เคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 ทำได้ไหม เคลมรอบคัน หรือเคลมเฉพาะจุดดีกว่า
สำหรับเงื่อนไขและขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์นั้น แต่ละบริษัทประกันก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกทำประกันและทำเรื่องเคลม การเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 ก็เช่นกัน หากผู้เอาประกันทำประกันชั้น 1 จะสามารถเคลมสีรถเฉพาะจุดได้ เพราะเงื่อนไขในประกันจะครอบคลุมการแก้ไขความเสียหายของพื้นที่เฉพาะจุด อย่างเช่นรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ทำให้เกิดความเสียหายเฉพาะจุด
เคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 กี่วันเสร็จ
สำหรับการเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาดำเนินการประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งระยะเวลาในการทำสีก็จะขึ้นอยู่กับชิ้นงานด้วย หากทำสีเฉพาะจุดก็จะใช้เวลาไม่นานเท่ากับการทำสีรอบคัน ที่อาจจะใช้เวลาดำเนินการนาน 3-4 สัปดาห์เลยก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลารอคิวของอู่ซ่อมด้วยเช่นกัน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เคลมได้กี่ครั้ง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
การเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 สามารถเคลมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง หากประกันยังไม่หมดอายุ ก็สามารถเคลมได้ตลอด โดยทำได้ทั้งการแจ้งเคลมทีเดียวรอบคัน หรือจะแจ้งเคลมทีละจุดเมื่อเกิดเหตุก็ได้เช่นกัน ซึ่งไม่ว่าจะเคลมแบบมีคู่กรณีหรือไม่ ก็สามารถเคลมได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ทำสีรถเฉพาะจุดกี่บาท ไม่มีประกัน แพงไหม
ส่วนใหญ่แล้วราคาในการทำสีรถเฉพาะจุดจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 5,000 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอู่ที่ไปใช้บริการ ส่วนการทำสีรถทั้งคัน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับการประเมินราคาของอู่เช่นกัน
ซึ่งการทำสีรถเฉพาะจุด และการเคลมสีรอบคัน สามารถเคลมกับประกันชั้น 1 ได้ นั่นหมายความว่า เมื่อต้องการเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 จะมีเงื่อนไขรองรับแน่นอน แต่จะต้องเป็นการแจ้งเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น หากเป็นการแจ้งเคลมเพราะรถเสื่อมสภาพจากอายุการใช้งาน เช่น ใช้งานไปนาน ๆ แล้วรถไปครูดกับกิ่งไม้ หรือสิ่งกีดขวางจนทำให้สีถลอก ประกันรถยนต์บางประเภทก็อาจจะไม่คุ้มครอง เว้นแต่ว่ารอยขีดข่วนนั้นจะเกิดจากอุบัติเหตุจึงจะสามารถแจ้งเคลมได้ ซึ่งหากเป็นการเปลี่ยนสีเฉพาะจุดเป็นสีเดิมก็จะทำได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากเป็นการทำสีรถที่แตกต่างออกไปจากสีเดิม อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ประกันชั้นไหน เคลมสีรถได้กรณีไหนบ้าง
หากเป็นประกันชั้น 1 เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนทำให้สีถลอก จะสามารถเคลมสีได้ทุกกรณี โดยเคลมได้ทั้งการทำสีรอบคัน และทำสีเฉพาะจุด ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็สามารถเคลมได้ แต่หากเป็นประกันชั้น 2+ จะเคลมสีได้ก็ต่อเมื่อเป็นอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบกด้วยกัน ไม่สามารถเคลมได้หากไม่มีคู่กรณี ดังนั้นจึงควรติดตั้งกล้องหน้ารถเอาไว้เพื่อบันทึกหลักฐาน ให้สามารถตามตัวคู่กรณีได้ เมื่อต้องการเคลมสีกับบริษัทประกัน
หากเป็นประกันชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองในกรณีไฟไหม้ โจรกรรมและสูญหายเท่านั้น ไม่คุ้มครองการเคลมสีรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนประกันชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 2+ ซึ่งหมายความว่าจะต้องเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และเป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับยานพาหนะทางบกด้วยกันเท่านั้น จึงจะสามารถเคลมสีรถได้ แต่หากเป็นประกันชั้น 3 จะไม่ให้ความคุ้มครองรถของผู้เอาประกัน จะคุ้มครองเฉพาะตัวคู่กรณี ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงความเสียหายของรถคู่กรณี
เคลมรอบคัน หรือเคลมเฉพาะจุดดีกว่า
แน่นอนว่าการเคลมสีรอบคัน ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเคลมเฉพาะจุด เนื่องจากช่างจะต้องลอกสีเก่าออกก่อน และผสมสีใหม่เพื่อให้ได้เป็นสีเดียวกันทั่วทั้งตัวถัง ต่างจากการทำสีเฉพาะจุดที่จะเป็นการซ่อมแซมสีที่ถลอกด้วยการเคาะ ปะ หรือโป๊วสี โดยจะต้องเลือกอู่ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้สีที่ซ่อมนั้นกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับสีโดยรอบ ซึ่งหากรถมีรอยถลอกเพียงเล็กน้อย การทำสีเฉพาะจุดจะเหมาะกว่า เว้นแต่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้รถเป็นรอยทั้งคัน จึงควรทำสีรอบคัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขของประกันที่มีว่าครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน
ในส่วนของค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรกนั้น เป็นจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายทุกครั้งที่มีการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งหากไม่เคลมเฉพาะจุดหลังเกิดเหตุและปล่อยทิ้งไว้เพื่อเคลมรอบคันทีเดียว ก็จะต้องเสียค่า Excess มากขึ้นตามจำนวนรอยที่เคลม ตัวอย่างเช่น หากมีรอยขีดข่วนที่รถทั้งหมด 4 จุด โดยที่ 2 จุดแรกเกิดจากอุบัติเหตุครั้งเดียวกัน ส่วนอีกสองจุดนั้นเกิดจากอุบัติเหตุคนละเหตุการณ์ เท่ากับว่ารถเกิดรอยจากอุบัติเหตุทั้งหมด 3 ครั้ง ก็จะต้องจ่ายค่า Excess สำหรับการเคลมทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งหากกำหนดไว้ว่าจ่ายครั้งละ 1,000 บาท ก็จะต้องจ่ายทั้งหมด 3,000 บาท สำหรับการเคลมทีเดียวรอบคัน
โดยทั่วไปแล้ว หากเป็นการเคลมสีเฉพาะจุด จะสามารถทำได้โดยไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากเท่ากับการเปลี่ยนสีรถทั้งคัน ซึ่งหากมีการเปลี่ยนสีรถทั้งคัน และเป็นสีที่แตกต่างจากที่ระบุเอาไว้ในทะเบียน ผู้เอาประกันจำเป็นจะต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่ง ตามที่มีการกำหนดไว้ใน พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 13 ที่ระบุไว้ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงสีตัวถังมากกว่า 30% จะต้องแจ้งกับกรมการขนส่ง โดยจะต้องแจ้งภายใน 7 วันหลังเปลี่ยนสี หากไม่แจ้งเปลี่ยนภายใน 7 วันตามที่กฎหมายกำหนด จะมีความผิดตามมาตรา 60 ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
นับว่าการเปลี่ยนสีรถทั้งคันนั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าการเคลมสีเฉพาะจุด ดังนั้น ก่อนที่ผู้เอาประกันจะทำสีรถทั้งแบบเฉพาะจุดและแบบรอบคัน จึงควรศึกษารายละเอียดของประกันที่มีให้ดี เพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย
เคลมสีรถเฉพาะจุด เสียค่า Excess ไหม เคลมยังไงไม่ให้เสียค่า Excess
หากต้องการเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองก็ต่อเมื่อเป็นการเคลมจากอุบัติเหตุจนทำให้รถเกิดความเสียหาย เกิดรอยถลอกจนต้องทำสีใหม่ ซึ่งหากไม่ต้องการเสียค่า Excess (ค่าเสียหายส่วนแรก) ก็จะต้องเคลมตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย หากเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีคู่กรณี ก็จะต้องจ่ายค่า Excess ก่อนจึงจะสามารถเคลมได้ เว้นแต่ว่าจะมีหลักฐานเป็นภาพหรือคลิปจากกล้องหน้ารถเพื่อยืนยันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น หรือสามารถให้รายละเอียดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เล่าวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุได้ชัดเจน ก็จะไม่ต้องเสียค่า Excess นั่นเอง ซึ่งมีรายละเอียดในการเคลมตามที่ระบุไว้ข้างต้น
เคลมสีรถเฉพาะจุด ที่ไหนดี
หากจำเป็นต้องทำสีรถใหม่และรถยังอยู่ในเงื่อนไขการรับบริการของประกันชั้น 1 แนะนำให้เลือกรับบริการกับศูนย์บริการในเครือของบริษัทประกันที่ทำอยู่ แต่หากไม่อยู่ในเงื่อนไขของประกัน แนะนำให้รับบริการจากอู่ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันนั้น ๆ เพราะผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำสีเฉพาะจุด หรือทำสีรอบคัน จะค่อนข้างได้มาตรฐานกว่าเลือกทำกับอู่ทั่วไป ทั้งยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลายได้
สำหรับการเคลมสีรถเฉพาะจุดและมีคู่กรณี เมื่อทำประกันชั้น 1 จะครอบคลุมเงื่อนไขที่สามารถเคลมได้โดยไม่ต้องเสียค่า Excess ซึ่งหากทำประกันกับบริษัทที่ไว้ใจได้ ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของศูนย์บริการได้ทุกครั้งที่มีการซ่อม ซึ่งใครที่กำลังมองหาบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ ‘ประกันภัยจากวิริยะ’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งการเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 วิริยะก็มีเงื่อนไขที่ครอบคลุมและสามารถเคลมได้ แต่หากเป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี จะต้องเสียค่า Excess โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขในการเคลมได้กับทางบริษัทโดยตรง
นอกจากบริษัทวิริยะประกันภัยแล้ว ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะมีแผนประกันในราคาคุ้มค่าแล้ว ยังมีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วไทย พร้อมด้วยเงื่อนไขส่วนลดค่าเบี้ยประกันสุดคุ้มสูงสุดถึง 70% เมื่อไม่มีเคลมในปีแรก ที่สำคัญยังมีเงินชดเชยค่าเดินทาง เมื่อส่งรถเข้าศูนย์ซ่อม บริการเช่ารถสำรองเมื่อส่งรถเข้าศูนย์จากอุบัติเหตุ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ทั่วไทย เกิดเหตุเมื่อไหร่ก็วางใจได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ความคุ้มครองประกันรถยนต์