Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

ขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ากี่เมตร

ข้อแนะนำควรขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ากี่เมตรถึงจะปลอดภัย

ทุกเส้นทางที่เราขับขี่ล้วนจะต้องเจอรถที่ขับช้า ขับเร็วแตกต่างกันไป ดังนั้นการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า เป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างมากไม่ว่าช่วงเวลาไหน เพื่อให้พื้นที่ระหว่างรถของเรากับรถคันหน้า อยู่ในระดับที่สามารถเบรกจนรถหยุดได้อย่างปลอดภัยไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นอกเหนือจากที่กล่าวมา ยังมีเรื่องของการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ตามกฎหมายอีกต่างหากที่เราควรเรียนรู้เพิ่มเติม

ระยะห่างจากรถคันหน้า ตามกฎหมาย

อันดับแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า คือ การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 40 ที่ระบุเอาไว้ว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้ามากพอที่จะสามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัยในกรณีที่ต้องหยุดรถ และยิ่งไปกว่านั้นต้องระมัดระวังเมื่อขับขี่ขึ้นสะพาน หรือพบเจอทางลาดชัน ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้รถถอยหลังไปโดนรถคันอื่น ไม่งั้นอาจผิดกฎหมายดังกล่าวได้

คำแนะนำเพิ่มเติม: กรณีที่เจอโจทย์ระยะห่างจากรถคันหน้า ข้อสอบใบขับขี่ ต้องเลือกตอบในประมาณว่า ระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น ไม่ต้องเสียเวลาหาว่าควรเลือกตัวเลขไหน มองหาคำตอบดังกล่าวแล้วเลือกได้เลย

ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า เท่าไรถึงจะปลอดภัยที่สุด

เมื่อการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าตามกฎหมาย ไม่ได้มีระบุอย่างชัดเจน แล้วเราควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า เท่าไรถึงจะปลอดภัยมากที่สุด คำตอบ คือ การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ด้วยครึ่งหนึ่งของระดับความเร็ว และการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ผ่านการสังเกตวัตถุหรือสภาพแวดล้อมบนถนนที่พบเจอเหมือนกัน ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

  • เว้นระยะห่างจากคันหน้า ด้วยครึ่งหนึ่งระดับความเร็วลงครึ่งหนึ่ง เช่น หากเรากำลังขับรถที่ความเร็ว 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้ทำการเว้นระยะห่างประมาณ 45 เมตร แต่ถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่ฝนตก ถนนลื่น ควรทิ้งระยะห่างเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
  • เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ผ่านการสังเกตวัตถุหรือสิ่งแวดล้อม คือ การใช้วัตถุริมถนน เช่น ต้นไม้ หรือหลักกิโลเมตร เป็นตัวช่วยวัดระยะห่าง เมื่อรถคันหน้าผ่านวัตถุนั้นไปแล้ว ให้เรานับ 1-2 ในใจ หากนับถึง 2 แล้วรถของเราผ่านวัตถุนั้นพอดี ถือว่าเราเว้นระยะห่างได้อย่างเหมาะสม แต่ถ้าเราถึงวัตถุนั้นก่อนนับครบ 2 ให้ลดความเร็วลง เว้นแต่ว่าเรานับเกิน 2 ให้เพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด หรือย้ายไปอยู่ในเลนที่รถวิ่งช้ากว่า

คำแนะนำเพิ่มเติม: ถนนบางเส้นที่เราเจอ สามารถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าได้แบบง่าย ๆ เพียงแค่สังเกตจากสัญลักษณ์บนพื้นถนน และป้ายข้างทางที่ระบว่าควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัญลักษณ์เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

ข้อดีของการขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า

แน่นอนว่าการขับรถเพื่อเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า จะช่วยให้เราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเบรกฉุกเฉิน เมื่อระยะห่างจากคันหน้ามากพอ ทำให้รถของเราที่กำลังเบรกมีระยะให้รถหยุดได้อย่างปลอดภัย หรือสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้าได้ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ

เส้นทางแบบไหนที่เราควรขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า

หากเป็นการเดินทางไกลไม่ว่าจะเจอถนนสภาพไหน เราควรจะขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม ตามคำแนะนำทั้ง 2 ข้อด้านบน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ยิ่งถ้าเป็นถนนที่แคบ, ขึ้นสะพาน, ทางยกระดับ หรือลานจอดรถ รวมไปถึงการขับตามรถบรรทุกยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าไม่เพียงพอ ใครผิด ใครถูก ประกันคุ้มครองอย่างไร

เบื้องต้นอุบัติเหตุการชนท้ายนั้นรถคันที่ชนจะถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิดก่อน เว้นแต่ว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนถึงความประมาทของรถคันหน้า เช่น เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าไม่เพียงพอ, เกิดความประมาทระหว่างขับรถ หรือมีอาการมึนเมาทำให้เกิดการเบรกกะทันหันจนคันหลังหยุดรถตามไม่ทัน ซึ่งความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ในกรณีที่มีการชนท้ายเกิดขึ้น แล้วผู้ขับขี่มีประกันภัยรถยนต์ จะสามารถตัดสินได้ดังนี้

  • กรณีเป็นฝ่ายผิด เพราะขับรถชนท้ายคันอื่น: ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นผู้ขับขี่ต้องเป็นคนรับผิดชอบโดยพื้นฐาน เว้นแต่ว่าเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยจะดูแลครอบคลุม เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ หรือ 3+ ที่สามารถจัดการค่าซ่อมให้กับรถของคู่กรณีได้
  • กรณีเป็นฝ่ายถูก เพราะรถถูกชนท้าย: ถ้าเรามีหลักฐานชัดเจนว่าเราขับรถเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างไม่ประมาทและปลอดภัยอยู่แล้ว คู่กรณีจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดให้กับเรา โดยประกันรถยนต์ของคู่กรณีจะรับผิดชอบ ให้เราสามารถเข้าซ่อมได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

คำแนะนำเพิ่มเติม: กรณีที่ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดเมื่อเกิดอุบัติเหตุชนท้าย คือ การถูกรถคันอื่นปาดหน้าจนต้องเบรกกะทันหัน, มีการเปลี่ยนเลนกะทันหันจนกระทบคันรอบข้าง และการที่รถของเราถูกชนท้าย จนเคลื่อนไปจนชนคันหน้าต่ออีกทีหนึ่ง

หากไม่สามารถเว้นระยะห่างจากคันหน้าได้ ต้องทำอย่างไร

สถานการณ์ที่มีรถติดจำนวนมาก ถูกรถที่ขับเร็วกว่าขับกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ หรือมีรถคันหน้าขวางอยู่จนไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากกว่าเดิม แล้วต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ดูจะค่อนข้างเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เราเลี่ยงได้ด้วยการแตะเบรกเบา ๆ เพื่อเป็นการชะลอความเร็ว 3 ครั้ง หลังจากนั้นจึงเปิดไฟเลี้ยวเพื่อขอทางหลบให้คันอื่นไปก่อน ส่วนใครที่ต้องการแซง ก็เปิดไฟเลี้ยวพร้อมเร่งความเร็วในจังหวะที่รถโล่ง แล้วแซงแบบเว้นระยะห่างด้วยเช่นกัน

ซึ่งทุกครั้งที่เราขับขี่ แม้เราจะมีสติมั่นคง ขับรถอย่างปลอดภัย เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าอยู่แล้ว เราก็ยังไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีรถคันไหนที่ขับขี่ด้วยความประมาท เข้ามาสร้างความเดือดร้อนจนกลายเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือไม่ ดังนั้นการเลือกทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน จะไม่ทำให้คุณต้องปวดหัวกับปัญหาที่เจออย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเลือกแผนคุ้มครองที่ครอบคลุม ผ่านการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้นนำจาก แรบบิท แคร์ เราพร้อมดูแลช่วยเหลือคุณรอบด้านตลอด 24 ชั่วโมง และรับบริการอย่างเหนือระดับ ด้วยส่วนลดพิเศษสูงสุด 70%, ผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน และรับรองเลยว่าซื้อประกันรถยนต์กับเรา ถูกกว่าซื้อเองแน่นอน

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา