ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ เพราะด้วยปัญหาโรคระบาดโควิต19 ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ จึงทำให้คนตระหนักในการใส่ใจสุขภาพอย่างมาก ซึ่งเทรนด์การลงทุนด้านสุขภาพก็คงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือกองทุน HSA แล้วการลงทุนกองทุน HSA เป็นกองทุนที่น่าลงทุนหรือไม่ มันคืออะไร ไปหาคำตอบได้จากบทความนี้

บัญชีออมทรัพย์เพื่อสุขภาพ หรือ HSA เป็นบัญชีที่ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริจาคเงินที่หักลดหย่อนภาษี โดยมีให้สำหรับทุกคนที่มีแผนสุขภาพแบบหักลดหย่อนสูง (HDHP) และสามารถใช้เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ภายหลัง HSA จำนวนมากมาพร้อมกับบัตรเดบิตที่ทำให้การชำระเงินและการบัญชีทำได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้เรายังสามารถนำเงินออมที่มีไปลงทุนกองทุน HAS ซึ่งในบางกองทุนเราสามารถได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล กองทุนปลอดภาษีเหล่านี้บางส่วน ได้แก่ กองทุนดัชนี กองทุนรวม หุ้นเดี่ยว พันธบัตร และเครื่องมือการลงทุนอื่นๆ

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยใน HSA จะต่ำกว่าในบัญชีออมทรัพย์ แต่ถึงอย่างนั้นการลงทุนกองทุน HSA ก็สามารถประหยัดได้มากกว่าเพราะเงินของเราจะไม่ต้องเสียภาษีนั่นเอง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว สถาบันการเงินหลายๆแห่ง ตัวอย่างเช่น ธนาคารและสหภาพเครดิต จะมีบัญชี HSA อยู่แต่มีเพียงไม่กี่สถาบันเท่านั้นที่เชี่ยวชาญในเรื่องการยกเว้นภาษี

ประโยชน์ของการลงทุนกองทุน HSA คือ การทำให้ง่ายต่อการจ่ายค่ารักษาพยาบาล อย่างการไปพบแพทย์โดยไม่คาดคิดหรือการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ก่อนที่จะได้รับการหักลดหย่อนและประกันจะเริ่มครอบคลุมค่าใช้จ่าย

1. การบริจาคจะไม่ถูกหักภาษี

ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินเองหรือนายจ้าทำในนามเรา หากเราฝากเงินเข้าบัญชีด้วยตัวเอง จะเป็นการอ้างสิทธิ์การบริจาครายปีทั้งหมดเป็นการหักภาษีของเรา แต่ถ้าหากนายจ้างบริจาคเงินของเรา จะถูกหักออกจากเช็คเงินเดือนของเราก่อนหักภาษี โดยสามารถบริจาคเพื่อหักลดหย่อนภาษีให้ ได้ตลอดทั้งปี หรือแม้แต่ 15 เมษายนสำหรับปีภาษีที่แล้ว และนอกจากนี้ยังสามารถบริจาคได้แม้ว่าจะเกษียณอายุไปแล้ว กำลังว่างงาน หรือแม้แต่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่าที่เราบริจาค โดยถือว่าเป็นการช่วยลดรายได้รวมและจำนวนภาษีที่เราต้องจ่ายนั่นเอง

2. รายได้ไม่ต้องเสียภาษี

การลงทุนกองทุน HSA ส่วนใหญ่จ่ายดอกเบี้ยให้กับยอดคงเหลือเหมือนกันกับบัญชีออมทรัพย์ธนาคาร นอกจากนี้ HSA ยังสามารถเลือกให้โอน ทั้งหมดหรือบางส่วนไปยังการลงทุนได้ เช่น กองทุนรวม เพื่อเป็นการเพิ่มยอดเงินได้ด้วย ซึ่งดอกเบี้ยหรือการลงทุนกองทุน HSA นั้นปลอดภาษีอย่างสิ้นเชิง ไม่เหมือนกับธนาคารที่ต้องเสียภาษีหรือบัญชีนายหน้า

3. การถอนเงินจาก HSA ไม่ต้องเสียภาษี

เมื่อนำเงินออกจาก HSA ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงินสมทบเดิม รายได้ดอกเบี้ย หรือรายได้จากการลงทุนจากบัญชีเพื่อชำระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล จะไม่มีการเสียภาษี

1. ก่อนเลือกกองทุนรวม

ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนอะไรสักหรือ HSA ต้องสำรวจความต้องการของตัวเราเองก่อนเสมอ เช่น อยากลงทุนในสินทรัพย์อะไร หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ต้องการลงทุนระยะเวลานานแค่ไหน เพื่อจะได้เลือกเฉพาะกองทุนที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบกัน

2. ศึกษาข้อมูลกองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet

ใน Fund Fact Sheet จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์บอกตั้งแต่ กองทุน HSA เป็นยังไง นำเงินเราไปลงทุนในอะไร ขนาดกองทุน มีเงินปันผลไหม ค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมไปถึงอายุของกองทุนว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไร มีสภาพคล่องอย่างไร เพื่อประโยชน์ต่อการลงทุนแนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดทุกครั้ง

3. ต้องได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

หากอยากได้กองทุนรวมที่ดี ควรดูรายละเอียดของผลตอบแทนของ HSA ย้อนหลัง ถ้าได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอถือว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจ

4. กองทุนรวมก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน

การลงทุนทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง กองทุน HSA ก็เช่นกัน สามารถวัดค่าความเสี่ยงได้จาก Standard Deviation หรือ S.D. ยิ่งค่าสูง แปลว่า ยิ่งมีความเสี่ยงสูง โดยตัวเลขนี้เหมาะสำหรับการเปรียบเทียบกองทุนรวมที่ลงทุนในแหล่งเดียวกันเท่านั้น เช่น กองทุนรวมหุ้นเหมือนกัน หรือกองทุนตราสารหนี้เหมือนกัน

5. หมั่นตรวจสอบและติดตาม

การลงทุนผ่านกองทุนรวมมักจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเรื่องการลงทุนให้เราอยู่แล้ว แต่เราซึ่งเป็นเจ้าของพอร์ต ควรจะต้องตรวจสอบ HSA และติดตาม อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อความมั่นใจว่ากองทุนรวมเรายังสร้างผลตอบแทนได้ดีอยู่นั่นเอง โดยถ้าหากดูแล้วท่าไม่ค่อยจะดีเราก็สามารถขายแล้วเปลี่ยนไปเลือกกองทุนรวมอื่นได้เสมอ

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของกองทุน HSA ก็จะประมาณนี้ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าการลงทุนกองทุน HSA จะดีหรือไม่ อย่าเพิ่งตัดสินใจก็ได้ ควรต้องศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อน ให้มีความรู้ มีข้อมูลมากเพียงพอ เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายในการลงทุน