จุดเริ่มต้นของมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า (Yamaha) นั้นได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2507 โดยมีบริษัท สยามยามาฮ่า จำกัด เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 ทางบริษัท ยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่น จำกัด ก็ได้มีการเข้ามาถือหุ้นใหญ่เพื่อช่วยพัฒนามาตรฐานของรถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า (Yamaha) ให้เทียบเท่าระดับโลก จนในปัจจุบันนี้ทางบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำในระดับประเทศไทย ที่ทั่วโลกให้การยอมรับเป็นอย่างดี

นอกจากบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จะผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็ยังมีในส่วนของการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ รถกอล์ฟ และอะไหล่ รวมไปถึงการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าจากในกลุ่มของบริษัทยามาฮ่าทั่วโลกด้วย เช่น เครื่องยนต์อเนกประสงค์ ยานยนต์ทางน้ำ และรถมอเตอร์ไซค์ประกอบสำเร็จ (CBU) เป็นต้น

สำหรับในปัจจุบันนั้นจะมีมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า (Yamaha) วางจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์ของบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ดังนี้

1. มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า ระบบออโตเมติก

• Yamaha Grand Filano Hybrid (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา สีน้ำเงิน และสีขาว
• Yamaha Fazzio (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาลเหลือง สีดำฟ้า และสีเทาแดง
• Yamaha QBIX (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเหลืองชมพู และสีดำเทา
• Yamaha NMAX CONNECTED (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว สีแดง และสีเทา
• Yamaha NMAX (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน สีดำ และสีเทา
• Yamaha AEROX (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีม่วงดำ และสีเทาน้ำเงิน
• Yamaha GT125 (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเขียว และสีเทา
• Yamaha XMAX CONNECTED (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเขียวดำ สีแดงดำ สีเทา สีดำ และสีน้ำเงินดำ
• Yamaha Grand Filano Hybrid (2022) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาล สีเขียว และสีดำ
• Yamaha Fino 125 (2021) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ สีแดง และสีเขียว
  
  

2. มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า รถครอบครัว

• Yamaha Finn (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเทา และสีดำ
• Yamaha Exciter 155 (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีส้ม สีดำ และสีแดง
  
  

3. มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า รถสปอร์ต

• XSR155 (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีฟ้า สีดำ และสีเทา
• YZF-R3 (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน และสีดำ
• R15 / R15M (2023) มีให้เลือกทั้งหมด 1 สี คือ สีเทาดำ
• WR155R (2022) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน และสีดำ
• MT-03 (2022) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา และสีดำ
• MT-15 (2022) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา สีน้ำเงิน และสีดำ
  
  

4. มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า (Yamaha) รถบิ๊กไบค์ (ความจุเครื่องยนต์ 400 ซีซีขึ้นไป)

• Super Sport ได้แก่ R1M, R1 และ R7
• Sport Heritage ได้แก่ XSR900, XSR700 และ SR400
• Adventure ได้แก่ Ténéré 700
• Hyper Naked ได้แก่ MT-09 SP, MT-09 และ MT-07
• Sport Touring ได้แก่ TRACER 9GT+ และ TRACER 9GT
• Sport Scooters ได้แก่ TMAX และ TMAX Tech MAX

• เทคโนโลยี BLUE CORE
  เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้รถประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และมีสมรรถนะที่ดีมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โดยหลักการของ BLUE CORE นั้นจะมีทั้งหมด 3 อย่าง ได้แก่ การลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ การเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาไหม้ และการควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังมีการจุดระเบิดที่แม่นยำ พร้อมทั้งใช้กระบอกสูบแบบไดอะซิล ที่จะช่วยระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
• เทคโนโลยี VVA (Variable Value Actuation)
  หรือระบบวาล์วแปรผัน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้รถเร็วแรงเต็มอัตราเร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบวาล์วแปรผันนี้จะสามารถทำงานได้ดีทั้งในตอนที่เป็นช่วงความเร็วรอบต่ำ ความเร็วรอบกลาง และความเร็วรอบสูงนั่นเอง
• เทคโนโลยี Stop & Start System (SSS)
  ถูกนำมาใส่ไว้ในรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Aerox 155 และรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Fino 125 (2016) เมื่อรถจอดหยุดนิ่งตั้งแต่ 5 วินาทีขึ้นไป ระบบจะดับเครื่องยนต์ให้อัตโนมัติ ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ได้อีกด้วย