ประกันรถยนต์รายเดือน ทางเลือกใหม่เพื่อความคุ้มครองที่ยืดหยุ่น พร้อมเปรียบเทียบทุกรูปแบบประกัน

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนมองหาตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ความต้องการของตนเองมากขึ้น รวมถึงเรื่องประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน จากเดิมที่คุ้นเคยกับการทำประกันรถยนต์แบบรายปี ปัจจุบันมีทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจอย่าง ประกันรถยนต์รายเดือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามาช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงความคุ้มครองได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว

การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบประกันรถยนต์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่รายเดือนเท่านั้น ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์แบบรายวัน, ประกันรายสัปดาห์, ประกันเปิดปิด, ประกันรถยนต์ตามไมล์ หรือแม้แต่ ประกันรถเติมเงิน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประกันรถยนต์รูปแบบต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานรถยนต์ของคุณมากที่สุด และเลือกประกันรถยนต์ได้อย่างชาญฉลาด

ประกันรถยนต์รายเดือน คือรูปแบบการทำประกันรถยนต์ที่ให้คุณสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันเป็นงวดรายเดือนได้ แทนที่จะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันทั้งหมดในครั้งเดียวเหมือนกับการทำประกันรถยนต์แบบรายปี ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงความคุ้มครองประกันรถยนต์แบบรายเดือนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

• ราคาของประกันรถยนต์รายเดือน โดยทั่วไปแล้ว ราคาของ ประกันรถยนต์แบบรายเดือน จะสูงกว่าราคาของประกันรถยนต์แบบรายปีเล็กน้อย เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันตลอดทั้งปีแล้ว แต่ข้อดีคือ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ราคาเบี้ยประกันรถยนต์แบบรายเดือนจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นรถ ยี่ห้อรถ อายุผู้ขับขี่ ประวัติการขับขี่ และประเภทของความคุ้มครองที่เลือก
• ความแตกต่างจากประกันรายปี ประกันรถยนต์รายเดือนและรายปีมีความแตกต่างกันหลัก ๆ ที่วิธีการชำระเบี้ยประกัน โดยประกันรายปีจะจ่ายครั้งเดียว แต่ประกันรายเดือนจะแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วความคุ้มครองก็จะเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่คุณเลือก

ประกันรถยนต์ชั้น 1 รายเดือน เป็นรูปแบบการทำประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและครบถ้วนมากที่สุด แม้ว่าจะเป็นการชำระค่าเบี้ยประกันแบบรายเดือนก็ตาม โดยทั่วไปแล้วความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์รายเดือนชั้น 1 จะคล้ายกับประกันชั้น 1 แบบรายปี ดังนี้

• ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ หรือลูกเห็บ
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก ครอบคลุมความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ของคุณ
• ความคุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้ หากรถยนต์ของคุณถูกโจรกรรม หรือเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ประกันภัยจะชดเชยค่าเสียหายตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
• ความคุ้มครองเพิ่มเติม บางบริษัทประกันอาจมีบริการเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน หรือค่าเดินทางระหว่างซ่อมรถ

ประกันรถยนต์ 2+ รายเดือน หรือ ประกันรายเดือน 2+ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในระดับหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องครอบคลุมเท่ากับประกันชั้น 1 โดยส่วนใหญ่แล้ว ประกันรถยนต์รายเดือน 2+ จะมีความคุ้มครองดังนี้

• ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ครอบคลุมเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น (ชนกับรถยนต์) หากเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ
• ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
• ความคุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้ (บางกรณี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันฯ ซึ่งบางแห่ง ถ้าต้องการความคุ้มครองในส่วนนี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม ดังนั้น ควรตรวจสอบรายละเอียดให้ดีก่อนทำสัญญาทุกครั้ง

ประกันรถยนต์ 3 รายเดือน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการชำระค่าเบี้ยประกันแบบรายงวด โดยจะแบ่งจ่ายเป็น 3 งวดต่อปี ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้มากกว่าการจ่ายรายปี แต่อาจจะน้อยกว่าการจ่ายรายเดือนโดยทั่วไป โดยความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์ 3 รายเดือน มักจะมีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3+ ซึ่งแตกต่างกันไปตามบริษัทประกันภัย

ความคุ้มครองที่อาจพบได้

• ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก
• ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ประกันรถยนต์รายเดือน ราคาเท่าไหร่

ราคาของ ประกันรถยนต์จ่ายรายเดือน หรือ ซื้อประกันรถยนต์รายเดือน นั้นแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้

• ประเภทของประกัน ประกันรถยนต์จ่ายรายเดือนชั้น 1 จะมีราคาเบี้ยประกันสูงกว่าประกันรถยนต์จ่ายรายเดือนชั้น 2 + และประกันรถยนต์จ่ายรายเดือนชั้น 3+ ตามลำดับ
• รุ่นและยี่ห้อรถ รถยนต์ที่มีราคาสูง หรือรถยนต์รุ่นหายาก จะมีราคาเบี้ยซื้อประกันรถยนต์รายเดือนที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
• อายุและประวัติการขับขี่ของผู้ขับ ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อย หรือมีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้ง อาจมีราคาเบี้ยซื้อประกันรถยนต์รายเดือนที่สูงกว่า
• บริษัทประกัน แต่ละบริษัทประกันมีเกณฑ์การคำนวณเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน ดังนั้นราคาเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทจึงไม่เท่ากัน
• ความคุ้มครองเพิ่มเติม หากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือค่าชดเชยการเดินทางระหว่างซ่อมรถ ราคาเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

การ ต่อประกันรถยนต์รายเดือน ออนไลน์ กับ แรบบิท แคร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย และมีข้อดีมากมายดังนี้

• เปรียบเทียบราคาและแผนประกันได้ง่าย แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อเสนอจากบริษัทประกันภัยชั้นนำมากมาย ให้คุณเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณเลือกต่อประกันรถยนต์รายเดือนที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้มากที่สุด
• สะดวกสบาย รวดเร็ว สามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเลือกซื้อ หรือต่อประกันรถยนต์รายเดือนได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว
• มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ แรบบิท แคร์ ได้ตลอดเวลา
• มีโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ แรบบิท แคร์ มักจะมีโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษต่าง ๆ ให้ลูกค้าเสมอ ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
• การันตีความปลอดภัย แรบบิท แคร์ เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจ และมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ประกันรถยนต์รายวัน หรือ ซื้อประกันรถยนต์แบบรายวัน เป็นรูปแบบการทำประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นครั้งคราว หรือใช้รถเฉพาะกิจ เช่น การเดินทางท่องเที่ยว หรือการยืมรถของผู้อื่นใช้งาน

• ความคุ้มครอง : โดยทั่วไปแล้ว ประกันรถยนต์แบบนี้จะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก แต่ความคุ้มครองอาจจะไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันรถยนต์แบบรายเดือนหรือรายปี
• ราคา : ราคาของ ประกันรถยนต์รายวัน ราคา จะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถยนต์ และความคุ้มครองที่เลือก โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาถูกกว่าการทำประกันภัยรถยนต์แบบรายเดือนหรือรายปีมาก

ตัวอย่างการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ไม่บ่อยนัก หรือใช้รถยนต์เฉพาะกิจ เช่น การเช่ารถยนต์เพื่อเดินทางท่องเที่ยว ระบบประกันรถยนต์แบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกลักษณะความคุ้มครองเองผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทประกันว่า จะเลือกใช้ประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2 + หรือชั้น 3 และเลือกความคุ้มครองตามความต้องการว่าต้องการคุ้มครองเป็นชั่วโมงหรือเดือนกี่ครั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับความคุ้มครองและเงื่อนไขในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามตัวเลือกที่คุณเลือกจากบริษัทประกันที่คุณเลือกทำประกันด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณควรระวังเรื่องประกันรถยนต์รายวัน คือ คุณจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเปิดใช้ประกันเท่านั้น และถ้าคุณลืมเปิดการใช้งานประกันภัยรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ คุณจะไม่ได้รับประโยชน์เหมือนกับการไม่มีประกันรถยนต์ ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากบริษัทประกันได้

ซึ่งในกรณีที่ลืมเปิดความคุ้มครอง หรือประกันรถยนต์หมดอายุ ตามกฎหมายจะยังสามารถเบิกเคลมได้เพียง พรบ. จากรถยนต์ที่ทำเอาไว้ ซึ่งจะสามารถเบิกเคลมค่าเสียหายเบื้องต้นได้จำนวนนึงเท่านั้น ซึ่งเสี่ยงไม่ครอบคลุมค่าเสียหายทั้งหมด

การ ซื้อประกันรถยนต์รายวันออนไลน์ กับ แรบบิท แคร์ ก็มีข้อดีไม่ต่างจากการซื้อประกันรถยนต์รายเดือนเลย

• ความสะดวกสบาย ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
• เปรียบเทียบราคา สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทประกันได้
• หลากหลายตัวเลือก มีแผนประกันหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ
• รวดเร็ว ทำรายการได้ง่าย จ่ายเงินและรับความคุ้มครองได้ทันที
• บริการหลังการขาย มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ

ประกันรถรายสัปดาห์ หรือ ประกันรถรายอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในระยะเวลาที่สั้นกว่าประกันรายเดือน แต่ยาวนานกว่าประกันรายวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นครั้งคราวในแต่ละสัปดาห์ หรือต้องการความคุ้มครองในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

• ลักษณะการใช้งาน : เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ทุกวัน แต่มีแผนการใช้รถในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้ประกันรถยนต์ระยะสั้นก่อนตัดสินใจทำประกันระยะยาว
• ความคุ้มครอง : ความคุ้มครองของประกันรถแบบนี้มักจะคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3+ แต่จะให้ความคุ้มครองในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น
• ราคา : โดยทั่วไปแล้วราคาของประกันรถรายอาทิตย์จะสูงกว่าประกันรายวัน แต่ถูกกว่าประกันรายเดือน

ประกันเปิดปิด หรือ ประกันรถเปิดปิด หรือ ประกันภัยรถยนต์เปิดปิด หรือ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด หรือ ประกันแบบเปิดปิด หรือ ประกันปิดเปิด เป็นรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะในช่วงเวลาที่คุณต้องการใช้งานรถยนต์จริง ๆ เท่านั้น โดยคุณสามารถเปิดหรือปิดความคุ้มครองได้ตามความต้องการ หากจอดรถหรือปิดความคุ้มครองก็ไม่ต้องชำระค่าเบี้ยประกัน คุณสามารถเลือกทำประกันแบบนี้ได้ทั้งแบบประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันภัย2+ และประกันรถยนต์ 3+ ได้ และยังสามารถเลือกระยะเวลาความคุ้มครองได้ตามต้องการ ทั้งแบบ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือนด้วย

• หลักการทำงาน : ประกันแบบนี้จะคิดค่าเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่คุณเปิดใช้งานความคุ้มครองเท่านั้น เมื่อไม่ได้ใช้งานก็ไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกัน ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
• เหมาะสำหรับใคร : เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยนัก หรือผู้ที่มีรถยนต์หลายคัน และไม่ได้ใช้งานทุกคันในเวลาเดียวกัน
• ความคุ้มครอง : ความคุ้มครองของประกันแบบนี้ มักจะมีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3+ แต่จะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า

สรุปแล้ว ประกันเปิดปิดคืออะไร? สรุปง่าย ๆ คือ ประกันที่สามารถเปิดปิดความคุ้มครองได้ตามการใช้งานจริง ทำให้ผู้ใช้จ่ายเบี้ยประกันเฉพาะช่วงที่ต้องการใช้งานรถยนต์เท่านั้น โดยรูปแบบประกันที่ออกแบบมาให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความคุ้มครองได้ด้วยตัวเองนั่นเอง

ประกันตามไมล์ หรือ ประกันรถยนต์ตามไมล์ หรือ ประกันตามไมล์คือ เป็นรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่คิดค่าเบี้ยประกันตามระยะทางที่คุณขับรถจริง หากคุณขับรถน้อย คุณก็จะเสียค่าเบี้ยประกันน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ไม่บ่อยนัก ประกันรถยนต์แบบนี้จะให้ความคุ้มครองเหมือนประกันรถยนต์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2 + หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ราคาถูก แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกระยะทางที่ต้องการให้ประกันคุ้มครองได้นั่นเอง

• หลักการทำงาน : ประกันรถยนต์ตามไมล์จะติดตั้งอุปกรณ์ติดตามระยะทางในรถยนต์ของคุณ จากนั้นจะคำนวณค่าเบี้ยประกันตามระยะทางที่คุณขับจริง
• เหมาะสำหรับใคร : เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ไม่บ่อยนัก หรือผู้ที่ใช้รถยนต์เฉพาะในระยะทางใกล้ๆ เท่านั้น
• ความคุ้มครอง : ความคุ้มครองของประกันแบบนี้ มักจะมีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3+ แต่จะคิดค่าเบี้ยประกันตามการใช้งานจริง

ตัวอย่างการใช้งาน เหมาะกับผู้ที่ใช้รถยนต์เฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือผู้ที่ทำงานใกล้บ้าน และไม่ได้ขับรถยนต์เป็นประจำ

ประกันรถแบบเติมเงิน เป็นอีกรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยคุณสามารถเติมเงินเข้าบัญชีประกันภัยได้ตามต้องการ เมื่อคุณต้องการความคุ้มครอง ก็จะถูกหักค่าเบี้ยประกันจากบัญชีนั้น

• หลักการทำงาน : คล้ายกับบัตรเติมเงิน เมื่อคุณเติมเงินเข้าบัญชีประกันภัย ความคุ้มครองจะเริ่มทำงานตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
• เหมาะสำหรับใคร : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยรถยนต์ หรือผู้ที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยนัก
• ความคุ้มครอง : ความคุ้มครองของประกันรถเติมเงิน มักจะมีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3+ แต่จะมีความยืดหยุ่นในการจ่ายค่าเบี้ยประกันมากกว่า

การเลือกทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันมีรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่หลากหลายให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์รายเดือน, ประกันรถยนต์รายวัน, ประกันรายสัปดาห์, ประกันเปิดปิด, ประกันตามไมล์ หรือ ประกันรถแบบเติมเงิน โดยรวมแล้ว ประกันรถยนต์เหล่านี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์เป็นประจำ หรือใช้รถยนต์เฉพาะช่วงระยะเวลาเท่านั้น หมดปัญหาเรื่องต้องคอยต่อประกันรถยนต์ หรือจ่ายเงินค่าประกันรถยนต์เกินความจำเป็น ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป

ทั้งนี้ การทำความเข้าใจในรายละเอียดของแต่ละรูปแบบ จะช่วยให้คุณเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด และช่วยให้คุณขับขี่รถยนต์ได้อย่างอุ่นใจได้มากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะเลือกทำประกันรถยนต์ประเภทไหน Rabbit Care ก็พร้อมให้บริการ เรียกว่าเป็นศูนย์รวมประกันรถยนต์แบบครบวงจรเลยก็ว่าได้ เรามีประกันให้เลือกหลายรูปแบบ จะเป็นประกันรถยนต์รายเดือน ประกันรายปี ก็คุ้มค่าไม่แพ้กัน เพราะเรามาพร้อมเบี้ยประกันสุดถูก และข้อเสนอดี ๆ แบบจัดเต็ม โปรแรงรับต้นปี! ทำประกันรถยนต์วันนี้ ประหยัดสูงสุด 70% ถูกกว่าซื้อตรงแน่นอน แถมยังผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน นอกจากนี้ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน บริการช่วยเหลือแจ้งเคลม เคลมง่าย ๆ ผ่าน LINE Official Account และยังมีรถให้ใช้ระหว่างรอซ่อมด้วย ทั้งสะดวก ทั้งคุ้มค่า มีแค่ที่นี่ที่เดียว