Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

หมายเลขบัตรเครดิตดูตรงไหน สำคัญอย่างไร? เข้าใจได้ใน 5 นาที

หมายเลขบัตรเครดิต หรือที่หลายคนเรียกว่า “เลขบัตรเครดิต” คือชุดตัวเลขที่ระบุถึงตัวตนของบัตรนั้นๆ โดยเลขนี้จะถูกฝังอยู่บนบัตรพลาสติกที่ธนาคารออกให้แก่ผู้ถือบัตร ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยตัวเลข 16 หลัก ที่มีโครงสร้างเฉพาะและไม่ซ้ำกันในแต่ละใบ

เลขบัตรเครดิตมีกี่ตัว?

เลขบัตรเครดิตส่วนใหญ่มีทั้งหมด 16 หลัก แบ่งออกเป็น 4 ชุด ชุดละ 4 ตัว เช่น 1234-5678-9012-3456 ซึ่งมีความหมายดังนี้

 

หลักที่

ความหมาย

1-6

ระบุผู้ให้บริการบัตร เช่น Visa (4), MasterCard (5)

7-15

หมายเลขบัญชีเฉพาะของผู้ถือบัตร

16

ตัวเลขตรวจสอบ (Check digit) ตาม Luhn Algorithm

 

ความแตกต่างของจำนวนตัวเลขในแต่ละธนาคาร

บางบัตรอาจมี 13, 15, หรือ 19 หลัก ขึ้นอยู่กับระบบของธนาคารผู้ออกบัตร ตัวอย่างเช่น

  • American Express: 15 หลัก
  • Visa: โดยทั่วไป 16 หลัก
  • Discover: บางใบอาจมี 19 หลัก

หมายเลขบัตรเครดิต ดูตรงไหน?

ตำแหน่งของเลขบัตรบนบัตรจริง

  • ด้านหน้าบัตร พิมพ์หรือปั๊มนูนเป็นเลขบัตรเครดิต 16 หลัก
  • เลขบัตรเครดิตจะอยู่ใกล้ชื่อเจ้าของบัตร จะอยู่ใต้หรืออยู่เหนือชื่อก็ได้

วิธีดูผ่านแอปธนาคาร

  • เข้าสู่ระบบแอป
  • ไปที่เมนู "บัตรเครดิต"
  • คลิก “แสดงหมายเลขบัตร” ซึ่งต้องยืนยันตัวตนก่อน เช่น สแกนใบหน้า, กรอกรหัส OTP

ความสำคัญของเลขบัตรเครดิต

การยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม

หมายเลขบัตรเครดิตทำหน้าที่เป็น “กุญแจ” สำหรับการเข้าถึงวงเงินของ
ผู้ถือบัตร โดยเฉพาะเมื่อทำรายการ

  • ช้อปออนไลน์
  • จองโรงแรม, จองตั๋วเครื่องบิน
  • สมัครสมาชิกออนไลน์

ความสัมพันธ์กับ CVV และวันหมดอายุ

  • CVV (Card Verification Value): ตัวเลข 3 หลักด้านหลังบัตร
  • วันหมดอายุ: ใช้ร่วมกับหมายเลขบัตรเพื่อยืนยันตัวตนในการชำระเงิน

การรักษาความปลอดภัยของหมายเลขบัตรเครดิต

วิธีเก็บรักษาไม่ให้ถูกขโมย

  • อย่าเขียนเลขบัตรไว้ในที่สาธารณะ
  • ใช้บริการธนาคารออนไลน์ที่มีระบบความปลอดภัยสูง
  • ไม่ส่งหมายเลขบัตรทางแชทหรืออีเมล

ตัวอย่างพฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ถ่ายรูปบัตรแล้วโพสต์ลงโซเชียล
  • ให้ข้อมูลบัตรกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • ใช้ Wi-Fi สาธารณะทำธุรกรรมออนไลน์

ประเภทของบัตรที่แตกต่างกัน

ประเภทบัตร

ตัวเลขเริ่มต้น

จำนวนหลัก

Visa

4

13 หรือ 16

MasterCard

5

16

American Express

34 หรือ 37

15

Discover

6

16

JCB

35

16

 

ทำไมเลขบัตรเครดิตถึงสำคัญต่อการช้อปออนไลน์?


การยืนยันรายการสั่งซื้อ

เมื่อซื้อของออนไลน์ ระบบจะต้องการข้อมูลที่แน่นอน 3 อย่างคือ 

  • หมายเลขบัตรเครดิต
  • วันหมดอายุ
  • รหัส CVV 

หากไม่มีหมายเลขบัตรเครดิต ระบบจะไม่สามารถหักเงินหรืออนุมัติคำสั่งซื้อได้


การป้องกันการโกงในระบบ e-commerce

เว็บไซต์ e-commerce ชั้นนำทั่วโลกอย่าง Shopee, Lazada, Amazon และอื่นๆ มีระบบตรวจสอบเลขบัตรตามหลัก Luhn พร้อมทั้งการยืนยันแบบ 2 ชั้น (2FA) เช่น OTP เพื่อป้องกันการโกงจากมิจฉาชีพ

สิ่งที่ไม่ควรทำกับเลขบัตรเครดิตของคุณ

  • แชร์ภาพบัตรในโซเชียลมีเดีย
    แม้เพียงแชร์ภาพที่เห็นเพียงบางส่วนของเลขบัตร ก็อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลได้โดยง่าย
  • กรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูล หรือไม่มีรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยเฉพาะเว็บใหม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับหน่วยงานความปลอดภัยออนไลน์

วิธีจัดการเมื่อเลขบัตรถูกขโมยหรือข้อมูลรั่วไหล

ขั้นตอนการแจ้งธนาคาร

  • โทรแจ้ง Call Center ของธนาคารทันที
  • ขออายัดบัตรและรายการธุรกรรม
  • ขอออกบัตรใหม่
  • เปลี่ยนรหัสผ่านในแอปธนาคาร

การอายัดและออกบัตรใหม่

ธนาคารส่วนใหญ่ออกบัตรใหม่ภายใน 7-14 วันทำการ และไม่มีค่าใช้จ่าย หากมีหลักฐานว่ามีการโจรกรรมหรือรั่วไหลของข้อมูล

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางการเงิน

พฤติกรรมที่ปลอดภัยในการใช้บัตร

  • ไม่เปิดเผยเลขบัตรกับผู้อื่น
  • ใช้แอปที่มีระบบป้องกันการบันทึกหน้าจอ
  • ตรวจสอบใบแจ้งยอดทุกเดือน

เทคนิคป้องกันการโจรกรรมข้อมูล

  • ใช้บัตรเสมือน (Virtual Card) สำหรับชำระเงินออนไลน์
  • เปลี่ยนรหัส PIN และรหัสแอปเป็นประจำ
  • เปิดการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการใช้บัตร

สรุปเกี่ยวกับเลขบัตรเครดิตที่คุณควรรู้

สาระสำคัญแบบสั้นกระชับ

  • หมายเลขบัตรเครดิตคือชุดตัวเลขที่ใช้ในการยืนยันและทำธุรกรรม จึงจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ
  • โดยทั่วไปมี 16 หลัก และตำแหน่งเลขจะอยู่ด้านหน้าบัตร
  • ควรเก็บรักษาอย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเปิดเผยในที่สาธารณะ เพราะหากหลุดไปจะเสี่ยงต่อการถูกขโมยเงินจากบัตร

สิ่งที่ควรจดจำเพื่อใช้ให้ปลอดภัย

  • อย่าถ่ายรูปหรือแชร์หมายเลขบัตร เพราะแค่เลขบัตร 16 หลัก พร้อมวันหมดอายุและรหัส CVV ด้านหลัง ก็เพียงพอให้มิจฉาชีพนำไปใช้ซื้อของออนไลน์ได้ทันที แม้ไม่ได้ถือบัตรจริง
  • ตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนกรอกข้อมูล ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์นั้นปลอดภัย มีระบบการเข้ารหัส (https://) และเป็นเว็บไซต์ทางการของร้านค้าเท่านั้น
  • แจ้งธนาคารทันทีเมื่อสงสัยว่าข้อมูลรั่วไหล เพื่อระงับบัตร ป้องกันความเสียหาย และอาจขอออกบัตรใหม่พร้อมตรวจสอบรายการย้อนหลัง

เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับคุณ

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา