ต้องรู้!วิธีเช็คประกันรถยนต์-ต่อประกัน ทำอย่างไร แบบไหนคุ้ม?
จำได้ไหมว่าประกันของคุณกำลังจะหมดเมื่อไหร่?? ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราได้นำวิธีเช็คประกันรถยนต์หมดอายุมาฝาก ว่าหากอยากเช็กวันหมดอายุประกันรถยนต์ เพื่อวางแผนต่อประกันรถยนต์สามารถเช็กผ่านช่องทางใดได้บ้าง? เหมือนวิธีเช็คกรมธรรม์ ประกันชีวิตหรือไม่ รถเก่าอายุมากยังต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้อยู่รึเปล่าหรือต้องเป็นประกันชั้น 2 ? ส่วนใครเป็นคนขี้ลืมจำไม่ได้ว่าทำประกันไว้ที่ไหน จะต้องถึงขั้นทำใหม่เลยหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
วิธีเช็คประกันรถยนต์ ถ้าหมดอายุจะต้องทำอย่างไร มีวิธีไหนบ้าง?
เพราะชีวิตคนเรามีเรื่องที่อาจจะต้องจำมากมาย จนทำให้บางครั้งอาจจะมีอาการหลงลืมเรื่องจำเป็นอย่างการเช็คประกันรถยนต์ เพื่อเตรียมวางแผนต่อประกันรถยนต์ แรบบิท แคร์ รับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้จึงมีนำวิธีเช็คประกันรถยนต์มาฝากทุกคน จะมีวิธีเช็คประกันรถยนต์วิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย
วิธีเช็คประกันรถยนต์ เมื่อคุณจำไม่ได้ว่าทำกับที่ไหน
บางคนขับรถดีมีวินัย เลยไม่ได้ติดต่อกับประกันนาน จนลืมไปแล้วว่าเคยทำประกันไว้ที่ไหน จะมีวิธีไหนที่สามารถตรวจสอบข้อมูลการทำประกันได้บ้าง? ซึ่งข้อมูลการทำประกันของทุกท่านจะสามารถเช็กได้ ว่าแต่ละคนนั้นได้ทำประกันอะไร กับที่ไหน มีบันทึกไว้ในข้อมูลกลาง คุณสามารถตรวจสอบได้จาก 3 ช่องทางนี้
- 1. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โทร 1186 สายด่วนประกันภัย (แนะนำให้โทรปรึกษาในเวลาราชการ)
- 2. บริษัทประกันภัยรถยนต์ต่าง ๆ ก็สามารถให้เช็กข้อมูลการทำประกันได้ โดยวิธีการก็คือให้คุณลองนึกถึงบริษัทที่มีความเป็นไปได้ที่สุดที่คุณจะไปสมัคร จากนั้นก็ให้คุณลองติดต่อไปยังเบอร์ Call Center ของบริษัทนั้น ๆ และแจ้งความประสงค์ขอตรวจสอบข้อมูลการทำประกัน
- 3. ฐานข้อมูลกลางประกันวินาศภัย (TID) เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลกลางด้านประกันทุกประเภท เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างสะดวก คุณก็สามารถเข้าไปดูได้เช่นกัน
หากจำไม่ได้ว่าทำประกันรถยนต์ ให้ลองทำตามวิธีเช็คประกันรถยนต์เบื้องต้น ตามที่ได้แนะนำไป คุณก็จะได้ทราบถึงข้อมูลการทำประกันรถยนต์ของคุณแล้ว
วิธีเช็คประกันรถยนต์ว่าใกล้หมดอายุหรือยัง?
เมื่อรู้แล้วว่าประกันรถยนต์ของคุณทำกับที่ไหน ก็อย่าลืมที่จะเช็ควันหมดอายุของประกันด้วย เพื่อที่คุณจะได้ต่อสัญญาประกันอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีเช็คประกันรถยนต์ว่าใกล้หมดอายุแล้วหรือยังสามารถทำตามได้ ดังนี้
- 1. ตรวจสอบจากกรมธรรม์รถยนต์ เหมาะกับคนที่เก็บเอกสารกรมธรรม์ไว้กับตัว หรือไม่ได้ทำหายแต่อย่างใด สามารถตรวจสอบวันหมดอายุของประกันได้ที่หนังสือกรมธรรม์
- 2. วิธีเช็คประกันรถยนต์กับบริษัทประกันโดยตรง ทำที่ไหนก็ไปถามกับที่นั่นเลย ชัวร์สุดแน่นอน
- 3. วิธีเช็คประกันรถยนต์วันหมดอายุผ่านคปภ. เหมาะกับคนที่จะไม่ได้ว่าเคยทำประกันไว้ที่ไหน นอกจากจะถามเรื่องรายละเอียดประกันที่เคยทำแล้ว ก็ยังสามารถโทรถามเรื่องวันหมดอายุประกันได้อีกด้วย
รู้วิธิเช็คประกันรถยนต์แล้ว ต้องรู้!วิธีต่อประกันรถยนต์ ทำอย่างไร? ต่อแบบไหนคุ้มสุด!
เมื่อถึงช่วงเวลาในการต่อประกันรถยนต์ ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจอีกครั้ง หลายคนมักเกิดความลังเลหลาย ๆ อย่าง ซึ่งสิ่งที่คนใกล้จะต่อประกันรถยนต์มักลังเลมากที่สุด ไม่ใช่ลังเลว่าจะหยุดทำประกันดีไหม แต่เป็นเรื่องเลือกต่อกับประกันรถยนต์ที่เดิม หรือไปต่อกับประกันเจ้าใหม่ดีกันมากกว่า ดังนั้นเราจะมาช่วยเปรียบเทียบการต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิม กับการต่อประกันรถยนต์กับเจ้าใหม่ เจ้าไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด และวิธีต่อประกันรถยนต์เป็นอย่างไร
ประกันรถยนต์ที่เดิม vs ประกันรถยนต์ที่ใหม่
มาดูข้อดีของการต่อประกันที่เดิม และต่อประกันกับที่ใหม่ให้คุณได้เทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายไปซบที่ใหม่ดี
ข้อดีของการต่อประกันที่เดิม อันดับแรกเลยคือ “คุณจะได้ค่าเบี้ยที่ถูกลง” มีบริษัทประกันภัยหลายเจ้าที่ทำโปรโมชั่นนี้ เพื่อรักษาลูกค้าเก่าไว้ และยังเป็นการขอบคุณที่ให้เราได้ดูแล และอยากจะดูแลคุณต่อไป ด้วยการมอบส่วนลดในการต่อประกันรถยนต์ ให้กับคุณเพื่อที่คุณจะได้ใช้บริการต่อไป อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นส่วนลด หากปีที่ผ่านมาคุณไม่ได้มีการเคลม ก็อาจได้ส่วนลดตรงนี้ได้เช่นกัน
ข้อดีของการต่อประกันที่ใหม่ ส่วนมากคนที่ย้ายไปต่อประกันกับเจ้าใหม่ อาจไม่พอใจในการบริการ หรือเป็นการอยากลองของใหม่นั่นเอง ซึ่งส่วนมากแล้วคนมักจะเลือกการต่อประกันรถยนต์กับที่เจ้าเดิมมากกว่า หรือเหมาะกับคนที่เคลมบ่อย ๆ เมื่อถึงเวลาต่อสัญญากับประกันเจ้าเดิมค่าเบี้ยของคุณอาจเพิ่มขึ้น เลยเป็นสาเหตุให้ต้องเปลี่ยนประกันเจ้าใหม่ที่ค่าเบี้ยถูกกว่าเจ้าเดิม
ให้คุณลองเปรียบเทียบดูว่าแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน หากชอบความประหยัด เราแนะนำให้ต่อประกันรถยนต์ที่เจ้าเดิม แต่ถ้าเบื่อแล้วอยากลองที่ใหม่ ค่าเบี้ยเพิ่มขึ้นจากเดิม ก็ให้คุณเลือกต่อประกันรถยนต์กับเจ้าใหม่ดู เมื่อเลือกได้แล้วก็ไปดูวิธีต่อประกันรถยนต์กันต่อเลย ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
วิธีต่อประกันรถยนต์ที่เดิมและที่ใหม่ต่างกันอย่างไร?
มาเตรียมตัวให้พร้อมกับวิธีต่อประกันรถยนต์กันเถอะ ทั้งประกันรถยนต์เจ้าเดิมและประกันรถยนต์เจ้าใหม่ คุณจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
วิธีต่อประกันรถยนต์ที่เดิม ให้คุณติดต่อไปยังตัวแทนประกันที่เป็นคนดูแลคุณ หรือติดต่อที่บริษัทโดยตรง เพื่อทำเรื่องขอต่อประกัน โดยเอกสารที่ต้องเตรียมจะน้อยกว่าเอกสารในการยื่นขอครั้งแรกอีกด้วย
วิธีต่อประกันรถยนต์กับเจ้าใหม่ ให้คุณติดต่อไปยังตัวแทนบริษัทประกันเจ้าใหม่ เพื่อพูดคุยเรื่องการต่อประกันรถยนต์ และเลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อต่อประกันกับเจ้าใหม่ (สำหรับคนที่เคยทำประกันครั้งแรก) ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถหรือผู้ถือครองรถคันดังกล่าว
- สำเนาใบขับขี่ของผู้ดำเนินการต่อประกันรถยนต์
- สำเนาหนังสือการจดทะเบียนรถยนต์
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ฉบับปัจจุบันที่กำลังจะหมดอายุ หรืออาจใช้ใบเตือนการต่ออายุที่ทางบริษัทประกันภัยให้ไว้ก็ได้เช่นกัน
ต่อประกันล่วงหน้าดีอย่างไร?
ว่ากันว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการต่อประกันที่สุด คือการต่อประกันไว้ล่วงหน้านั่นเอง มาดูเหตุผลที่ทำไมเราถึงแนะนำให้คุณมาต่อประกันล่วงหน้า
คุ้มครองไม่ขาดตอน หากคุณมาตัดสินใจในช่วงที่ประกันหมดพอดี คงจะไม่ทันการณ์ หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่คุณเว้นช่วงประกันขึ้นมา คุณก็จะไม่มีประกันคอยช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ซึ่งอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว เพื่อเตรียมพร้อมที่จะตั้งรับกับความเสี่ยง ให้ทำประกันล่วงหน้าไว้ก่อนจะดีที่สุด
ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด การตัดสินใจอะไรที่ด่วน ๆ ผลลัพธ์มักจะออกมาไม่เวิร์กเท่าไหร่ การต่อประกันก็เช่นกัน หากคุณต่อประกันล่วงหน้าก่อนที่ความคุ้มครองจะหมด ถือว่าคุณได้มีการวางแผนมาอย่างดีแล้ว
รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้อยู่หรือไม่?
แม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ของบริษัทประกันส่วนใหญ่ทั่วไปมักจะรับทำประกันให้กับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปีเท่านั้น แต่บางบริษัทประกันภัยก็อาจจะมีการรับรถยนต์อายุถึง 9 ปีได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการต่ออายุประกันแบบต่อเนื่องกับบริษัทเดิม หรือบางบริษัทประกันก็อาจมีการพิจารณารับต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้เกิน 12 ปี แต่ก็ต้องพิจารณาคู่ไปกับประวัติของผู้เอาประกันด้วยว่า ถ้าเป็นลูกค้าประวัติดี ไม่ค่อยมีประวัติการเคลมก็อาจทำให้สามารถเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต่อไปได้อีก
นั่นก็หมายความว่าจริง ๆ แล้วรถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ต้องการจะต่อประกันชั้น 1 ก็สามารถทำได้นั่นเอง โดยจะมีโอกาสในกรณีที่ต่อประกันกับบริษัทเดิมและเข้าเกณฑ์เงื่อนไขของบริษัท แต่ถ้าหากต้องการทำประกันชั้น 1 กับบริษัทใหม่ และไม่เคยทำประกันรถยนต์ชั้น 1 มาก่อนเลย ก็คงจะเป็นเรื่องยากมากที่ประกันจะรับทำเพราะมองว่ามีรถของเราความเสี่ยงมากเกินไป อย่างไรก็ตามยังมีประกันอีกรูปแบบหนึ่งที่ตอบโจทย์กว่า คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก หมายถึง เราต้องสำรองจ่ายค่าเสียหายเองส่วนหนึ่งเองที่เรียกว่าค่าใช้จ่ายส่วนแรก เพื่อให้บริษัทประกันไม่ต้องแบกรับค่าซ่อมแซมทั้งหมดกับรถที่มีความเสี่ยงมากกว่าปกติ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบประกันรถยนต์ที่คุณสามารถเลือกทำทดแทนการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบปกติได้
ดังนั้นคำถามที่ว่า “รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้อยู่หรือไม่?” จึงเป็นคำถามที่ไม่ได้มีคำตอบที่เป็นตัวเลขตายตัว เพราะรถยนต์บางคันก็อาจจะสามารถที่จะต่ออายุประกันชั้น 1 ได้มากถึง 15 ปีกับบริษัทประกันเดิมเลยทีเดียว หากมีประวัติการขับขี่ดีและตรงตามเกณฑ์รับของแต่ละบริษัทประกัน แต่ทั้งนี้ก็คงต้องดูเรื่องความเหมาะสมและความคุ้มค่าที่จะเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับรถยนต์ที่มีอายุมากร่วมด้วย นั่นเป็นเพราะอายุรถยิ่งมาก ก็ยิ่งมีผลต่อทุนประกัน ซึ่งอายุรถเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงทุนประกันได้ และทุนประกันก็มีผลต่อราคาเบี้ยประกันโดยตรง โดยทุนประกันของประกันชั้น 1 จะลดลงทุก ๆ ปี ปีละ 10% เป็นค่าเสื่อมของรถยนต์ เท่ากับว่ายิ่งอายุรถเพิ่มเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลง เหมือนว่าจะดี แต่ด้วยความเป็นรถอายุเยอะจนต้องถามบริษัทอยู่บ่อย ๆ ว่ารถกี่ปีถึงทำประกันชั้น 1 ไม่ได้ ทุนประกันเริ่มต้นของกรมธรรม์ก็อาจไม่สูงมาก และถ้าเทียบกับทุนประกันที่น้อยกว่าในขณะที่ต้องจ่ายเบี้ยที่ค่อนข้างสูง การเลือกทำประกันระดับอื่นที่ความคุ้มครองใกล้เคียงกันแต่จ่ายเบี้ยน้อยลงก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าก็เป็นได้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร? รถแบบไหนที่เหมาะกับการทำประกันชั้น 1?
ส่วนใหญ่เราจะเห็นตามโชว์รูมรถทั่วไปที่มีโปรโมชันประกันชั้น 1 พ่วงมากับการออกรถป้ายแดงคันใหม่อยู่บ้าง กูรูหลายคนก็มักจะแนะนำให้คนที่เพิ่งออกรถใหม่ไปทำประกันชั้น 1 เพราะคุ้มค่าและรถยังอยู่ในสภาพ 100% เข้าเกณฑ์ แถมยังมีผลต่อเบี้ยประกันที่อาจจะทำให้เบี้ยประกันถูกลงด้วย นอกจากนี้รถควรเป็นยี่ห้อหรือรุ่นที่หาอะไหล่ได้ไม่ยาก ผู้เอาประกันภัยมีพฤติกรรมการขับรถดี เหมาะกับรถที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่ารถที่นาน ๆ จะเอาออกมาสักขับที ยิ่งถ้าหากอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญหายหรือประสบภัยพิบัติตามธรรมชาติก็จะยิ่งดี ส่วนเรื่องอายุรถบางบริษัทจะมีระบุไว้ชัดเจนว่ารถกี่ปีถึงทำประกันชั้น 1 ไม่ได้
เทคนิคดูแลรถยนต์อายุมากให้ทำประกันชั้น 1 ได้
- หมั่นตรวจเช็กสภาพรถตามรอบของแต่ละอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
- เช็คของเหลวในเครื่องยนต์ไม่ให้พร่อง และหมั่นทำความสะอาดห้องเครื่อง
- คอยสังเกตและฟังเสียงเครื่องยนต์สายพาน เบรก หรือพวงมาลัยเพื่อให้จับความผิดปกติได้เร็ว จะได้แก้ปัญหาก่อนลุกลามจนต้องซ่อมแซมครั้งใหญ่
- ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำทุก 6,000 – 8,000 ไมล์
- ทำความสะอาดอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์และเคลือบเงารถยนต์
- หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเพราะจะทำให้สีหมองดูเก่าและอุปกรณ์เสื่อมเร็ว
- ตรวจเช็กและทำความสะอาดแบตเตอรี่เป็นประจำสม่ำเสมอ หากพบรอยแตกร้าวรีบเปลี่ยนทันที
- เช็กสภาพของหัวเทียนทุกครั้งที่ขับรถได้ 48,000 – 64,000 กิโลเมตร หากพบว่ามีปัญหาติดต่อช่างให้เปลี่ยนหัวเทียนทันที
รถยนต์อายุเกิน 10 ปี ควรเลือกทำประกันแบบไหนจึงจะเหมาะสม?
อันที่จริงแล้วการทำประกันภาคสมัครใจ การตัดสินใจล้วนขึ้นอยู่กับเจ้าของรถยนต์ว่าอยากทำประกันแบบไหน ไม่มีถูกไม่มีผิด แต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยเรื่องความคุ้มค่าเหมือนที่กล่าวไปข้างต้นว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นดีที่สุดก็จริง แต่สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 10 ปีอาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากไม่ได้ต้องการความคุ้มครองรอบด้านทุกสถานการณ์ขนาดนั้น การมองหาประกันระดับรอง ๆ ลงมาดูก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเช่นกันที่จะได้รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องกังวลว่ารถกี่ปีถึงทำประกันชั้น 1 ไม่ได้
- ประกันชั้น 2+ เป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมรองมาจากชั้น 1 แต่จะเคลมได้เฉพาะกรณีมีคู่กรณีเท่านั้น แต่ถ้าชนอย่างอื่นเราก็ต้องจ่ายเอง
- ประกันรถยนต์ 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง จะถูกกว่า 2+ เล็กน้อย แต่จะแตกต่างกับ 2+ ตรงที่ไม่มีการคุ้มครองกรณีถูกขโมยรถ
- ราคาประกันชั้น3 เป็นประกันที่จะคุ้มครองเฉพาะครองคู่กรณีเท่านั้น เหมาะกับคนใช้รถน้อยและไม่อยากเสียเงินค่าประกันมาก
ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่าลืม!เลือกแรบบิท แคร์
รู้วิธีเช็คประกันรถยนต์และวิธีต่อประกันรถยนต์กันแล้ว ถ้าหากคุณต้องการจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุณสามารถเข้ามาเลือกซื้อประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำคุณภาพได้ที่แรบบิท แคร์ เช็คประกันรถยนต์ชั้น 1 นอกจากผลประโยชน์ความคุ้มครองด้านการประกันภัยที่คุณจะได้รับแล้ว แรบบิท แคร์ ยังมีบริการพิเศษอีกมากมายที่คุณจะได้รับ ดังนี้
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน : มีเจ้าหน้าที่จะคอยให้ความช่วยเหลือคุณเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน
- บริการรถยถ รถลาก ฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง : พร้อมแสตนด์บายบริการคุณเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน
- บริการช่วยเหลือแจ้งเคลม : หมดห่วงเรื่องการแจ้งเคลม เคลมง่าย เคลมสะดวกผ่าน Line Official Account
- บริการรถใช้ทดแทนระหว่างซ่อม : บริการเช่ารถสำรอง 3 วัน เมื่อรถยนต์ของคุณต้องเข้าศูนย์ซ่อมจากการเกิดอุบัติเหตุ
- ศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศ : ทำประกันรถยนต์กับแรบบิท แคร์อยากซ่อมรถแบบไหน ที่ไหน คุณสามารถเลือกได้เลย เรามีศูนย์บริการให้เลือกทั่วประเทศไทย
- บริการชดเชยค่าเดินทางกลับบ้าน : หายห่วง!แม้รถยนต์ของคุณจะอยู่ระหว่างการเข้าอู่ซ่อม เรามีบริการชดเชยค่าเดนทางกลับบ้านให้สูงสุด 500 บาท (2ครั้ง/ปี)
และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากแรบบิท แคร์อีกมากมาย รู้วิธีเช็คประกันรถยนต์แล้ว รู้วิธีต่อประกันรถยนต์แล้ว อย่าลืม!มาซื้อประกันรถยนต์จากบริษัทประกันคุณภาพจากแรบบิท แคร์!
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์