สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่อยากจะขายออนไลน์ ควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?
จริง ๆ แล้วการขายออนไลน์นั้นมีมานานหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มมาเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา จึงทำให้ทั่วโลกมีการปรับตัวและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านการดำรงชีวิตหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้ปลอดภัยและเอาตัวรอดได้ในสังคมปัจจุบัน โดยจะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีการเติบโตสวนกระแสมากกว่าด้านอื่น ๆ นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่าตลาดอีคอมเมิร์ซ หรือการขายออนไลน์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงในเรื่องของการทำงานที่ถูกปรับให้มาเป็นการทำงานที่บ้าน หรืออยู่แต่ที่บ้านแทน เพื่อความปลอดภัยในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด จึงทำให้ผู้คนเริ่มปรับตัว และคุ้นชินกับการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเวลาโดยเฉลี่ยต่อวันที่คนไทยหันมาเล่นอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น โดยสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก(จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2563) ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านความบันเทิง การเล่นโซเชียลมีเดีย เช่น แคปชั่นแม่ค้าสำหรับเรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ การชอปปิ้งออนไลน์ การทำธุรกรรมทางการเงิน การศึกษา และการทำงาน ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลทำให้การค้าปลีกในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่พุ่งสูงขึ้นมาก เนื่องจากร้านค้าแบบมีหน้าร้านที่ต้องปิดตัวลง บวกกับข้อดีของการซื้อขายออนไลน์ที่ดึงดูดทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้า จึงทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคสินค้าของลูกค้า เช่น ข้อเสนอที่ถูกใจ ส่วนลดที่มากมาย สามารถซื้อขายออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง เปรียบเทียบราคาสินค้าได้ง่าย และยังช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาได้มากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังทำให้หลายคนหันมาเปิดร้านขายออนไลน์กันเยอะมากขึ้น รับบทเป็นพ่อค้าแม่ค้าจากการที่มีเวลาว่างมากขึ้น เพราะอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนใกล้ชิด เพียงแค่มีช่องทางใดช่องทางหนึ่งก็สามารถขายออนไลน์ได้ทันที ไม่ต้องไปเปิดหน้าร้านให้ยุ่งยาก และเสียเงินเยอะอีก เพราะหลาย ๆ ท่านก็ได้มีการนำเอาเงินเก็บหรือเงินฉุกเฉินออกมาใช้จ่ายในช่วงที่โรคโควิด-19 นั้นแพร่ระบาด ดังนั้นจึงต้องหาหนทางสร้างรายรับเพื่อมาทดแทนในส่วนที่ใช้จ่ายออกไปนั่นเอง ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตจึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปโดยปริยาย
อยากจะเริ่มลงทุนขายของออนไลน์ เริ่มยังไงดี?
เบื้องต้นจะต้องเตรียมตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายออนไลน์ ดังนี้
- วางแผนเรื่องงบประมาณหรืองบลงทุน ว่าตอนนี้เรามีงบเท่าไหร่ เพียงพอต่อการลงทุนขายออนไลน์หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหางบบานปลายในอนาคต
- วางแผนเลือกสินค้าที่จะขาย ว่าเราอยากขายอะไร หรือมีความชอบในสินค้าแบบไหน รวมไปถึงการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในตลาดด้วย
- เลือกดูแหล่งซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ราคาเหมาะสม และมั่นใจได้
- วางแผนสร้างช่องทางในการขายออนไลน์จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, เว็บไซต์, Line Shopping,TikTok เป็นต้น
- ทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และการเข้าถึงบนช่องทางที่ขายออนไลน์ เป็นการสร้างฐานลูกค้าหน้าใหม่และลูกค้าเดิม
- บริหารร้านค้าให้มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และปิดการขายได้
- เตรียมช่องทางการรับเงินที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะสะดวกชำระเงินช่องทางใด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริการที่เห็นได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ลูกค้า
- มีบริการหลังการขายที่ดี เช่น มีการรับประกัน เพื่อเป็นการมัดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้ากับเราซ้ำอีก และกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด
ขายออนไลน์ อะไรดี ที่จะสามารถทำเงินทำกำไรได้?
จริง ๆ แล้วการขายออนไลน์นั้นสามารถขายได้ทุกอย่าง ไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรในทางของประเภทสินค้า เพียงแต่ในช่องทางที่จะนำไปขายนั้น อาจจะมีเงื่อนไขระบุไว้จะต้องไม่เป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย หรืออื่น ๆ ตามที่ได้มีการทำข้อตกลงกันไว้ และยิ่งสินค้ามีความแตกต่างจากเจ้าอื่นมากเท่าไหร่ หรือว่ามีความน่าสนใจที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเห็นถึงความคุ้มค่า คุ้มราคา จากการซื้อสินค้านั้นได้ ก็จะยิ่งทำให้สินค้าขายดีมากเท่านั้น โดยสามารถแบ่งสินค้าออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- สินค้าประเภทที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
- สินค้าประเภทที่จับต้องไม่ได้ เช่น เพลง ภาพยนตร์ ละคร เป็นต้น
- บริการ เช่น การท่องเที่ยว บริการที่พัก การเสริมสวย เป็นต้น
ขายออนไลน์ ไม่สต๊อกสินค้า ดีกว่าแบบสต๊อกสินค้าจริงไหม?
ทั้ง 2 แบบจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ขายว่าอยากจะขายออนไลน์แบบสต๊อกสินค้าหรือไม่สต๊อกสินค้าดี แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะขายออนไลน์แบบไม่สต๊อกสินค้ากัน เพราะจะได้โฟกัสเฉพาะกับการขายสินค้าเท่านั้น ไม่ต้องมาคอยนับสต๊อก หรือมาคอยเติมสต๊อก เพื่อให้สินค้าพร้อมขายอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่ต้องมานั่งแพ็กของและไปส่งของเองอีกต่างหาก เงินก็ไม่ต้องไปจมกับของที่สต๊อกไว้ถ้าเกิดว่ายังขายไม่ได้ มันก็เลยเป็นวิธีการที่เราจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยง หรือเอาเงินไปลงทุนกับการสต๊อกสินค้า และจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าเงินจะจมทุนด้วย จึงทำให้การขายออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นไปอีก แถมยังได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายผู้ขายรายใหญ่และฝ่ายผู้ขายรายย่อยด้วย เพราะฝ่ายผู้ขายรายใหญ่ก็จะเหมือนกับได้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยไปในตัว ส่วนผู้ขายรายย่อยก็จะได้โฟกัสกับการทำตลาดออนไลน์เพื่อขายสินค้าให้ได้เยอะ และตรงตามกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของตัวเองอีกด้วย
แต่การขายออนไลน์แบบไม่สต๊อกสินค้านั้นก็จะเหมาะกับสินค้าบางประเภทเท่านั้น ได้แก่
- สินค้าที่ต้องซื้อซ้ำ เช่น เสื้อผ้า ของใช้ภายในบ้าน เครื่องสำอาง เป็นต้น
- สินค้าที่หาซื้อได้ยากตามท้องตลาด เช่น อุปกรณ์ไอที สินค้าแม่และเด็ก เป็นต้น
- สินค้าเพื่องานอดิเรก เช่น ตัวต่อเลโก้ สินค้าทำมือ ของเล่นสำหรับเด็ก เป็นต้น
- สินค้าเพื่อธุรกิจ เช่น อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของการขายออนไลน์แบบไม่สต๊อกสินค้ามีอะไรบ้าง?
ข้อดี | ข้อเสีย |
ไม่ต้องลงทุน | การแข่งขันสูง |
ไม่ต้องแพ็กของส่งเอง | ต้องดูสินค้าให้ดี เพราะอาจจะได้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานมาขาย |
ไม่ต้องมีหน้าร้าน | หากสินค้าไม่มีความแตกต่าง ก็อาจจะทำให้ขายได้ยากมากขึ้น |
ทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ได้ | ผู้ขายรายย่อยอาจจะเติบโตช้ากว่าผู้ขายรายใหญ่ |
ไม่ต้องถ่ายรูปสินค้าเอง | สินค้าบางชนิดมีต้นทุนที่สูง |
ขายออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา | ต้องเลือกดูผู้ขายรายใหญ่ที่มั่นใจได้ ปลอดภัย ไม่โกง |
เทคนิคการขายของออนไลน์ ให้ขายง่าย ได้กำไรเยอะ?
- เลือกขายออนไลน์เป็นสินค้าประเภทที่มีความแตกต่าง แปลกใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- เน้นสินค้าที่ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ต้องแพงจนเกินไป
- เน้นให้บริการลูกค้าแบบทั่วถึง จะได้ดูแลดูค้าได้สะดวก ส่งผลทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้ากับเราอีก เป็นการสร้างฐานลูกค้าสำหรับการขายออนไลน์ แบบเดียวกับการขายที่หน้าร้านเลย
- เน้นขายสินค้าที่คู่แข่งน้อย
- เลือกขายสินค้าที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้ เช่น การรับประกันสินค้า เป็นต้น
- ควรศึกษากระแสของตลาดสินค้าที่ขายดี ที่จะสามารถขายได้นานกว่าสินค้าแบบแฟชั่น
ข้อดีและข้อเสียของการขายออนไลน์มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของการขายออนไลน์
- ใช้ต้นทุนต่ำ เพราะการขายออนไลน์ไม่จำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้าน และไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างลูกจ้าง จึงทำให้ประหยัดเงินค่าเดินทาง ค่าจ้างพนักงานขาย และค่าสถานที่
- สามารถขายออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง
- เพิ่มโอกาสในการขาย เพราะสินค้าสามารถขายได้ทั่วโลก ไร้พรมแดน
- แค่มีเครื่องมือเป็นโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถขายออนไลน์ได้ทันที
- สามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีตัวช่วยคอยวัดผลและจัดเก็บฐานข้อมูลของลูกค้า เพื่อที่จะได้กลับมาซื้อสินค้ากับเราอีกในอนาคต
- สามารถขายออนไลน์เป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ได้
- ไม่จำเป็นจะต้องสต๊อกสินค้าก็สามารถขายออนไลน์ได้
ข้อเสียของการขายออนไลน์
- การแข่งขันสูงมาก โดนขายตัดราคาได้ง่าย เพราะใคร ๆ ก็สามารถขายออนไลน์ได้
- ความเชื่อมั่นในสินค้าที่อาจจะยังไม่เท่ากับการไปซื้อสินค้าที่หน้าร้าน เพราะยังมองไม่เห็นสินค้า หรือสั่งมาแล้วอาจจะเป็นของปลอม หรืออาจถูกโกงได้ง่าย
- อาจจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมขายของ ค่าโฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ การเข้าถึง และทำให้คนอื่นรู้จักร้านเรามากขึ้น
- ต้องใช้เวลาในการจัดส่ง
- การขายออนไลน์ต้องมีความรู้เรื่องอินเทอร์เน็ต
ขายออนไลน์ ภาษีคิดอย่างไร?
ปกติแล้วคนในวัยทำงานจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีในแต่ละปีอยู่แล้ว ซึ่งการขายออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าการมีรายได้จะเท่ากับต้องยื่นข้อมูลภาษีด้วย คือ ภ.ง.ด. 94 และ ภ.ง.ด. 90 ดังนี้
- ยื่นภาษีรอบแรก จะเป็นการยื่นภาษีครึ่งปี ในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายน โดยจะเป็นการนำเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน มาแสดงในการยื่นภาษี ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน ของทุกปี
- ยื่นภาษีรอบที่สอง จะเป็นการยื่นภาษีปลายปี ในช่วงเดือนมกราคม-เดือนมีนาคมของทุกปี โดยจะเป็นการนำเงินได้ของทั้งปี มาแสดงในการยื่นภาษี ภายในวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม ของปีถัดไป
สินเชื่อที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
อยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ควรขอสินเชื่อแบบไหนดี?
แนะนำว่าให้ขอเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะนอกจากจะเป็นสินเชื่อแบบหมุนเวียนส่วนบุคคลที่เป็นเงินพร้อมใช้แล้ว ก็ยังสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายแบบ เช่น สินเชื่อเพื่อการลงทุน เงินก้อนเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เป็นต้น เราจะได้มีเงินสดพร้อมใช้ทันที เพื่อที่จะให้คุณใช้จ่ายได้ตามความต้องการ
เลือกสมัครสินเชื่อผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
นอกจากแรบบิท แคร์ จะมีเครื่องมือช่วยเปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายแล้ว ก็ยังมีข้อเสนอสุดพิเศษกับสถาบันทางการเงินที่มีให้เลือกหลากหลาย ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็วทันใจ และยังมีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุดมากกว่าเจ้าไหน ๆ ที่รับรองได้ว่าคุณจะพึงพอใจและประทับใจอย่างสูงสุดแน่นอน เมื่อเลือกขอสินเชื่อกับแรบบิท แคร์