คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
ประกันรถเมืองไทยชั้น 2 มีกี่ประเภท?
ประกันรถเมืองไทยชั้น 2 ได้พัฒนาสู่ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มค่ากว่า ดังนี้
ประกันรถเมืองไทย ขับดียกกำลัง 8
- คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 เมืองไทยประกันภัย ที่ออกแบบมาเพื่อรถเก๋งเอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งจะให้ความคุ้มครองน้อยกว่าประกันชั้น 1 เพียงเล็กน้อย แต่จะมีจุดเด่นกว่าประเภทอื่นๆ คือ การชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างนำรถเข้าอู่
เมืองไทย 2+ พลัส
- ถือเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2 เมืองไทยประกันภัยประเภทหนึ่ง ที่ให้ความคุ้มครองค่อนข้างสูง โดยเป็นรองลงมาจากการทำประกันชั้น 1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมืองไทย 2+ เซฟ
- จะมีความคล้ายคลึงกับประกันรถเมืองไทยชั้น 2+ พลัส แต่จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ในส่วนของวงเงินการคุ้มครอง
ลูกค้าที่ทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 หากนำรถยนต์ไปตกแต่งเพิ่มจะต้องทำอย่างไรบ้าง?
สำหรับลูกค้าที่ทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 ไปแล้ว ต่อมาอยากติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพิ่มเติม เบื้องต้นลูกค้าจะต้องแจ้งกับทางบริษัทประกันให้รับทราบ พร้อมส่งรูปถ่าย และมูลค่ารายละเอียดของตกแต่งมาให้กับบริษัทประกัน เพื่อให้ทางบริษัทออกความคุ้มครองประกันรถยนต์เพิ่มเติมในส่วนอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมกำหนดวงเงินชดเชยอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ (โดยจะมีการเพิ่มราคาเบี้ยประกันไปด้วย) หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งแล้วไม่แจ้งให้บริษัททราบ ทางบริษัทจะให้ความคุ้มครองรถยนต์เฉพาะอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับโรงงานเท่านั้น แต่จะไม่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมกับอุปกรณ์ตกแต่ง
ประกันรถเมืองไทยชั้น 2 มีความคุ้มครองอย่างไร ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
ผลิตภัณฑ์ เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8 (เบี้ยประกันรถยนต์เริ่มต้นที่ 8,888 บาท) เป็นประกันรถเมืองไทยชั้น 2+ สำหรับรถเก๋งเอเชียโดยเฉพาะ โดยให้เงื่อนไขความคุ้มครองดังต่อไปนี้
- รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้โดยสารภายในรถเอาประกันภัย รวมถึงบุคคลภายนอก
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันภัย
- หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ เมื่อได้รับการคุมตัวในคดีกฎหมายอาญา
- รับผิดชอบความเสียหายรถคันที่เอาประกันภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์โดยมีคู่กรณีเท่านั้น
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ จากไฟไหม้ น้ำท่วม หรือแม้กรณีที่รถสูญหาย
- ได้รับเงินชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างนำรถเข้าซ่อม เมื่อได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุโดยที่ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก
ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง (เบี้ยประกันรถยนต์เริ่มต้นที่ 7,900 บาท) เป็นประกันรถเมืองไทยชั้น 2+ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยมีเงินทุนประกันภัยและอัตราค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป ทุนประกันภัยเริ่มต้นที่ 100,000 - 450,000 บาท และมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 7,900 - 11,100 บาทโดยจะให้ความคุ้มครองในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้โดยสารภายในรถเอาประกันภัย รวมถึงบุคคลภายนอก
- ได้รับการคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันภัย
- หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ หากได้รับการคุมตัวในคดีกฎหมายอาญา
- รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถคันที่เอาประกันภัย โดยต้องเป็นการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีคู่กรณีเพียงเท่านั้น
- รับผิดชอบเมื่อรถได้รับความเสียหาย จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย
- ความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
หากใช้รถยนต์ไม่บ่อย ทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 ดีหรือไม่?
ประกันชั้น 2 ไม่มีคู่กรณี เคลมได้ไหม อาจะเป็นคำถามที่คนมีรถสงสัย ต้องบอกเลยว่าประกันรถเมืองไทยขั้น 2 รวมถึง 2+ จากเมืองไทยประกันภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าหากคุณใช้รถยนต์น้อยครั้ง โอกาสที่จะเกิดการเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณี (ที่เป็นความคุ้มครองเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1) ก็น้อยครั้งด้วย ซึ่งการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ นั้น ก็จะช่วยประหยัดเบี้ยประกันภัยได้จำนวนมาก แต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองในส่วนสำคัญอย่างรถยนต์หาย รถยนต์ไฟไหม้ และการชนแบบมีคู่กรณีไว้อย่างครบถ้วน เรียกได้ว่าเป็นการลดความคุ้มครองที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยออกไปให้เบี้ยประหยัดขึ้นนั่นเอง
แต่ในทางกลับกัน แรบบิท แคร์ ขอแนะนำว่าความคุ้มครองเรื่องรถยนต์หายก็ยังคงมีความจำเป็น แม้ว่ารถยนต์ใช้งานไม่บ่อยจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อย แต่ก็ไม่ได้ลดโอกาสที่จะถูกโจรกรรม ดังนั้นอย่างน้อยก็ควรทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 ไว้เพื่อรับความคุ้มครองในส่วนนี้นั่นเอง
ลูกค้าประกันรถเมืองไทยชั้น 2 สามารถนำรถยนต์ไปซ่อมอู่ที่ไม่ได้อยู่ในเครือของบริษัทได้หรือไม่?
ลูกค้าประกันรถเมืองไทยสามารถนำรถยนต์ไปซ่อมอู่ที่ไม่ได้อยู่ในเครือของบริษัทได้ โดยการนำรถเข้าไปประเมินราคาค่าซ่อมกับอู่รถยนต์ที่ท่านเลือก จากนั้นให้นำใบเคลมและใบเสนอราคามาส่งให้กับทางบริษัทประกันภัย ซึ่งลูกค้าอาจต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิกเงินชดเชยกับทางบริษัทประกันทีหลัง ซึ่งกระบวนการนี้ทางแรบบิท แคร์ จะคอยช่วยประสานและอำนวยความสะดวกให้กับคุณ
ทั้งนี้แรบบิท แคร์ ขอแนะนำว่า หากเป็นไปได้ให้ลูกค้าประกันรถยนต์ชั้น 2 เมืองไทยประกันภัยเลือกซ่อมกับอู่ในเครือของบริษัทย่อมดีกว่า เนื่องจากเป็นอู่ที่ทางบริษัทได้คัดเลือกคุณภาพมาให้แล้ว และมีราคาค่าซ่อมไม่แพงจนเกินไป อีกทั้งยังแคร์ต่อเงินในกระเป๋าของคุณเพราะว่าไม่ต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมไปก่อน
ซื้อประกันรถเมืองไทยชั้น 2 หรือ 2+ ควรเลือกแผนประกันที่มีค่าความรับผิดส่วนแรกประมาณเท่าใด?
หลายคนอาจทราบกันแล้วว่า หากเลือกแผนประกันที่มีค่าความเสียส่วนแรกก็จะได้ส่วนลดราคาเบี้ยประกัน แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าหากทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 หรือ 2+ จะเลือกค่าความเสียหายส่วนแรกเท่าไหร่ดี แรบบิท แคร์ ขอแนะแนวทางให้ดังนี้
โดยทั่วไปผู้ที่เลือกทำประกันรถเมืองไทยชั้น 2 มักมีทักษะการขับขี่ที่ชำนาญในระดับนึง อาจลองตรวจสอบตนเองก่อนว่าขับขี่ชำนาญแค่ไหน หากคิดว่าตนเองมีความชำนาญมากขับขี่แทบไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย ก็แนะนำให้เลือกแผนประกันที่มีค่าความรับผิดส่วนแรกเยอะ ๆ เพื่อให้ได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน แต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจการขับขี่ของตนเองก็ให้เลือกแผนที่มีค่าความรับผิดส่วนแรกน้อยลงมา เพราะคุณอาจมีโอกาสเคลมบ่อยครั้งนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้าประกันรถยนต์ชั้น 2 เมืองไทยประกันภัย มีประสบการณ์ขับขี่มา 20 ปี โดยไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย ก็อาจเลือกจ่ายค่าความรับผิดส่วนแรกที่ 5,000 บาท แต่ถ้าผู้เอาประกันมีประสบการณ์ขับขี่มาแล้ว 5 ปี เคยเกิดอุบัติเหตุบ้าง ก็อาจเลือกจ่ายค่าความรับผิดส่วนแรกที่ 2,000 บาท เป็นต้น