป้าย การมีภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงป้ายหยุดและตำแหน่งรถของคุณจะช่วยยืนยันว่าคุณปฏิบัติตามกฎจราจรแล้ว
5. ใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนการเคลมประกันได้อย่างชัดเจน
การมีหลักฐานภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงสัญลักษณ์จราจรในบริเวณที่เกิดเหตุ เช่น ป้ายเตือน, ป้ายบังคับ, หรือเครื่องหมายบนพื้นถนน จะช่วยสนับสนุนคำอธิบายของคุณในการเคลมประกันได้ชัดเจนมากขึ้น และช่วยให้บริษัทประกันสามารถพิจารณาเคลมได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ตัวอย่าง : หากเกิดอุบัติเหตุในบริเวณที่มีการจำกัดความเร็ว แต่คู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด การมีภาพถ่ายป้ายจำกัดความเร็วในบริเวณนั้นจะช่วยพิสูจน์ว่าคู่กรณีทำผิดกฎจราจรและเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ
การเก็บหลักฐานจากสัญลักษณ์จราจร
หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ควรถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอสัญลักษณ์จราจรในบริเวณที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน รวมถึงภาพมุมกว้างที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสัญลักษณ์จราจรและตำแหน่งที่เกิดเหตุ และถ้าหากมีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ควรขอข้อมูลติดต่อพยานเพื่อใช้ในการยืนยันการปฏิบัติตามกฎจราจรของคุณ
สัญลักษณ์จราจรมีบทบาทสำคัญในการช่วยพิสูจน์ความถูกต้องของการขับขี่และการทำผิดของคู่กรณี ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานในการเจรจาและสนับสนุนการเคลมประกัน ทำให้กระบวนการเคลมประกันเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นควรเก็บภาพถ่ายหรือวิดีโอสัญลักษณ์จราจรในบริเวณที่เกิดเหตุไว้เสมอเพื่อใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนการเคลมประกัน
ความคุ้มครองประกันรถยนต์