เผลอขับรถย้อนศร ควรทำอย่างไรดี? แล้วจะมีโทษอะไรบ้าง?

ความประมาทนั้นจะนำไปซึ่งอุบัติเหตุ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตาม และการขับรถย้อนศรหรือการขับรถสวนทางก็เหมือนกัน เพราะนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อเพื่อร่วมทางแล้ว ก็อาจจะส่งผลต่อการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามกฎระเบียบจราจรที่ได้มีการทดสอบและเรียนรู้กันก่อนที่จะได้รับใบขับขี่ เพราะถ้าเกิดมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบขึ้นมา นอกจากจะได้รับโทษทั้งจำและปรับแล้ว ก็อาจจะส่งผลเสียต่อเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้ด้วยเช่นกัน หรือที่โชคร้ายไปกว่านั้นอาจจะทำให้เกิดการคร่าชีวิตเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้ด้วย ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ยอมเสียเวลาทำตามกฎระเบียบสักนิด เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดีกว่าฝ่าฝืนกฎระเบียบแล้วก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นด้วย

การขับรถสวนทางหรือการขับรถย้อนศรนั้น คือ การขับรถบนท้องถนนที่สวนทางกับเส้นทางที่กฎหมายจราจรนั้นระบุไว้ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจราจร และเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะในรูปแบบของรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเล็ก จึงทำให้เกิดการขับรถย้อนศรได้ง่าย ซึ่งการกระทำนี้อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้ง่าย เพราะความประมาทที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจรที่ติดขัด และถ้าหากโชคร้ายเลยก็อาจจะถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

• อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
• อาจทำให้ผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หากร้ายแรงมากก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
• เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจากความประมาทของผู้ที่ขับรถย้อนศร

• จากข้อมูลเดิมของกรมการขนส่งทางบกได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ขับรถย้อนศรหรือขับรถสวนทางนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย เป็นโทษปรับ 200 - 500 บาท(ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 33 มาตรา 34 บทลงโทษตามมาตราที่ 151) แต่จากกฎหมายฉบับใหม่ระบุไว้ว่า หากขับรถย้อนศรจะปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 500 บาท
• และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถย้อนศรหรือการขับรถสวนทางนั้นจะมีโทษทางอาญา ฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(8) มาตรา 160(3) แต่จากกฎหมายฉบับใหม่ระบุไว้ว่า หากขับรถย้อนศรหรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 - 20,000 บาท จากโทษเดิมที่ปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท

สำหรับในกรณีที่รถย้อนศรเกิดไปชนกับรถที่อยู่ในช่องทางเดินรถตามปกติ ผู้ที่ขับขี่รถย้อนศรก็จะมีความผิดแน่นอน และจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ส่วนในเรื่องที่ว่าใครชนใครหรือว่าใครเป็นฝ่ายผิด ตรงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำหน้าที่ตามกระบวนการทางกฎหมายกันต่อไป

หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแบบนี้ แน่นอนว่าทางบริษัทประกันภัยก็จะให้ความคุ้มครองอยู่แล้วตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแผนกรมธรรม์ โดยในแต่ละบริษัทก็จะมีรายละเอียดยิบย่อยในส่วนอื่น ๆ ของการคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดในอุบัติเหตุขับรถย้อนศรครั้งนี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยด้วย ซึ่งในส่วนของความคุ้มครองนั้นก็จะมีให้ทั้งค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงค่าซ่อมแซมรถทั้งของคุณและของทางคู่กรณีด้วย เราจึงควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากในแผนกรมธรรม์ หรือสอบถามกับทางบริษัทประกันภัยที่ใช้บริการอยู่ได้โดยตรง

โดยกฎหมายฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา และได้มีการปรับเพิ่มอัตราโทษจากฐานความผิดต่าง ๆ เหล่านี้

• ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท)
• ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 4,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท)
• ไม่หยุดรถให้คนที่เดินข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท)
• ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 500 บาท)
• จอดรถในที่ห้ามจอด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 500 บาท)
• ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 500 บาท)
• ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 500 บาท)
• ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท(จากโทษเดิมที่ปรับไม่เกิน 2,000 - 10,000 บาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ

1. การติดตั้งเครื่องบังคับเดินรถทางเดียว สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 30-50 ตันโดยเครื่องนี้จะมีกลไกในการทำงานเฉพาะกับรถที่วิ่งย้อนศรมาเท่านั้น คือจะถูกตัวหนามเหล็กทิ่มทำให้ยางรถรั่ว แต่เครื่องนี้จะไม่ทำงานหากรถที่วิ่งมานั้นวิ่งมาถูกทาง ไม่ได้ขับรถย้อนศร แต่อย่างไรก็ตามนั้นควรจะติดป้ายแจ้งเตือนผู้ขับขี่ไว้ด้วย
2. การวางที่กั้นถนนแบบชนิดที่มีหนามแทงล้อ เป็นอุปกรณ์แก้ปัญหาการขับรถย้อนศรที่พกพาสะดวกและเคลื่อนย้ายง่าย ตั้งได้ทันทีโดยไม่ต้องมีหมุดยึด ผลิตจากพลาสติกชนิด PA และ PE จึงมีความยืดหยุ่นสูง และแข็งแรงทนทาน
3. การใช้ป้ายสัญลักษณ์แจ้งเตือนว่าห้ามขับรถย้อนศร เพราะบางทีผู้ขับขี่บางท่านอาจจะเพิ่งเคยผ่านเส้นทางเหล่านี้ เลยทำให้ไม่รู้ว่าถนนเส้นนี้จะต้องวิ่งทางเดียวเท่านั้น จึงพลาดวิ่งเข้ามาในเส้นทางที่ไม่ถูกต้องได้
4. การใช้แบริเออร์กั้นถนน ซึ่งแบริเออร์ก็จะมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบเหล็ก แบบปูน หรือแบบพลาสติก เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยป้องกันการขับรถย้อนศรได้เป็นอย่างดี
5. การติดตั้งเสาแบ่งทาง เพราะการขับรถย้อนศรในหลาย ๆ ครั้งจะเกิดจากการที่มีช่องทางให้รถเหล่านั้นวิ่งย้อนกลับเข้ามาได้ โดยเสาแบ่งทางที่ดีนั้นควรจะมีความสูงไม่ต่ำกว่า 65 เซนติเมตร และทาสีสะท้อนแสงที่ตัวเสา ทำให้เกิดการมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งในเวลากลางวันและในเวลากลางคืน อีกทั้งยังควรมีความยืดหยุ่นที่ดีเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และยานพาหนะ

หากจะพูดเฉพาะในเรื่องของความคุ้มครองจากการขับรถย้อนศรแล้วเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นในด้านความคุ้มครองของประกันภัยในแต่ละประเภทนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากจะให้อุ่นใจในเรื่องของความคุ้มครองมากที่สุด ก็จะต้องยกให้กับแผนประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น เพราะจะให้ความคุ้มครองทุกกรณี สบายใจหายห่วงได้เลย และในส่วนของประกันภัยชั้นอื่น ๆ นั้นจะมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้

• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองในทุกกรณี ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด โดยจะชดใช้เป็นค่าเสียหายทั้งหมดให้กับคุณและคู่กรณี อีกทั้งยังจ่ายค่าปรับให้คุณด้วย หากคุณเป็นฝ่ายผิดที่ขับรถย้อนศรแล้วมาชนกับรถคันอื่นที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมา
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 3 จะให้ความคุ้มครองแก่คู่กรณี เฉพาะในกรณีที่คุณขับรถย้อนศรแล้วไปชนกับรถคันอื่นเท่านั้น ซึ่งในส่วนของค่าปรับและค่าซ่อมรถของคุณนั้นจะต้องเสียเงินเอง
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ ส่วนในกรณีนี้จะให้ความคุ้มครองเหมือนกัน โดยไม่ได้ดูว่าใครจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็จะมีเงื่อนไขที่ว่าจะต้องเป็นรถชนรถและสามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น

เพราะนอกจากแรบบิท แคร์ จะมีระบบเปรียบเทียบแผนประกันภัยที่ใช้งานง่าย รวดเร็วทันใจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดแล้ว ก็ยังมีโปรโมชั่นพร้อมส่วนลดพิเศษอีกมากมายให้กับคุณ ที่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน อีกทั้งยังมีช่องทางในการชำระเงินที่หลากหลาย และจะได้รับบริการสุดพิเศษยิ่งกว่าใคร จึงทำให้คุณมั่นใจและอุ่นใจได้แน่นอน สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แรบบิท แคร์