ซื้อประกันรถยนต์แบบระบุรุ่น

อย่างที่เราทราบกันว่ารถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์มีราคาซื้อขายที่ไม่เท่ากัน บางรุ่นมีราคาแพงหลักล้าน บางรุ่นมีราคาหลักแสน หากรถแต่ละรุ่นเกิดความเสียหายและต้องซ่อมแซม ราคาค่าซ่อมจึงต่างกันไป

ทางบริษัทประกันภัยจะนำอัตราค่าซ่อมรถแต่ละรุ่นไปคิดคำนวนค่าเบี้ยประกันนั่นเอง ยิ่งรถที่มีราคาแพงเบี้ยประกันก็จะยิ่งแพง ส่วนรถที่มีราคาถูกเบี้ยประกันก็จะถูกลงตาม

ยกตัวอย่างเช่น เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ของรถ Toyota Camry ที่มีราคาขายอยู่ประมาณ 1 ล้านบาท ย่อมมีราคาแพงกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ของรถ Honda Jazz ที่มีราคาขายประมาณ 6 แสนบาท เนื่องจากค่าซ่อมและอะไหล่ของ รถ Toyota Camry มีมูลค่ามากกว่า

ราคาเบี้ยประกันรถยนต์แต่ละคัน ราคาไม่เท่ากัน รุ่นรถยนต์ก็เป็นปัจจัยที่นำมาคำนวน พร้อมกับปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้

• ยี่ห้อรถยนต์
• รุ่นรถยนต์
• อายุรถยนต์
• ทุนประกัน
• ประวัติการเคลมของรถยนต์ในปีที่ผ่านมา

โดยลูกค้าสามารถเช็คราคาเบี้ยประกันเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ หรือติดต่อ Call Center ที่เบอร์ 1438 ได้ตลอดทุกวัน 24 ชั่วโมง

ความแตกต่างสำหรับความคุ้มครองประกันรถยนต์แต่ละชั้น ดังนี้

• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + ซ่อมรถเรา (เคลมได้ทุกกรณี) + สูญหาย + ไฟไหม้
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + สูญหาย + ไฟไหม้ (กรณีเป็นฝ่ายผิดรถเราซ่อมเอง)
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + ซ่อมรถเรา *(เคลมได้เฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น) + สูญหาย + ไฟไหม้
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณีเท่านั้น
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ซ่อมเขา + ซ่อมรถเรา *(เคลมได้เฉพาะกรณี รถชนรถเท่านั้น)

หากคุณทำประกันรถยนต์แบบระบุรุ่นที่เป็นประกันชั้น 1 คุณสามารถทำเรื่องเคลมแบบไม่มีคู่กรณีได้ ประกันชั้น 1 ทุกแผนล้วนคุ้มครองความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี แต่ต้องจำไว้เสมอว่า การเคลมแบบนี้ทำได้เฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้น ประกันชั้นอื่นจะไม่สามารถเคลมได้

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเข้าซองจอดรถ แต่คุณพลาดถอยไปชนรั้วกั้นจนเกิดความเสียหาย คุณสามารถทำเรื่องเคลมได้ แต่ต้องจำไว้ว่าการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีบ่อยครั้งจะทำให้ประวัติของคุณเสีย หากมีการต่อประกันปีหน้าคุณอาจถูกบริษัทขึ้นราคาเบี้ยประกันภัยตามมา

หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ขอให้คุณตั้งสติให้ดีแล้วโทรหาบริษัทประกันทันที แจ้งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ทราบทั้งชื่อของคุณ และเลขทะเบียนรถ รวมถึงให้ข้อมูลว่ารถของคุณเกิดอุบัติเหตุที่ไหน เกิดเมื่อไหร่ หากเป็นไปได้ให้คุณถ่ายภาพหลักฐานและขอภาพจากกล้องวงจรปิดประกอบไว้ก่อน ประกันภัยบางแผนจะมีบริการส่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันมาช่วยเคลียร์เรื่องให้ด้วย

ส่วนการซ่อมรถ คุณสามารถส่งรถซ่อมกับอู่หรือศูนย์บริการที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันได้เลย โดยเตรียมหลักฐานต่าง ๆ ทั้งบัตรประชาชน สำเนาเล่มทะเบียน กรมธรรม์ประกันภัย และอาจแนบหลักฐานประกอบอื่น ๆ ที่ยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณประกอบด้วย

• บุคคลธรรมดา : สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนรถ, กรมธรรม์เดิม (ถ้ามี)
• บริษัทหรือ นิติบุคคล : สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนรถ, กรมธรรม์เดิม (ถ้ามี), หนังสือรับรองบริษัท