รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่เจ้าของรถห้ามพลาด!
แรบบิท แคร์ รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าควรรู้มาฝาก พร้อมทั้งตอบคำถามหลากหลายประการ รถไฟฟ้าสามารถวิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ต้องใช้เวลาในการชาร์จกี่ชั่วโมง ? เครื่องชาร์จรถไฟฟ้ามีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร ? สามารถติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่บ้านได้หรือไม่ จะต้องทำการเลือกเครื่องชาร์จที่เหมาะสมอย่างไร ? แบตเตอรี่รถไฟฟ้าราคาแพงไหม ควรเลือกวิธีชาร์จแบบใดถึงจะช่วยให้แบตเตอรี่ชาร์จได้อย่างยาวนาน ?
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1 ครั้ง รถไฟฟ้า วิ่งได้กี่กิโล ?
สำหรับคำถามที่คนมักถามกันว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครั้งหนึ่งนั้นจะสามารถทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันเก่งของเราวิ่งได้กี่กิโลด้วยกัน จริง ๆ แล้วอาจไม่สามารถนับเป็นรอบการชาร์จได้ เพราะเช่นเดียวกับการเติมน้ำมันบางครั้งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งรอบนั้นก็ไม่ได้ชาร์จจนเต็มหรือเท่ากันทุกครั้งไป ดังนั้นอาจต้องตั้งคำถามว่าหากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารอบนั้น ๆ ชาร์จจนเต็มปริมาณความจุแบตเตอรี่จะสามารถวิ่งได้ทั้งหมดกี่กิโลเมตรนั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้วระยะทางที่รถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งไปได้ระยะทางไกลแค่ไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ การใช้พลังงานของรถยนต์ รวมไปถึงรูปแบบในการขับขี่ประกอบกัน ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้มีรถยนต์ไฟฟ้าผลิตออกมามากมายและมีความจุแบตเตอรี่แต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปจะมีความจุแบตเตอรี่อยู่ในช่วง 40-100 กิโลวัตต์/ชั่วโมง(kWh) หรือมากกว่าในบางรุ่น เนื่องด้วยปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการนี้ ทำให้เราไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจนเต็มความจุแบตเตอรี่จะทำให้สามารถขับขี่ไปได้ในระยะทางเท่าไหร่
เพียงแต่จะอนุมานให้แบบคร่าว ๆ หรือประมาณให้ได้ว่าหากรถยนต์ไฟฟ้าของคุณมีแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์ (kWh) และรถยนต์ไฟฟ้าของคุณมีการใช้พลังงานประมาณ 15 กิโลวัตต์ (kWh)/100 กิโลเมตร จะสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตรก่อนที่จะต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ในรอบถัดไป
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า-ชาร์จแบตรถยนต์ ใช้เวลากี่ชั่วโมง ?
สำหรับคนที่สงสัยว่าการชาร์จรถไฟฟ้านั้นจะต้องใช้เวลาทั้งหมดกี่ชั่วโมง มีวิธีชาร์จแบตรถยนต์ ให้เต็มเร็วหรือไม่ แรบบิท แคร์ ตอบได้ว่าในส่วนของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น มีทั้งแบบที่ใช้ระยะเวลาการชาร์จตั้งแต่ 40-60 นาที 6-8 ชั่วโมง ไปจนถึง 16 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือกชาร์จและเครื่องชาร์จที่เลือกใช้ ซึ่งจะอธิบายวิธีการชาร์จแบบต่าง ๆ อย่างละเอียดในหัวข้อถัดไป
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า-วิธีชาร์จแบตรถยนต์ ที่ถูกต้อง
Nissan ได้ให้ข้อมูลว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบด้วยกัน ซึ่งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละแบบก็จะมีลักษณะการชาร์จ จุดประสงค์ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และระยะเวลาที่ต้องใช้ที่แตกต่างกันไป โดยจะแบ่งออกเป็น
- การชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge) : เป็นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยจะชาร์จไฟฟ้าจากตัวเต้ารับโดยตรง หรืออาจอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าเป็นการเสียบชาร์จโดยตรงกับไฟบ้าน ซึ่งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในลักษณะนี้นั้นจะใช้เวลาในการชาร์จอยู่ที่ประมาณ 12-16 ชั่วโมง/ 1 รอบการชาร์จ
- การชาร์จแบบรวดเร็ว (Double Speed Charge) : การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าลักษณะนี้จะเป็นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากเครื่องชาร์จ หรือ EV Charger ซึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นจะมีโปรโมชันแถมมาให้พร้อมตัวรถ แต่หากไม่มีโปรโมชันดังกล่าวและต้องการก็สามารถซื้อเครื่อง EV Charger มาติดตั้งไว้ใช้ส่วนตัวในบ้านเพิ่มเองได้เช่นกัน และเวลาในการชาร์จอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง/ 1 รอบการชาร์จ
- การชาร์จแบบด่วน (Quick Charge) : เป็นลักษณะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งจะชาร์จไฟฟ้าเข้ากับแบตเตอรี่โดยตรง ซึ่งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยวิธีนี้นั้นจะใช้เวลาเพียง 40-60 นาที ก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้มากถึง 80% โดยการชาร์จลักษณะนี้นั้นจะเป็นการชาร์จที่ใช้กันโดยทั่วไปตามสถานีให้บริการต่าง ๆ ซึ่งผู้ชาร์จต้องการความรวดเร็วและไม่มีเวลามากพอที่จะทำการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงนั่นเอง
*ข้อควรระวังสำหรับการชาร์จแบบด่วน (Quick Charge) คืออาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่าการชาร์จแบบอื่น ๆ
แบตรถไฟฟ้า ราคาแพงหรือไม่ ?
แน่นอนว่าเมื่อต้องใช้แบตเตอรี่ชาร์จไฟมาเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน แบตเตอรี่จึงแทบจะเรียกได้ว่าเป็นชิ้นส่วนซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ชนิดนี้ และแน่นอนว่ายังเป็นชิ้นส่วนซึ่งมีราคาแพงเป็นอันดับต้น ๆ อีกด้วย
ดังนั้นผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงควรทะนุถนอมและใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือการขับขี่ รวมถึงให้ความสำคัญกับการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั่นเอง
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
ในส่วนของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น ปัจจุบันในประเทศไทยจะสามารถแบ่งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าได้ 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- เครื่องชาร์จแบบด่วน (Quick Charge) หรือ DC Charger ซึ่งเหมาะกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร่งด่วน ใช้ระยะเวลาในการชาร์จน้อยเนื่องจากเป็นการชาร์จไฟตรงเข้าสู่แบตเตอรี่โดยไม่ต้องผ่าน On Board Charger
- เครื่องชาร์จแบบ AC Charger ซึ่งเหมาะกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เร่งรีบ สามารถชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนหลังจากที่กลับบ้าน จึงมักจะนิยมติดตั้งเครื่องชาร์จชนิดนี้ไว้ที่บ้าน โดยการทำงานของที่ชาร์จแบบนี้ก็คือ เมื่อเสียบสายชาร์จกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่าน On-Board Charger ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า และแปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นกระแสตรงจากนั้นจึงจะค่อยชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ อีกทั้งการเลือกใช้เครื่องชาร์จชนิดนี้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังสามารถช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้ดีกว่าการชาร์จด้วย DC Charger อีกด้วย
การเลือกเครื่องชาร์จ-สายชาร์จรถไฟฟ้า ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
หลังจากที่ได้รู้จักเครื่องชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทรวมถึงทราบความแตกต่างกันพอสังเขปไปแล้ว สำหรับใครที่คิดว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านนั้นสะดวกสบายยิ่งกว่า อีกทั้งยังต้องการถนอมแบตเตอรี่อีกทางโดยการเลือกใช้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่อง AC Charger แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกแบบไหน แรบบิท แคร์ นำวิธีเลือกเบื้องต้นมาให้
- ตรวจสอบความสามารถในการรับไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ว่าสามารถรองรับกำลังไฟฟ้าสูงสุดได้มากเท่าไหร่ ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องใช้รูปแบบการรับไฟฟ้าแบบใด (แบบเฟส 1 เฟส 2 หรือ เฟส 3) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าผ่าน AC Charger จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ระดับ คือ 7 กิโลวัตต์ (kW) 11 กิโลวัตต์ (kW) และ 22 กิโลวัตต์ (kW)
- ทำการตรวจสอบว่าระบบไฟฟ้าภายในบ้านว่าเป็นระบบใด ขนาดเท่าไหร่ โดยสามารถเริ่มต้นตรวจสอบได้จากมิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านได้ จะมีระบุข้อมูลว่าภายในบ้านใช้ระบบไฟฟ้าแบบใด
- ทำการเลือกเครื่องชาร์จที่จะใช้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะกับกำลังไฟฟ้าของรถ ไม่จำเป็นต้องเลือกติดเครื่องใหญ่เสมอไป เพราะไม่ว่าจะติดเครื่องใหญ่แค่ไหนรถของคุณก็สามารถรับกำลังไฟฟ้าได้เท่าที่กำหนดไว้อยู่ดีไม่ได้มีผลต่อการชาร์จไวขึ้นแต่อย่างใด
- ทำการเลือกซื้อเครื่องชาร์จพร้อมรับบริการติดตั้งจากผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน มีบริการหลังการขายที่ดี เนื่องจากการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ราคาค่อนข้างสูง รวมถึงในภายภาคหน้าหากเครื่องชาร์จเกิดปัญหาขึ้นระหว่างการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะได้มีคนคอยให้ความดูแลช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
สิ่งที่ต้องคำนึงในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- ควรวางแผนในการชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าล่วงหน้าอยู่เสมอ
- หากนำรถไปชาร์จไฟที่สถานีบริการควรปฏิบัติตามกฎและรักษามารยาทในการใช้ร่วมกัน
- ให้ความสำคัญกับการเช็กสภาพรถให้พร้อมสำหรับการขับขี่ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง
หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากันไปมากมาย หลายคนก็คงหายคาใจในหลาย ๆ ข้อสงสัย แต่อีกสิ่งที่จะละเลยหรือลืมไปไม่ได้ก็คือเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าทุกคนต้องไม่ลืมที่จะซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า กับ แรบบิท แคร์ เอาไว้ อย่าปล่อยให้มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับรถไฟฟ้าคู่ใจ เพราะบอกได้เลยว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากเกิดสุดวิสัยค่าซ่อมแซมย่อมบานปลายมากจนเกินคาดเดา
ความคุ้มครองประกันรถยนต์