Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info
🎵 เดือน 10 นี้!! Rabbit Care แจกลำโพง Marshall Emberton 2 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 13,490 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳
รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับกองทุนรวม พร้อมคำตอบให้คลายสงสัย

หากใครเป็นวัยสร้างตัวมีค่าใช้จ่ายสูงอยากมีรายได้จากการลงทุน แรบบิท แคร์ ขอนำเสนอ "กองทุนรวม" (Mutual Fund) ตัวช่วยที่จะสร้างกำไรให้กับคุณในฐานะรายได้เสริมจากอาชีพประจำ ต้องบอกเลยว่าการเล่นกองทุนรวมไม่ยากอย่างที่คิดถ้าคุณเข้าใจกลไกของระบบ หากคุณเลือกเล่นได้อย่างชาญฉลาดก็จะสร้างกำไรให้กับคุณได้ สำหรับผู้ที่สนใจอยากลงทุน เราจะมาอธิบายพื้นฐานให้ได้ทราบรวมถึงสิ่งที่คุณควรรู้ในบทความนี้

กองทุนรวมคืออะไร แตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ อย่างไร ?

แรบบิท แคร์ ขอสรุปรายละเอียดกองทุนรวมโดยอ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไว้ดังนี้ กองทุนรวมคือ การระดมทุนจากผู้ลงทุนหลายรายจนเป็นเงินก้อนใหญ่ โดยให้ทางผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทหลักทรัพย์มาจัดการกองทุนดังกล่าว พร้อมกับนำไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านลงทุนก็จะรับผิดชอบนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ตามนโยบายหรือข้อตกลงที่ได้ทำสัญญากันไว้ ผู้ลงทุนแต่ละรายจะได้รับหน่วยลงทุน (Unit Trust) ซึ่งจะเป็นหลักฐานว่าแต่ละนักลงทุนย่อยได้ใช้เงินลงทุนไปเท่าไหร่ เมื่อการลงทุนได้ผลกำไรกลับมาทางบริษัทที่จัดการกองทุนก็จะเฉลี่ยผลตอบแทนคืนตามสัดส่วนที่แต่ละรายได้ลงทุนไป หรือมีการปันผล(กองทุนรวมปันผล) ให้กับผู้ซื้อ

กองทุนรวมเหมาะสำหรับผู้ที่อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ทางตลาดหรือไม่มีเวลาติดตามตลาด รวมไปถึงผู้ที่มีเงินทุนไม่มากแต่อยากลองลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากทางบริษัทจัดการกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยดูแลกองทุนของคุณให้ ส่วนข้อดีของกองทุนรวมนั้นจะมีนโยบายกองทุนให้คุณได้เลือกอย่างหลากหลายตามเป้าหมายของตนเอง สามารถลงทุนได้แม้มีเงินทุนน้อย มีความเสี่ยงต่ำเพราะมีมืออาชีพคอยบริหารจัดการให้ อีกทั้งยังได้การงดเว้นภาษีหากลงทุนในกองทุน SSF และ RMF

กองทุนรวมมีอะไรบ้าง?

ในปัจจุบันมีกองทุนรวมให้คุณเลือกดังนี้

1. กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)

เป็นกองทุนระยะสั้น มุ่งเน้นลงทุนในส่วนเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีและมีอายุต่ำกว่า 1 ปี กองทุนรวมประเภทนี้มีความเสี่ยงต่ำแต่ก็ได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างน้อย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดลงทุนหรือเป็นที่พักเงินชั่วคราว

2. กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)

เป็นการลงทุนเกี่ยวกับตราสารหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน ตั๋วเงินคลัง และหุ้นกู้ของภาคเอกชน ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ย กองทุนรวมประเภทนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่

3. กองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนตราสารทุน (Equity Fund)

เป็นการลงทุนในที่เน้นหุ้น เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบริษัท ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นเป็นต้น กองทุนรวมประเภทนี้มักจะเป็นกองทุนรวมปันผลให้กับผู้ลงทุน แต่มีความเสี่ยงสูงเพราะหุ้นค่อนข้างผันผวนแต่ก็มีโอกาสได้รับกำไรสูงกลับมาด้วย จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีทุนหนา สามารถลงทุนระยะยาวได้ และรับความเสี่ยงสูงได้

4. กองทุนรวมผสม (Mixed Fund)

เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้น รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ โดยจะได้รับผลตอบแทนตามสัดส่วนที่ลงทุนไว้ในแต่ละแบบ โดยขึ้นอยู่กับรายละเอียดภายในกองทุนว่าจะเน้นลงสินทรัพย์แต่ละแบบในอัตราส่วนเท่าไหร่ เหมาะกับผู้ที่ลงทุนในระดับความเสี่ยงปานกลาง

5. กองทุนรวมต่างประเทศ (Foreign Investment Fund)

เป็นกองทุนที่ทำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเปิดรับโอกาสทำกำไรที่นอกเหนือจากภายในประเทศ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงจากตลาดอันผันผวนของประเทศต่าง ๆ เช่นกัน

6. กองทุนรวม RMF (Retirement Mutual Fund)

เป็นการลงทุนเพื่อการเลี้ยงชีพในระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ มีจุดเด่นคือลดหย่อนภาษีได้ โดยจะต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี และถอนได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปี โดยจะลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลายอย่างการลงทุนตลาดเงิน การลงทุนหุ้น การลงทุนตราสารหนี้ เป็นต้น

7. กองทุนรวม SSF (Super Savings Fund)

เป็นการลงทุนเพื่อการออมระยะยาว สามารถลดหย่อนภาษีได้ เมื่อซื้อแล้วต้องรอให้ครบ 10 ปี ถึงจะถอนได้ โดยจะลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลายอย่างการลงทุนตลาดเงิน การลงทุนหุ้น การลงทุนตราสารหนี้ เป็นต้น

8. กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment)

เป็นการลงทุนเกี่ยวกันอสังหาฯ ทองคำ น้ำมันดิบ ฯลฯ ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เพราะสินทรัพย์พวกนี้มักผันผวนตามตลาดโลก

กองทุนรวมได้ผลตอบแทนอย่างไร?

ผู้ที่ลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นกำไรตามมูลค่าหน่วยลงทุน (Capital Gain) ซึ่งจะได้เมื่อขายกองทุนที่ผู้ลงทุนถือครอง หากคุณซื้อกองทุนมาถูกแต่ขายได้ราคาแพงกว่าเดิม ส่วนต่างก็จะเป็นกำไรตอบแทนให้กับคุณ นอกจากนี้กองทุนรวมบางประเภทที่เป็นกองทุนรวมปันผลจะมีนโยบายจ่ายเงินปันผล (Dividend) ให้กับผู้ลงทุน โดยจะจ่ายตามราคาหน่วยที่ได้ลงทุนไว้และจ่ายเมื่อกองทุนรวมของเรามีกำไรจากการลงทุน ส่วนกองทุนรวมแบบ RTF และ RMF นั้นก็จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีตามกฎหมาย ซึ่งนับเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนด้วย

กองทุนรวมขายได้ตอนไหน?

สำหรับใครที่สงสัยว่ากองทุนรวมถอนได้ตอนไหน เราบอกเลยว่าผู้ลงทุนสามารถถอนหรือขายกองทุนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยสามารถไปติดต่อกับธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เราใช้บริการ พร้อมนำสมุดกองทุนแล้วแจ้งว่าต้องการขายกองทุน หรือวิธีง่าย ๆ และสะดวกคุณสามารถถอนกองทุนผ่าน Application และเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์ได้

ทั้งนี้กองทุนบางตัวจะมีเวลาขายกำหนดไว้ หากขายไม่ทันวันนั้นทางบริษัทก็จะขายให้ในวันถัดไป ส่วนการรับเงินคืนจะขึ้นกับนโยบายของทางบริษัท ซึ่งอาจใช้เวลา 1 วันถึง 1 สัปดาห์ ตามรายละเอียดที่ต่างกันออกไป การคืนเงินจะคืนผ่านบัญชีธนาคารที่เราแจ้งข้อมูลไป

กองทุนรวมเสียภาษีอย่างไร?

ตามข้อมูลของกรมสรรพากรที่ว่าด้วยการเสียภาษีของกองทุนรวมนั้นชี้แจงว่า กองทุนรวมจัดเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายจึงต้องเสียภาษีเงินได้แบบนิติบุคคล และหากเป็นกองทุนรวมปันผลก็จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย โดยแบ่งอัตราดังนี้

• เงินปันผล

สำหรับในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคลจะต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10% สำหรับในส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะต้องถูกหัก ณ ที่จ่าย 10%

• กำไรจากการขายกองทุน

ในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สำหรับในส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้น

กองทุนรวมลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?

แม้ว่ากองทุนรวมจะต้องถูกหักภาษีไปในอัตราที่แจ้งดังข้อด้านบน เช่น กองทุนรวมปันผล แต่ก็มีกองทุนที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีนั้นก็คือกองทุนรวม SSF และ RMF ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ตามรายละเอียดดังนี้

• กองทุนรวม SSF

สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ ลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

• กองทุนรวม RMF

สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ และเมื่อรวมกับการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

อยากซื้อกองทุนรวมจะต้องทำอย่างไร?

ผู้ลงทุนสามารถเปิดพอร์ตลงทุนกับทางธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ผู้ให้บริการได้ผ่านเว็บไซต์หรือ Application หรือหากคุณยังไม่มั่นใจว่าจะเปิดพอร์ตลงทุนกับบริษัทไหนดี เราแนะนำให้คุณเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ RHB Securities เพราะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือจากประเทศมาเลเซีย ได้การรับรองจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง คุณสามารถเปิดบัญชีครั้งแรกง่าย ๆ เพียงครั้งเดียวก็สามารถเลือกลงทุนสินทรัพย์ได้มากถึง 18 บริษัท มีกองทุนให้เลือกหลายรูปแบบทั้งกองทุนลดหย่อนภาษีไปจนถึงกองทุนรวมปันผล สามารถซื้อ-ขาย กองทุนง่าย ผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติที่ผูกไว้กับ 9 ธนาคารชั้นนำ อีกทั้งยังมีข้อมูลข่าวสารทางการเงินเป็นความรู้ให้กับคุณอยู่เสมอทั้งบทวิเคราะห์รายวัน บทวิเคราะห์เชิงเทคนิค บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน รายงานกองทุนประจำสัปดาห์ จากผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ เริ่มลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ก็ลงทุนได้ทันที นอกจากนี้ RHB ยังมีเครื่องมือช่วยสแกนหุ้นคุณภาพ (RHB Signal) เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณลงทุนง่ายขึ้นอีกด้วย สมัครลงกองทุนรวมง่าย ๆ กับ RHB เริ่มเลย!

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา