ป้ายจราจรสีฟ้ามีทั้งหมดกี่ประเภท และมีความหมายอย่างไรบ้าง

การขับขี่บนท้องถนนเราต้องเจอกับสัญลักษณ์จราจรจำนวนมาก โดยเฉพาะป้ายจราจรสีฟ้าที่มีความแตกต่างออกไปจากป้ายจราจรสีอื่น เคยสงสัยไหมว่าทำไมป้ายจราจรต้องมีการทำแยกสี แยกรูปแบบกันด้วย สาเหตุมาจากการที่ต้องสื่อสารเฉพาะทางหลวงที่แตกต่างกัน ทำให้ป้ายแต่ละประเภทไม่เหมือนกันนั่นเอง ส่วนความหมายป้ายจราจรสีฟ้าหมายถึงอะไร มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย

ป้ายจราจรสีฟ้า คือ ป้ายจราจรที่มีสีเป็นสีฟ้าและมักถูกติดตั้งบนท้องถนนหรือทางแยกสำคัญในประเทศไทย เป้าหมายหลักของป้ายจราจรสีฟ้าคือเพื่อเตือนและสอบถามผู้ขับขี่หรือคนขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรหรือสัญญาณทางจราจรที่ใกล้เคียงกัน ป้ายจราจรสีฟ้าส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉากหรือวงกลม และมักจะมีข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายจราจร เช่น จำกัดความเร็ว, เข้าห้าม, เลี้ยวขวา/ซ้าย, เข้าสู่เมือง และอื่น ๆ ซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยและความเรียบร้อยในการจราจรบนท้องถนน

ความหมายป้ายจราจรสีฟ้ามีหลากหลายและแตกต่างกันไป ตามสัญลักษณ์และข้อความที่ปรากฏบนป้ายจราจรสีฟ้า โดยลิสต์ทั้งหมดด้านล่างคือความหมายป้ายจราจรสีฟ้าที่พบบ่อยในไทย

• ลูกศรชี้ไปทางซ้าย: ป้ายทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย
• ลูกศรชี้ไปทางขวา: ป้ายทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา
• ลูกศรเฉียงลงทางขวา: ป้ายให้ชิดขวา
• ลูกศรเฉียงลงทางซ้าย: ป้ายให้ชิดซ้าย
• ลูกศรชี้ขึ้น: ป้ายให้ตรงไป
• ลูกศรโค้งไปทางขวา: ป้ายให้เลี้ยวขวา
• ลูกศรโค้งไปทางซ้าย: ป้ายให้เลี้ยวซ้าย
• ลูกศรเฉียงลงซ้ายขวาคู่กัน: ป้ายให้ไปทางซ้ายหรือทางขวา
• ลูกศรโค้งซ้ายและตรงไป: ป้ายให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย
• ลูกศรโค้งออกซ้ายขวา: ป้ายให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
• เลข 3 ในรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด: ป้ายช่องเดินรถมวลชน
• รูปรถจักรยานยนต์: ป้ายช่องเดินรถจักรยานยนต์
• ลูกศรโค้งขวาและตรงไป: ป้ายให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา
• รูปรถเมล์: ป้ายช่องเดินรถประจำทาง
• ลูกศรวนเป็นวงกลม: ป้ายวงเวียน
• เลข 30: ป้ายความเร็วขั้นต่ำ
• รูปรถจักรยาน: ป้ายช่องเดินรถจักรยาน
• รูปคนเดิน: ป้ายเฉพาะคนเดิน
  
  

หากขับรถเจอป้ายจราจรสีฟ้าเหล่านี้ อย่าลืมเตรียมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เราสามารถใช้ท้องถนนร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งป้ายจราจรสีฟ้ามักจะมาในรูปแบบของการเตือนเพื่อให้เราเตรียมพร้อมรับมือได้ก่อนแล้ว

ป้ายจราจรสีฟ้าสามารถเจอได้บนถนนหลายประเภทในประเทศไทย ดังนี้:

• ถนนทางหลวง: ป้ายจราจรสีฟ้าสามารถพบได้บนถนนทางหลวงที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดและเขตการปกครองท้องถิ่น ป้ายจำกัดความเร็วเป็นต้นอยู่บนถนนทางหลวงเพื่อกำหนดความเร็วสูงสุดในพื้นที่นั้น นอกจากนี้ยังมีป้ายอื่น ๆ เช่นป้ายสัญญาณเลี้ยวและป้ายห้ามเข้า ที่จะช่วยในการนำทางและควบคุมการจราจรบนถนนทางหลวง
• ถนนในเขตเมือง: ในพื้นที่เมืองหรือเขตในเมือง ป้ายจราจรสีฟ้าจะพบบ่อยมาก เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและสัญญาณทางจราจร ป้ายเข้าสู่เขตเมืองและป้ายห้ามเข้าส่วนต่าง ๆ ของเมืองเป็นต้นอยู่บนถนนในเขตเมือง
• ทางด่วนและทางพิเศษ: ในทางด่วนและทางพิเศษ เช่น ทางหลวงพิเศษและทางคมนาคม เราอาจพบป้ายจราจรสีฟ้าที่กำหนดความเร็วสูงสุด แสดงทิศทางการเลี้ยว หรือป้ายอื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำในการขับขี่ในสถานการณ์ทางหลวงที่เร็วและซับซ้อนมากขึ้น
  
  

ทั้งนี้ ป้ายจราจรสีฟ้าอาจปรากฏอยู่ทั้งในส่วนของเส้นทางหลวงหรือทางรอบเมือง ซึ่งการติดตั้งป้ายจราจรสีฟ้าจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นและสภาพการจราจรในแต่ละพื้นที่

หากสถานการณ์ไหนที่เราไม่ได้ปฏิบัติตามป้ายจราจรสีฟ้า แล้วเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ประกันรถยนต์จะยังสามารถดูแลคุ้มครองได้อยู่ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด แต่ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดเงื่อนไขของกรมธรรม์อีกทีหนึ่ง ค่าคุ้มครองในส่วนไหนบ้างนั่นเอง ซึ่งถ้าหากใครสงสัย กำลังตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ ลองคลิกเข้าไปที่ลิงก์ เพื่อทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงรับข้อเสนอสุดพิเศษจาก แรบบิท แคร์ ได้โดยตรง หรือจะเลือกโทรมาที่เบอร์ 1438 ก็พร้อมติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ป้ายจราจรสีฟ้ามีบทบาทสำคัญในการบ่งบอกข้อบังคับหรือข้อแนะนำในการใช้ถนน ซึ่งข้อมูลจากป้ายจราจรนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการเคลมประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ โดยสามารถช่วยในการพิสูจน์ความถูกต้องหรือความผิดของผู้ขับขี่ในเหตุการณ์นั้นๆ ได้ ดังนี้

ประโยชน์ของป้ายจราจรสีฟ้าในการเคลมประกัน

1. ใช้ยืนยันการปฏิบัติตามกฎจราจร

ป้ายจราจรสีฟ้าเป็นป้ายบังคับหรือป้ายแนะนำ เช่น ป้ายบังคับให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา ป้ายบังคับใช้ช่องทางเดินรถ หรือป้ายบอกให้ใช้ความเร็วที่กำหนด หากคุณสามารถแสดงหลักฐานว่าคุณปฏิบัติตามป้ายเหล่านี้ขณะเกิดอุบัติเหตุ เช่น มีป้ายบังคับให้เลี้ยวซ้ายอยู่ และคุณเลี้ยวซ้ายตามที่ป้ายกำหนด การใช้ข้อมูลนี้สามารถช่วยยืนยันว่าคุณไม่ได้ทำผิดกฎจราจร

ตัวอย่าง : หากเกิดอุบัติเหตุในบริเวณที่มีป้ายบังคับให้ใช้เลนซ้ายแล้วมีรถคันอื่นขับผิดเลนมาชนคุณ การใช้ภาพถ่ายป้ายจราจรสีฟ้าในบริเวณนั้นสามารถช่วยพิสูจน์ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ผิดได้

2. ใช้สนับสนุนการเจรจาและพิสูจน์ความผิดของคู่กรณี

หากคู่กรณีอ้างว่าคุณเป็นฝ่ายผิดหรือขับขี่ผิดกฎจราจร ป้ายจราจรสีฟ้าสามารถช่วยเป็นหลักฐานในการสนับสนุนคำกล่าวอ้างของคุณ เช่น ป้ายแนะนำให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. หากคุณขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมตามที่ป้ายกำหนด แต่เกิดอุบัติเหตุจากรถที่ขับเร็วเกินไป ข้อมูลนี้สามารถใช้ประกอบการเจรจาเพื่อพิสูจน์ความผิดของคู่กรณีได้

3. ช่วยลดความรับผิดชอบหรือโทษของคุณ

หากคุณขับขี่ในพื้นที่ที่มีการบังคับการใช้เส้นทางหรือความเร็วที่กำหนด การอ้างอิงป้ายจราจรสีฟ้าที่คุณปฏิบัติตามอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดโทษหรือความรับผิดชอบที่คุณอาจได้รับ เช่น ในกรณีที่คุณเลี้ยวซ้ายตามป้ายบังคับ แต่คู่กรณีขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและชนคุณ การปฏิบัติตามป้ายจราจรสามารถช่วยพิสูจน์ว่าคุณปฏิบัติตามกฎและไม่มีส่วนร่วมในความผิดที่เกิดขึ้น

การเก็บหลักฐานจากป้ายจราจรสีฟ้า

หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ควรเก็บภาพถ่ายหรือวิดีโอของป้ายจราจรในบริเวณที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเจรจากับบริษัทประกันและตำรวจ และถ้าหากมีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์และยืนยันว่า คุณปฏิบัติตามป้ายจราจรก็จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้การเคลมประกันเป็นไปได้ง่ายขึ้น

ป้ายจราจรสีฟ้ามีประโยชน์ในการเคลมประกันเพราะช่วยยืนยันว่าคุณปฏิบัติตามกฎจราจรในขณะเกิดเหตุ และสามารถใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์ความถูกต้องของคุณหรือความผิดของคู่กรณี ซึ่งช่วยให้กระบวนการเคลมประกันเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น