การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร?
สำหรับใครที่ขับรถเป็นประจำทุกวัน จะทราบดีว่า วิวัฒนาการของรถยนต์ ในสมัยก่อนจะมีแต่เกียร์กระปุก และได้มีการพัฒนามาเป็นเกียร์ออโต้ในปัจจุบัน ซึ่งรถยนต์หลายยี่ห้อในปัจจุบันก็เปลี่ยนมาเป็นเกียร์ออโต้กันหมดแล้ว ทำให้หลายคนที่ไม่ค่อยคุ้นชินก็มักจะไปเรียนการขับเกียร์ออโต้จากโรงเรียนสอนขับรถ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับเกียร์ออโต้ ว่ามันคืออะไร ใช้งานอย่างไร มีวิธีการขับอย่างไรให้ปลอดภัยเพื่อที่จะสามารถใช้ระบบเกียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน รวมถึงการเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร? พร้อมบอกความหมายของสัญลักษณ์บนเกียร์แต่ละตัว ไปดูกันเลย!!
เกียร์ออโต้ คืออะไรและใช้งานอย่างไร?
เกียร์ออโต้ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าเกียร์อัตโนมัติ คือระบบขับเคลื่อนรถยนต์ ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ เพียงแต่โยกคันเกียร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นรถยนต์ก็จะสามารถทำตามคำสั่งของระบบได้ เช่นถ้าเลื่อนไปยังตัว R รถยนต์ก็จะทำงานถอยหลังให้ เป็นต้น รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่มีแป้นเหยียบคลัตช์อีกต่อไป เพราะมีการพัฒนามาเป็นเกียร์ออโต้
ซึ่งเกียร์ออโต้มีการพัฒนาและออกแบบมาให้มีการใช้งานที่สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ผู้ที่ไม่ชำนาญในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือก็สามารถขับได้อย่างตอบโจทย์ นอกจากนี้ระบบนี้ยังช่วยลดปัญหารถไหล รถดับได้อีก เพราะไม่จำเป็นต้องประคองคลัตช์กับคันเร่งอีกต่อไป ทำให้การขับรถเป็นเรื่องที่ง่ายและราบรื่นมากขึ้น
สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อใช้เกียร์ออโต้?
หลายคนอาจไม่ชินกับการใช้งานเกียร์ออโต้ ทำให้อาจเผลอมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดไป ทำให้เกียร์อาจพังเร็ว อาจทำให้ต้องเสียค่าซ่อมที่แพงขึ้น ดังนั้น แรบบิท แคร์ จะมาบอกวิธีถนอมเกียร์ นั่นก็คือสิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อใช้งานเกียร์ออโต้ มีดังนี้
1. เข้าเกียร์แต่ไม่เหยียบเบรก
ตามหลักการที่ถูกต้อง การเข้าเกียร์อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเดินหน้า (D) หรือถอยหลัง (R) ผู้ขับขี่จะต้องเหยียบเบรกก่อนทุกครั้งก่อนดันเกียร์ไปยังตำแหน่งหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพราะหากคุณเข้าเกียร์ โดยที่รถอยู่นิ่ง ๆ จะทำให้รถเกิดอาการกระตุก มีโอกาสรถไหลไปชนรถคันอื่นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ และระบบการทำงานของเกียร์สึกหรอลง ทำให้มีอายุการใช้งานที่สั้นลง
2. เข้าเกียร์ว่างแต่รถยังไม่หยุดนิ่ง
เกียร์ว่าง หรือ “N” ผู้ขับขี่ทุกคนจำเป็นต้องทราบว่าก่อนดันไปที่ตัว N รถต้องหยุดสนิทก่อน เพราะมีความเชื่อที่ผิด ๆ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดไปนั่นก็คือ การเข้าเกียร์ว่างในขณะที่รถกำลังไหลอยู่ จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น แถมยังทำให้ระบบเกียร์เกิดความเสียหายและพังเร็วกว่าเดิมอีกต่างหาก ทำให้ชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับระบบตัดต่อกำลังของเกียร์อย่าง ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้หากคุณเปลี่ยนมาตัว D และเหยียบคันเร่งเร็วขึ้น ก็จะทำให้ระบบเกียร์เสียเร็วกว่าเดิม
3. คิกดาวน์อย่างรวดเร็ว
การคิกดาวน์ คือ การเหยียบคันเร่งให้สุดเพื่อให้รถวิ่งได้เร็ว มักใช้ในกรณีที่จะแซงรถคันอื่น หรือเวลาขึ้นเขาหรือทางลาดชัน อ้างอิงจาก โตโยต้า ลีสซิ่ง หากออกรถด้วยการเร่งเครื่องแบบกระชาก ชุดฟันเฟืองต่าง ๆ จะเกิดการเสียหายเนื่องจจากการเสียดสี นอกจากนี้ลากรอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้น ความร้อนก็ยังมีการสะสมที่เพิ่มขึ้นกว่าปกติ ทำให้เครื่องยนต์พังเร็วกว่าปกติ
เวลารถติด ควรเข้าเกียร์อะไร?
สำหรับบางคนอาจจะมีความหงุดหงิดใจบ้างเล็กน้อยเวลารถติดนาน ๆ พฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็เข้าเกียร์ D ปกติและเหยียบเบรกไว้ แต่บางคนมักจะเข้าเกียร์ N หรือ P แล้วที่ถูกต้องมันควรเป็นอย่างไรกันแน่ รวมถึงการตอบข้อสงสัยว่าการเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร? แรบบิท แคร์ มีสาระดีดีมาฝาก
หากรถติดไม่เกิน 30 วินาที
หากรถติดไฟแดง เช่น บริเวณแยกบนท้องถนน แต่ระยะเวลาการติดไม่นานมาก ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ไปที่ตัว N (เกียร์ว่าง) สามารถใช้เกียร์ D (เดินหน้า) ได้เลย และเหยียบเบรกไว้เพื่อไม่ให้รถไหลไปชนท้ายคันข้างหน้า
รถติดเกินกว่า 30 วินาที
หลายแยกหรือหลายพื้นที่บนถนนของประเทศไทย ไฟแดงมักจะนาน เริ่มตั้งแต่ 30-180 วินาที ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ทราบแล้วว่าจะต้องติดนานหลายนาที แรบบิท แคร์ แนะนำให้คุณเปลี่ยนเกียร์ไปยังตัว N พร้อมกับการเหยียบเบรกไว้ตลอดเวลา และอย่าลืมดึงเบรกมือขึ้นด้วย เนื่องจากถ้าคุณเข้าเกียร์ว่าง รถยนต์จะนิ่งและไม่พุ่งไปข้างหน้า ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าการใช้เกียร์ D เพราะถ้ารถติดนาน ๆ ขาของคุณอาจล้าและทำให้เผลอปล่อยเบรกได้ ทำให้รถพุ่งไปชนคันข้างหน้า อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวรถยนต์ ตัวผู้ขับขี่อีกด้วย
แต่ถึงแม้รถจะติดแค่ไหน ก็ไม่ควรเข้าเกียร์ P เนื่องจากลักษณะการทำงานจะมีตัวกระเดื่องเข้ามาล็อกกับเฟืองท้าย ทำให้ล้อไม่เคลื่อน ดังนั้นหากเกิดอุบัติเหตุหรือรถคันข้างหลังมาชนท้าย ก็จะเพิ่มโอกาสทำให้ฟันเฟืองเกิดการเสียหายมากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า เกียร์ออโต้ตัว P มีไว้สำหรับจอดรถ ไม่ใช่จอดชั่วคราวขณะรถติด
ตัวอักษร P,R,N,D หมายถึงอะไร?
สำหรับเกียร์ออโต้ จะมีตัวอักษรอยู่ทั้ง 4 ตัว ได้แก่ P, R, N, D ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องเข้าใจและคุ้นเคยในการใช้งานมาก่อนเพื่อให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการเข้าเกียร์ผิดพลาด ซึ่งแต่ละตัวมีความหมายและมีวิธีการใช้งานที่แตงต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. P (Parking)
ตำแหน่งตัว P ผู้ขับขี่มักจะใช้เมื่อจอดรถยนต์เพื่อแวะสถานที่ต่าง ๆ โดยรถยนต์จะหยุดนิ่งและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หากเข้าซองก็ควรเข้าเกียร์ P แต่ถ้าจอดขวางไม่แนะนำ เพราะทำให้คนอื่นไม่สามารถเข็นหรือขยับรถของคุณได้
2. R (Reverse)
ตำแหน่งตัว R ผู้ขับขี่มักจะใช้เมื่อต้องการถอยหลัง เมื่อได้รับคำสั่งนี้แล้ว ล้อจะมีการหมุนถอยหลังโดยมีแรงส่งมาจากเครื่องเล็กน้อย แต่ถ้าหากทางเนินหรือลาดชัน หรือต้องการให้รถถอยเร็วขึ้น สามารถเหยียบคันเร่งเบา ๆ เพื่อเป็นการเสริมแรงทำให้รถถอยเร็วขึ้นได้
3. N (Neutral)
ตำแหน่งตัว N ผู้ขับขี่มักจะใช้เมื่อไม่ต้องการให้รถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ส่วนมากมักใช้ในกรณีรถติดบนถนน หรือจอดรถขวางอย่างไรก็ตามการเข้าเกียร์ N ก็มักจะต้องเหยียบเบรกไว้เสมอ เพราะบางครั้งรถอาจจะไหลไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ อาจทำให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้
4. D (Drive)
ตำแหน่งตัว N ผู้ขับขี่มักจะใช้เมื่อต้องการให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยสามารถควบคุมอัตราความเร็วของรถได้โดยการเหยียบคันเร่ง
วิธีขับเกียร์ออโต้ ถอยหลังยังไงให้ปลอดภัย?
เพื่อเป็นการไม่ให้เกียร์ออโต้พังง่าย พังเร็ว และยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ดังนั้นวิธีการเข้าตัว R อย่างปลอดภัย ในขั้นตอนแรกผู้ขับขี่ต้องย้ายเท้ามาเหยียบที่เบรกก่อนที่จะทำการดึงคันเกียร์ไปที่ตัว R หากพร้อมแล้วจึงค่อยปล่อยเบรก แต่ต้องมั่นใจก่อนว่าข้างหลังเป็นทางโล่ง ไม่มีรถคันอื่นและสิ่งกีดขวาง แต่หากต้องการเร่งความเร็ว แนะนำให้เหยียบเบรกอย่างช้า ๆ ไม่อย่างนั้นจะทำให้รถไกลเร็วเกินไป อาจทำให้ควบคุมพวงมาลัยไม่ได้
รถยังไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนจากเกียร์ D เป็น R ได้ไหม?
ในระหว่างที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ถึงแม้จะไม่ได้เร็วมาก แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตัว R ควรให้รถหยุดนิ่งเสียก่อน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ตามมาคือผู้ขับขี่จะได้ยินเสียงกึ๊ก ซึ่งมาจากการที่ฟันเฟืองของเกียร์ออโต้จะขัดกัน ทำให้ระบบพังเร็วกว่าเดิม
รถมือสองเกียร์พังง่ายหรือเปล่า?
หลายคนมีความเชื่อว่าซื้อรถยนต์มือสองมาใช้ ระบบเกียร์ออโต้จะพังง่ายหรือไม่ จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะพฤติกรรมการขับขี่ของเจ้าของรถคันก่อน แรบบิท แคร์ แนะนำให้คุณซื้อจากเต็นท์รถที่น่าเชื่อถือ เพราะจะมีการทำธุรกรรมที่ตรวจสอบได้ มีแหล่งที่มา เพราะก่อนรับรถมา เต็นท์รถส่วนใหญ่จะมีการตรวจสอบสภาพรถก่อนซื้อมาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแนะนำให้ตรวจสอบประวัติการซ่อม การเข้าศูนย์กับศูนย์บริการนั้น ๆ หากเป็นรถที่ไม่เกิน 10 ปีและยังมีประกัน เจ้าของรถก็สามารถเช็กระยะกับศูนย์ได้ แต่ถ้ารถมีระยะเวลานาน เป็นรถรุ่นเก่า อาจจะตรวจสอบได้ยากเพราะเจ้าของรถอาจซ่อมกับอู่ข้างนอก
หากรถยนต์ของคุณเกิดอุบัติเหตุ เช่นรถไปชน เนื่องจากเกียร์หลุดหรือเกียร์ค้างประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจะให้ความคุ้มครอง ดังนั้นอย่าลังเลที่จะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก แรบบิท แคร์ เพราะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเกิดเหตุวันและเวลาไหนก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีบริการรถเช่าสำรอง 3 วัน หากรถต้องเข้าศูนย์เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ และยังมีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศ และถ้าหากขับดีไม่มีเคลม เบี้ยประกันปีหน้าลดสูงสุด 70% หากสนใจโทรเลย 1438
ความคุ้มครองประกันรถยนต์