ประกันมรดก ให้ความคุ้มครองอย่างไร?
ประกันมรดก หรือประกันชีวิตแบบมรดก คือ เครื่องมือวางแผนมรดกเพื่อการส่งต่อความมั่นคงทางการเงินหรือส่งต่อมรดกในรูปแบบการซื้อประกันชีวิต กล่าวคือ ประกันมรดกก็คือประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่สามารถซื้อความคุ้มครองด้วยทุนประกันชีวิตมูลค่าสูงหลักล้านเพื่อเป็นมรดกส่งต่อให้คนในครอบครัวในกรณีเสียชีวิต การวางแผนมรดกด้วยการทำประกันชีวิตเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากค่าเบี้ยประกันไม่แพง (ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และทุนประกันชีวิตที่เลือก) ให้ความคุ้มครองยาวนานจนถึงอายุ 90 หรือ 99 ปี แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน สามารถเลือกรับผลตอบแทนในรูปแบบทุนประกันชีวิตได้สูง กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนที่เป็นทุนประกันชีวิตของผู้เอาประกันและสามารถนำเงินก้อนที่ได้รับมาใช้เป็นเงินมรดกหรือจัดการหนี้สินตามกฎหมายได้เช่นกัน
ในส่วนของความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากการทำประกันมรดก นอกจากความคุ้มครองด้านชีวิตในกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายผลประโยชน์ทุนประกันชีวิตให้กับผู้รับผลประโยชน์เป็นเสมือนเงินมรดกตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว หากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบสัญญาผู้เอาประกันจะได้รับเงินทุนประกันชีวิตด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของประกันมรดก
นอกจากทุนประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกทำในมูลค่าสูง เพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้กับคนในครอบครัวแล้ว ประกันมรดกยังมีจุดเด่นอื่นที่เป็นข้อดีสำหรับผู้เอาประกัน ดังนี้
1. ซื้อความคุ้มครองด้านสุขภาพเพิ่มในกรมธรรม์เดียวได้
การซื้อประกันมรดก ก็คือการซื้อประกันชีวิตซึ่งเป็นสัญญาหลักที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกได้ว่าต้องการจะซื้อเฉพาะสัญญาหลักที่ให้ความคุ้มครองด้านชีวิตเพียงอย่างเดียว หรือต้องการซื้อสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพเพื่อรับผลประโยชน์ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล อย่างเช่น ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง เป็นต้น ร่วมด้วยภายในกรมธรรม์เดียวกันได้
2. คุ้มครองนาน
ประกันมรดก เป็นประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่ให้ความคุ้มครองชีวิตเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี คุ้มครองผู้เอาประกันไปจนถึงอายุ 90 หรือ 99 ปี แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละบริษัท ยิ่งหากคุณวางแผนทำประกันมรดกตั้งแต่อายุยังน้อย จำนวนปีที่ประกันมรดกจะให้ความคุ้มครองคุณก็จะยิ่งยาวนาน
3. ค่าเบี้ยไม่แพงเมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่น
หากเทียบค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบมรดกกับเบี้ยประกันประเภทอื่น อย่างเช่น ประกันออมทรัพย์ จะพบว่าเบี้ยประกันชีวิตแบบมรดกถูกกว่า และได้รับความคุ้มครองทุนประกันชีวิตมากกว่าเมื่อเทียบกับค่าเบี้ยที่เท่ากัน เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการทำประกันมรดก คือ การสร้างหลักประกันให้กับคนในครอบครัวในกรณีเสียชีวิต หากนำค่าเบี้ยประกันเทียบกับผลประโยชน์ความคุ้มครองและระยะเวลาที่จะได้รับความคุ้มครองแล้ว จะพบว่าค่าเบี้ยไม่แพง นอกจากนี้ค่าเบี้ยสำหรับประกันมรดกจะคงที่ตลอดสัญญา ไม่มีการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเหมือนประกันประเภทอื่น ๆ
4. ซื้อความคุ้มครองด้านชีวิตเพิ่มได้ตลอด
คุณสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองทุนประกันชีวิตเพิ่มเติมได้ตลอด หากคุณรู้สึกว่าความคุ้มครองที่มีอยู่ก่อนหน้าไม่เพียงพออีกต่อไป หรือต้องการส่งต่อความมั่นคงทางการเงินให้กับคนในครอบครัวมากขึ้น หากเกิดเหตุไม่คาดคิดกับคุณ ไม่ว่าคุณจะทำประกันมรดกไว้กี่กรมธรรม์ ผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้จะได้รับทุนประกันจากบริษัทประกันทุกกรมธรรม์
5. เป็นเงินเก็บยามเกษียณ
นอกจากการจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตแล้ว หากคุณจ่ายเบี้ยประกันครบกำหนดแล้วคุณจะยังคงได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจนกว่าคุณจะต้องการยุติความคุ้มครอง โดยการขอเวนคืนกรมธรรม์เพื่อปิดเล่มกรมธรรม์ ในขั้นตอนนี้คุณจะได้รับเงินก้อนจำนวนหนึ่งคืนจากบริษัทประกัน เรียกว่ามูลค่าเวนคืน ซึ่งเงินก้อนที่ได้รับคืนมาก็จะเป็นเสมือนเงินเก็บอีกก้อนที่คุณสามารถนำมาใช้ในยามเกษียณได้
6. ยื่นลดหย่อนภาษีได้
เมื่อคุณซื้อประกันมรดก ค่าเบี้ยที่ใช้ในการจ่ายค่าประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร คือ
- ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีระยะเวลาให้ความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
- ทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- หากเป็นประกันชีวิตที่มีเงินปันผล หรือผลตอบแทนระหว่างสัญญา จะต้องไม่เกิน 20% ของค่าเบี้ยประกันรายปี
- หากเป็นประกันชีวิตที่มีเงินคืนตามช่วงระยะเวลา เช่น จ่ายคืนทุก ๆ 3 - 5 ปี จะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามช่วงระยะเวลา
- ต้องเป็นประกันชีวิตที่ไม่ถูกเวนคืนกรมธรรม์ก่อนถือครบ 10 ปี
ทั้งนี้หากคุณกำลังวางแผนทำประกันมรดก เพื่อส่งต่อความมั่นคงทางการเงินให้กับคนในครอบครัว คุณสามารถเลือกซื้อประกันมรดกที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ที่ แรบบิท แคร์ เรามีแผนประกันชีวิตแบบมรดกจากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำของประเทศไทยไว้บริการคุณพร้อมรายละเอียดแผนประกันครบถ้วน และบริการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันตลอด 24 ชั่วโมง
ทำไมคุณควรทำประกันชีวิตแบบมรดก?
เนื่องจากประกันมรดก เป็นแผนประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองคุณเป็นระยะเวลายาวนานและมีจุดประสงค์หลักเพื่อความคุ้มครองชีวิตและแบ่งเบาความเสี่ยงทางการเงิน กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากคุณมีการวางแผนทำประกันชีวิตแบบมรดกเอาไว้แล้ว ก็จะมั่นใจได้ว่าคนในครอบครัวของคุณจะได้รับเงินก้อนจากทุนประกันชีวิตที่คุณทำไว้เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ ในวันที่คุณไม่อยู่ เป็นเสมือนมรดกที่คุณสร้างไว้ให้กับครอบครัวของคุณตั้งแต่ตอนที่คุณยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่ต้องกังวลกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ เนื่องจากคุณได้สร้างหลักประกันไว้ให้คนที่คุณรักไว้เรียบร้อยแล้ว
หากคุณเลือกทำประกันชีวิตแบบมรดก คุณสามารถเลือกระยะเวลาในการจ่ายเบี้ยประกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่แผนประกันประเภทนี้จะมีระยะเวลาในการจ่ายเบี้ย ตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละแผนประกัน นอกจากนี้เมื่อคุณมีการชำระค่าเบี้ยประกันตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป กรมธรรม์ที่คุณถือจะมีมูลค่าเงินสดเกิดขึ้น ที่คุณจะได้รับคืนเมื่อมีการยุติความคุ้มครองหรือปิดกรมธรรม์ ซึ่งคุณสามารถวางแผนเก็บเป็นเงินออมยามเกษียณได้ โดยถือกรมธรรม์นี้ไปจนถึงอายุเกษียณ เมื่อถึงอายุเกษียณหากคุณต้องการยุติความคุ้มครองและดำเนินการปิดกรมธรรม์ บริษัทประกันจะมีเงินก้อนคืนให้คุณตามจำนวนที่ตารางมูลค่าเวนคืนกำหนดไว้นั่นเอง
ประกันมรดกเหมาะกับใคร?
บุคคลที่ควรมีประกันชีวิตแบบมรดกติดตัวไว้อย่างน้อย 1 กรมธรรม์ คือบุคคลที่มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และมีคนในครอบครัวที่เป็นห่วง ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินเป็นมรดกส่งต่อให้กับครอบครัว หลังจากไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บุคคลที่กล่าวมาได้แก่
- หัวหน้าครอบครัว หรือเป็นเสาหลักของบ้าน มีผู้อยู่ในอุปการะที่ต้องดูแล เช่น พ่อแม่ ภรรยา สามี บุตร
- บุคคลที่ต้องการสร้างหลักประกันและส่งต่อมรดกในรูปแบบทุนประกันชีวิตให้กับคนในครอบครัว ให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาด้านการเงิน
- บุคคลที่ต้องการความคุ้มครองด้านชีวิตที่ยาวนาน เบี้ยไม่แพง เป็นได้ทั้งเงินออม (กรณีครบสัญญาหรือเวนคืนกรมธรรม์) และเป็นมรดกให้คนในครอบครัว (กรณีเสียชีวิต) ได้
- บุคคลที่ต้องการผลประโยชน์ด้านภาษี สามารถนำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ทุนประกันที่ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับจากประกันมรดก จะต้องจ่ายภาษีมรดกหรือไม่?
กรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายผลประโยชน์เงินทุนประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันได้ทำไว้ให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้เอาประกันระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งผลประโยชน์เงินทุนประกันชีวิตนี้ ตามกฎหมายแล้วไม่ถือว่าเป็นมรดก ดังนั้นผู้รับผลประโยชน์ที่ได้รับทุนประกันจึงไม่ต้องเสียภาษีการรับมรดก เนื่องจากเงินที่ได้รับจากประกันไม่ใช่ทรัพย์สินที่ผู้ตายมีอยู่ก่อนแล้วหรือมีอยู่ในขณะถึงแก่ความตาย แต่เงินทุนประกันชีวิตที่ได้รับจากบริษัทประกันเกิดขึ้นมาโดยอาศัยเหตุจากความตายของผู้เอาประกัน ด้วยเหตุนี้เงินที่ได้จากประกันจึงไม่ถือเป็นมรดกนั่นเอง
ดังนั้น การทำประกันชีวิตแบบมรดก จึงถือเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนเรื่องการส่งต่อมรดกให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับ ได้รับผลประโยชน์รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอให้มีการจัดการมรดกอื่นให้เรียบร้อยก่อน เหมือนการส่งต่อมรดกในพินัยกรรม ผู้รับผลประโยชน์ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินทุนประกันที่ผู้เอาประกันระบุไว้สามารถดำเนินการกับบริษัทประกันได้โดยตรงทันที